“อลงกรณ์” ประกาศ 3 จุดยืนตอบโจทย์ใหญ่การเมือง ไม่บอยคอตเลือกตั้ง ให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรบ.และไม่ยอมรับนายกฯคนนอก ชี้ เป็นชนวนสร้างวิกฤตอีกครั้ง
วันนี้ (14 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่เป็นหลักของประเทศ ทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนต้องการความชัดเจนในจุดยืนของผู้นำพรรคเกี่ยวกับท่าทีต่อการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลและประเด็นนายกรัฐมนตรีคนนอก วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีหัวหน้าพรรค เพราะอยู่ระหว่างการเลือกหัวหน้าพรรคมีแต่รักษาการหัวหน้าพรรคและผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค 3 ท่าน ซึ่งก็คือว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป ดังนั้น ความเห็นใดๆ ของผู้สมัครทั้ง 3 ท่านจึงเป็นจุดยืนของว่าที่หัวหน้าพรรคซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชาขนและสมาชิกจะได้ทราบจุดยืนของแต่ละท่าน
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ตนขอแถลงแสดงจุดยืนและท่าทีทางการเมืองใน 3 เรื่องใหญ่ ที่มีความสำคัญต่อการเมืองไทยและอนาคตของประเทศ คือ จุดยืนต่อการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของตนจะร่วมแข่งขันในการเลือกตั้งตามกฎหมายและกติกาอย่างสุภาพบุรุษโดยจะไม่มีการขัดขวางหรือบอยคอตการเลือกตั้งในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค
“เราพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ ตามเจตนารมณ์ของประชาชน เมื่อแพ้ก็ปรับปรุงตัวเองให้เป็นทางเลือกที่ดีจนกว่าจะชนะใจประชาชนด้วยแนวทางการเมืองสีขาว 456 ของประชาธิปัตย์ยุคใหม่”
ส่วนจุดยืนต่อการจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของตนจะเคารพสิทธิพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่งให้มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อนตามครรลองประชาธิปไตยเพื่อแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์เคารพเสียงของประชาชนและต้องพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลบนความชอบธรรมเท่านั้น และจุดยืนต่อนายกรัฐมนตรีคนนอก คือ พรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของตนไม่รับนายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะจะเป็นชนวนก่อวิกฤติการณ์ทางการเมืองครั้งใหญ่
“ผมจะไม่ยอมให้ประเทศต้องจมปลักอยู่กับความแตกแยกขัดแย้งอีกต่อไป ผมจะไม่ยอมให้ประชาชนของเราไม่ว่าจะคิดต่างกันอย่างไรต้องเสียชีวิตและเลือดเนื้ออีกต่อไป ประเทศบอบช้ำมามากแล้ว วันนี้เป็นวันครบรอบ 45 ปี ของเหตุการณ์ 14 ตุลาวิปโยค เป็นบทเรียนที่จะต้องไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาธิปไตย เหมือนพี่น้องคนไทยทุกคน จึงต้องป้องกันมิให้ประเทศของเราเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งควรเป็นการเลือกตั้งแห่งความหวังที่จะเริ่มเดินหน้าประเทศสู่อนาคตที่ดีขึ้นเพื่อคนไทยทุกคน” นายอลงกรณ์ กล่าว
