ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“บิ๊กเจ๊”หนาวๆร้อนๆ!! “ประธานกุ้ย”คอนเฟิร์ม “คดีจีทูเจ๊ ลอต 2”มี “ผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม”ตั้งการ์ดสูงไม่รับ ไม่ปัด มี“ทักษิณแอนด์เครือญาติ”ไหม สอดรับเสียงลือ“บุญทรง”พูดบางอย่างถึงบางคน อีกทางหน่วยปราบโกง ไล่ “เส้นทางการเงิน”ปลายขบวนการ หล่นบ้านไหน เห็นว่า“บิ๊กบอส”น่าจะสาวไม่ถึง แต่ “บิ๊กเจ๊”ไม่น่ารอด
อาการไม่สู้ดี .. “เสี่ยฮุก”บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่พกอาการป่วยก่อนเข้าซังเต ต้องโทษจำคุก 42 ปี ในคดีทุจริตระบายข้าว “จีทูเจ๊” .. ตั้งแต่ต้องโทษทัณฑ์ก็โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง-ต้นคอเคลื่อนกำเริบหนัก เข้าๆ ออกๆ รพ.ราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ เป็นว่าเล่น .. ล่าสุดวิกฤตหนัก ต้องส่งไปผ่าตัดรักษาอาการ ที่รพ.ตำรวจ ไม่งั้นจะเสี่ยง“อัมพฤกษ์-อัมพาต”ถาวร .. ประจวบเหมาะพอดี กับ“เสียงลือเสียงเล่าอ้าง”ว่า “เสี่ยฮุก”ที่เคยลั่นวาจาถึงเบื้องลึก-เบื้องหลังคดี “จีทูเจ๊”ว่า “กูพูดไม่ได้”เปลี่ยนใจ “พูดบางอย่าง”ออกมาแล้ว .. เสียงลือสะพัดหนัก จน นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายตระกูลชินฯ ต้องออกมา“ตีปลาหน้าไซ”ว่า ป.ป.ช.เล่นไม่ซื่อ จะรื้อคดีจำนำข้าว ช่วงเลือกตั้ง .. หวังโชว์ออฟ บล๊อก“ลูกชิ่ง”ที่อาจกระทบไปถึงระดับ “บิ๊กบอส - บิ๊กเจ๊”ด้วยรู้ดีว่า เบื้องหลังไปโยงไปถึงใครบ้าง .. ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้เป็นการ“รื้อ” หากแต่เป็นการดำเนินคดี “จีทูจี-จีทูเจี๊ยะ-จีทูเจ๊”ที่ยังมีอยู่อีก ลอตในชั้น ป.ป.ช. ..
อัพเดตให้ชื่นใจจาก “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ที่บอกว่า ตอนนี้มีอนุกรรมการ 2 ชุดร่วมกันไต่สวน “คดีข้าวลอต 2”อยู่ .. ปรากฏว่ามี “ผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม”จึงชงเข้าสู่ที่บอร์ดใหญ่ป.ป.ช. ขอมติไต่สวนเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง .. ยิงคำถามกันตรงๆว่า“ผู้ถูกกกล่าวหาเพิ่มเติม”มีที่ชื่อละม้ายคล้ายทักษิณ ชินวัตร หรือคนในตระกูลชินวัตร บ้างไหม จากคำกล่าวอ้างที่เคยมีคนว่าไว้ “จำเลยหลายรายในเรือนจำให้การซัดทอดถึงทักษิณ และเครือญาติ” ..“ประธานกุ้ย”ก็เป็นมวย ตั้งการ์ดสูง ไม่รับ ไม่ปฏิเสธ ฟังแบบนี้ “คนในข่าว”คงไม่สบายใจ .. ด้วยทุกคนต่างเชื่อกันว่า คดี“จำนำข้าว-จีทูเจี๊ยะ”มันมีเบื้องหลังที่ใหญ่กว่า “บุญทรง”และยังใหญ่กว่า “คุณหนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นไหนๆ .. ว่ากันว่า“กุญแจดอกสำคัญ”ของคดีในลอต 2 ไม่ได้อยู่ที่ “ข้อสั่งการ”ที่เป็นทางการอย่างเดียว แต่เน้นๆไปที่ “เส้นทางการเงิน”ของปลายขบวนการไปหล่นอยู่ที่บ้านไหน .. ส่วนตัว “บิ๊กบอส”นั้นอยู่ไกลเกินกว่าจะรู้เห็น ว่าอะไรเป็นอะไร ที่สาวไปถึงแบบเน้นๆ เป็น “บิ๊กเจ๊”ที่ทุกคนรู้ดีว่าใคร .. เดาไม่ค่อยยาก เพราะทุกคนก็รู้ว่า “บุญทรง”เป็นเด็กบ้านไหน สายตรงของใคร .. ขีดเส้นใต้หนาๆ ที่ “บิ๊กกุ้ย”บอกว่า คดีลอตสุดท้าย จะเข้าสู่การพิจารณาวินิจฉัยได้ช่วงปลายปีนี้ .. อาจจะเป็นเหตุผลที่ “ทักษิณ”ต้องสั่งพับแผนสร้างอาณาจักร “บัวบาน”อย่าง “พรรคเพื่อธรรม”ไว้ชั่วคราว เกรงว่าจะเป็นการส่งสัญญาณ“ท้ารบ”จนเกินไปกระมัง.
**ยื่นขอได้-จดไม่ได้!! “สนธิรัตน์”ตัดจบปมร้อน “สิทธิบัตรกัญชา”ยันกฎหมายทำไม่ได้ หากกม.ปลดล็อกเพื่อการแพทย์ผ่าน ทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิที่จะวิจัย-นำมาใช้ประโยชน์ พร้อมผลักดัน“กัญชา”เป็น“พืชเศรษฐกิจ” เผย “บ.สัญชาติญี่ปุ่น-อังกฤษ”ยื่นเรื่องคาไว้กับ “กรมทรัพย์สินทางปัญญา”ตั้งแต่ปี 2553
ด้วยความห่วงใย .. คุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 1 ในบอร์ดกรรมการพิจารณากัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ออกมาร้องทัก .. ด้วยมีข้อมูลว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาดันไปรับเรื่อง“บริษัทต่างชาติ”ยื่นจดสิทธิบัตรสารจากกัญชาเอาไว้ .. เกรงกันว่าที่ “บริษัทนอก”ยื่นเรื่องค้ำไว้ ถึงไม่ผ่านการอนุมัติ แต่กฎหมายถือว่าได้รับการคุ้มครอง .. อิหรอบนี้ถ้า ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด ฉบับใหม่ ที่ปลดล็อก “กัญชาเพื่อการแพทย์”คลอดออกมา “การแพทย์ไทย-คนไทย”เสียประโยชน์ทันที .. เนื่องจากมี “บริษัทต่างชาติ”ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติไว้แล้ว .. ข้อเสนอของ“หมอธีระวัฒน์”อยากให้ “กรมทรัพย์สินฯ”ยกเลิกคำขอเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับงานวิจัยกัญชารักษามะเร็งในอนาคต .. ทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินฯ ก็เลยต้องออกมารับหน้า ชี้แจงว่า มีการยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรับไว้ เพื่อพิจารณาตรวจสอบสิทธิบัตร แต่ไม่ได้หมายความว่า คำขอที่ได้รับไว้นั้นจะได้รับการจดสิทธิบัตร .. มีข้อมูลระบุด้วยว่า การยื่นจดสิทธิบัตร “สารสกัดกัญชา”ที่ค้างในระบบกรมทรัพย์สินฯนั้น เป็นคำร้องร่วมกันของ“บ.สัญชาติญี่ปุ่น-อังกฤษ”ที่ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2553 นู่น .. ตามขั้นตอนเพิ่งมาประกาศโฆษณา เมื่อเดือน มิ.ย.59 นี่เอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ทรัพย์สินทางปัญญา ใน “มาตรา 9 วรรคหนึ่ง”ระบุชัดว่า ห้ามไม่ให้จดสิทธิบัตรสารสกัดจากพืชอยู่แล้ว .. หมายความว่า ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสามารถเป็นเจ้าของสิทธิใน“สารสกัดกัญชา”ได้อยู่แล้ว ..
เพื่อให้เคลียร์คัทชัดเจน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ก็ต้องออกมายืนยันอีกคำรบว่า ตาม “กฎหมายทรัย์สินทางปัญญา”ไม่คุ้มครองจุลชีพของพืช-สัตว์ การยื่นจดสิทธิบัตร “สารสกัดกัญชา”ที่มาจากธรรมชาติ จึงไม่ได้รับการคุ้มครอง .. พร้อมยืนยันให้อุ่นใจว่า สิทธิบัตรไม่สามารถจดให้กับต่างชาติได้ เพราะตามกฎหมาย ทำไม่ได้ .. “หากกฎหมายของไทยชัดเจนและอนุญาตให้กัญชาเป็นพืชที่ไม่ผิดกฎหมาย นักวิจัยไทย มีสิทธิที่จะนำสารสกัดเหล่านี้มาวิจัยและพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าในอนาคตได้”คำยืนยันจาก “สนธิรัตน์” ..อันเป็นจุดยืนของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะผลักดันให้“กัญชา”เป็น “พืชเศรษฐกิจ”อยู่แล้ว .. ตัดจบดรามาไว้ที่ว่า หากกฎหมายผ่าน ทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิที่จะ วิจัย-นำ“กัญชา”มาใช้ประโยชน์ได้แน่นอน .. ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรมทรัพย์สินฯ“ปล่อยผ่าน”ให้มีการยื่นขอจดสิทธิบัตรกัญชาได้อย่างไรนั้น คงต้องไป “ไล่เบี้ย”กันอีกที
** ดาเมจรุนแรง !! “น้องจินนี่”ลูกสาว“แม่หน่อย”พลานุภาพ “หมวยอินเตอร์”ทำหนุ่มๆ ใจละลาย แห่โพสต์ “ไม่เลือกเพื่อไทย จะกาเพื่อเธอ”พร้อมสโลแกน “สิบอภิสิทธิ์ ร้อยทักษิณ หมื่นลุงกำนัน แสนธนาธร ก็มิอาจสั่นคลอนเราได้”ขนาด “พานทองแท้”ยังต้องเกาะกระแส ชาวเน็ตแซะ“ธนาธร”เรตติ้งวัยโจ๋พังพินาจ หลังเจอดรามา“แคปเฌอ”ต่อด้วย ดาเมจ “น้องจินนี่”เข้าไป
เป็นที่รู้จักชั่วข้ามคืน ..“จินนี่”ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวคนสวยของ “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำอดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่ตามคุณแม่ไปลงพื้นที่ ที่ห้างดังวันก่อน .. ภาษาวัยรุ่นเรียกแบบนี้ว่า “ดาเมจแรง”ที่มาจาก Damage หรือทำให้เสียหายในภาษาอังกฤษ แต่ “ดาเมจ”ในที่นี้ ทำเอาหนุ่มๆ ใจละลายมากกว่า .. พลานุภาพของ “สาวจินนี่”ในวัย 19 กับลุคส์ เก๋ๆ ขาว สวย หมวยอินเตอร์ เสื้อผ้าหน้าผม ที่ดูน่าเอ็นดู แถมยังเป็น “สาวแว่น ผมยาว เหล็กดัด”ถูกสเปกหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่หลายคน .. ภาพแม่ลูกถูกนำไปแชร์ต่อๆ กันผ่านสังคมออนไลน์ แฟนเพจเฟซบุ๊กต่างๆ สนั่นหวั่นไหวไปหมด พร้อมแนะนำว่าคือ“ลูกสาวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเพื่อเธอ เอ้ย ! พรรคเพื่อไทย” ..ขนาด “เพจการเมืองสายดาร์ก” บางแห่งที่เคยจิกกัด ด่าทอไปทั่ว ยังขึ้นสเตเตัสเกี่ยวกับ “หนูจินนี่”ด้วยความมุ้งมิ้ง ขัดคาแรกเตอร์เพจเอง .. ไม่เท่านั้นยังมีการผุดเพจใหม่ขึ้นมาในเชื่อ “พรรคเพื่อเธอ”ที่เจาะจงตั้งขึ้นมา ขยายความน่ารักของ “ลูกแม่หน่อย”โดยเฉพาะ .. ลูกเพจบางคนยังคิดสโลแกนให้เสร็จสรรพว่า “สิบอภิสิทธิ์ ร้อยทักษิณ หมื่นลุงกำนัน แสนธนาธร ก็มิอาจสั่นคลอน อุดมการณ์ของพรรคเราได้”พร้อมด้วยภาพอิริยาบถต่างๆ ของ “น้องจินนี่”..หรือบางคนก็ยืมคำศัพท์วงไอดอลดัง BNK48 มาใช้ว่าเป็น “โอชิจินนี่”กระทั่งขอเปลี่ยน“บัตรเลือกตั้ง”เป็น “บัตรจับมือ”ก็มี ..
ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือตั้งใจ แต่ก็ถือเป็น“ไม้เด็ด”ของ“เจ๊หน่อย”ที่หวังเจาะฐาน “คนรุ่นใหม่”แบบไม่ต้องทำอะไรมาก .. ที่โดน“ดาเมจ” เข้าอย่างจังๆ ก็ “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เพิ่งเจอ “เฌอปรางเอฟเฟกต์”ไปหมาดๆ .. อุตส่าห์โชว์วิชั่น เจาะกลุ่มวัยรุ่นมาตั้งนาน เรตติ้งพังทลายทันที หลังการปรากฏตัวของ“น้องจินนี่”.. ด้วย “ติ่งธนาธร”ดูจะแสดงออกชัดเจนที่สุดกับปรากฏการณ์ “หมวยจินนี่”หลายคนโพสต์แซว “ธนาธร เราขอโทษ” ..หรืออย่าง “ลูกบิ๊กบอส”พานทองแท้ ชินวัตร ทายาท ทักษิณ ชินวัตร ก็อดเกาะกระแสไม่ได้ รีทวีต ข่าวของ“น้องจินนี่” พร้อมทวีตข้อความว่า “หลงเรียกเจ๊หน่อยมานานแท้จะกลับตัวมาเรียกแม่ ก็วันนี้ล่ะ ฮิ้วววว..!” .. นับเป็น“อาวุธลับ”ของ “เจ๊หน่อย”หากถึงเวลาหาเสียง เที่ยวควงลูกสาวลงพื้นที่ อย่างน้อยก็สร้างกระแสได้ไม่มากก็น้อย .. มีคนเล่าย้อนให้ฟังว่า การเมืองไทยก็เคยมีตำนาน “หมวยฟีเวอร์”มาหนหนึ่ง เมื่อครั้ง “หมวยเหน่ง”อรทัย กาญจนชูศักดิ์ ทายาท “เสี่ยส่ง กาญจนชูศักดิ์”ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก ที่เขต 2 กทม. ในนามพรรคพลังธรรม เมื่อปี 2538 .. แม้จะมีเพื่อร่วมทีมอย่าง ทักษิณ ชินวัตร แต่ส่วนตัว“อรทัย”ก็สร้างกระแส “หมวยฟีเวอร์”ที่หนักขนาดมีการแอบเก็บ “โปสเตอร์หาเสียง”กันเป็นว่าเล่น .. ก่อนนำมาซึ่งปรากฏการณ์ “ล้มช้าง”ที่ “หมวยเหน่ง”เอาชนะ ปู่มารุต บุนนาค นักการเมืองรุ่นเก๋า ดีกรีประธานรัฐสภา จากพรรคประชาธิปัตย์ ไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย .. เสียดายก็แต่ “หนูจินนี่”ที่แย้มๆ ว่า สนใจการเมืองเหมือนกัน แต่ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่งั้นคงมี“หมวยฟีเวอร์ ภาค 2”.
ช.ชฎา
