xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” ลุยเมืองกรุงทดสอบเสียงเชียร์-ชูบทบาท 3 ขุนพลใหม่ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา



หากพิจารณาจากกำหนดการที่มีการเผยแพร่ออกมาจะรู้ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการไปตรวจราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เช้าโดยเริ่มที่สวนลุมพินีร่วมออกกำลังกายกับชาวบ้าน จากนั้นก็เดินมานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปหัวลำโพงไปเยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แล้วลงเรือไปทางคลองผดุงกรุงเกษมปลายทางไปออกไปที่เทเวศร์ ช่วยโปรโมตโครงการการคมนาคม “ล้อ-ราง-เรือ”

แน่นอนว่า สำหรับพื้นที่ในเมืองกรุงครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่สองสำหรับการเยี่ยมเยียน หรือที่เรียกว่าไปตรวจราชการ โดยก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินทางเยี่ยมเยียนทางฝั่งธนบุรีมาแล้ว หากครั้งนี้เป็นพื้นที่ในฝั่งพระนครก็ถือว่าครบวงจร

ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่สามารถเดินสายไปตรวจราชการ ไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรทั่วประเทศ หลายจังหวัดในรอบเกือบ 5 ปี ถือว่าเขาได้เดินทางไปหลายพันกิโลเมตรแล้ว

อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะหลัง มีการคาดการณ์กันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ “ไปต่อ” จะกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ทำให้ถูกจับตามอง เพ่งเล็ง โดยเฉพาะพวกพรรคการเมือง นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามพยายามโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหาว่า “เอาเปรียบ” โดยเปลี่ยนบทบาทจากกรรมการลงมาเป็นผู้เล่นลงมาแข่งขันเอง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการลงสนามการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ได้ประกาศให้ชัดเจนอย่างเป็นทางการ เพียงแค่ประกาศว่า “ผมสนใจการเมือง” ก็ทำให้เกิดแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่อยากให้ “อยู่ในอำนาจ” ต่อเนื่อง เพราะตามเส้นทางเฉพาะหน้าตามกติกาใหม่ที่กำหนดในบทเฉพาะกาลในช่วงที่เรียกว่า “เปลี่ยนผ่าน” กำหนดเอาไว้ 5 ปี มันก็ย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงถึงขั้นหายนะกันเลยทีเดียว หากพิจารณาจากฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะกับฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้อยู่ต่อมันจะเกิดหายนะแค่ไหนลองหลับตานึกภาพได้ทันที

วกมาที่เมืองกรุงที่คราวนี้เป็นการตะลอนทัวร์ที่เริ่มตั้งแต่มีกิจกรรมที่สวนลุมพินี มีการร่วมออกกำลังกายกับชาวบ้าน แล้วมานั้งรถไฟใต้ดิน ดูความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีหัวลำโพง แล้วลงเรือไปเทเวศร์ ตั้งแต่เช้ายันเที่ยง หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่านี่เป็นกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับคนกรุงเทพฯ เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่สัมผัสพบเจอกันอยุ่ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ เรื่องการจรจรติดขัด ซึ่งเดาทางได้ล่วงหน้าเลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเน้นย้ำให้เห็นถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะการผลักดันโครงการก่อสร้าง

รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได่อย่างครบวงจร แม้ว่าเวลานี้การจราจรจะติดขัดแสนสาหัส แต่หากทนรออีกไม่กี่ปี เมื่อทุกโครงการก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้บริการได้ เมื่อนั้นก็จะเห็นกรุงเทพฯจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

แน่นอนว่า หากพิจารณากันแบบตรงไปตรงมาก็ต้องบอกว่างานนี้แฝงไปด้วยการ “หาเสียง” ไม่ต่างจากการ “กระชับพื้นที่” ฐานเสียงในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะว่าไปแล้วมีมวลชนที่สนับสนุนเขาอยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากรายชื่อคนติดตามและเจ้าหน้าที่ต้อนรับและรายงานสรุปให้ฟังรวมไปถึงความเข้าใจที่ว่าพรรคพลังประชารัฐที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มันก็ยิ่งชัดเจน ไม่ต่างจากการชูบทบาทของ “ขุนพลรุ่นใหม่” ของพรรคที่แยกย้ายกันดำรงตำแหน่งการเมือง

เท่าที่มองเห็นก็มี นายสกลธี ภัททิยกุล ในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ทำหน้าที่รายงานโครงการ “รถ-ราง-เรือ” ให้นายกรัฐมนตรีอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่รับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมืองอีกด้วย ก็ต้องตามติดเป็นเงาแน่นอน นอกเหนือจากนี้ ยังมี นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ที่แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งการเมือง แต่ก็มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเหมือนกับสองรายแรและเปิดตัวบนเวทีกันไปแล้ว

หากมองกันในทางการเมืองการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นอกเหนือจากการลงพื้นที่พบคนกรุงเพื่อ “กระชับฐานเสียง” แล้ว อีกด้านหนึ่งมันก็เป็นการเปิดตัวชูบทบาทของ 3 ขุนพลรุ่นหนุ่มของพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องไม่ลืมว่าพวกเขาทั้งสามคนล้วนเป็นอดีต ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ มาก่อน เพียงแค่นี้ก็พอมองเห็นภาพได้ไม่ยาก !!


กำลังโหลดความคิดเห็น