xs
xsm
sm
md
lg

ไม่น่าให้ราคา!! “ประยุทธ์”ชักมัน เปิดศึก “หัวหงอก - หัวดำ”ไปทั่ว **ออกลายงูเห่า!! “สามมิตร”ออกลูกพลิ้วไม่ร่วมเปิดตัว “พลังประชารัฐ”ตามนัด **แผนลึกยึด กสทช. (อีกซักตอน)!! กางแผน “น้ำลอดใต้ทราย”เดินเกมเงียบ ยึด“ซอยสายลม”

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ไม่น่าให้ราคา!! “ประยุทธ์”ชักมัน เปิดศึก “หัวหงอก - หัวดำ”ไปทั่ว เพิ่งโซ้ยกับ “ผู้เฒ่าเสนาะ”ไปหยกๆ ลดรุ่นลงไปชกกับ“ธนาธร” เถ้าแก่อนาคตใหม่ ที่ไม่น่าต้องเสียเวลาไปต่อล้อต่อเถียงด้วย สู้เอาเวลาไปปรับจูน สร้างผลงานปังๆ โดยเฉพาะ“วาระปราบโกง - วาระปฏิรูป”ปิดจุดอ่อน ก่อนถึงเลือกตั้ง จะดีกว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหงอก หัวดํา โดนหมด .. วันก่อนยังตอบโต้ “ข้ามรุ่น”กับ “ผู้เฒ่าไดโนเสาร์”เสนาะ เทียนทอง ไปแบบเจ็บๆ คันๆ ไล่ส่ง“แก่แล้วก็พักผ่อนดีกว่า”หยกๆ .. แค่ข้ามวัน “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหารผู้สนใจงานการเมือง ก็เปลี่ยนรุ่น-ลดอายุ ไปพาดพิง “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าอนาคตใหม่ ซะแล้ว .. อาศัยช่วงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตไทย อนาคตเรา”ที่กล่าวท้าทาย ในทำนอง ให้คนที่เอาคำว่า “อนาคต”ไปตั้งเป็นชื่อพรรค ให้มาพูดเรื่อง“อนาคตชาติ”แข่งกัน .. เหมือนเขี่ยลูกไปเข้าทาง “เสี่ยเอก”ที่ใช้โซเชียลฯ สวนกลับเหมือนกัน ประมาณว่า “ควรถึงเวลาที่เราจะหยุดไปท้าแข่งใครพูดยาวๆ แต่มาทำงาน ออกนโยบายแข่งกัน น่าจะมีอนาคตกว่าครับ”..เป็นอีกสีสัน ที่สะท้อนว่า “ลุงตู่”ปรับโหมดเป็น “นักการเมือง”แทบจะเต็มตัว ใช้ “พื้นที่สื่อ”ชิงไหวชิงพริบ ช่วงชิงคะแนนิยม .. และสะท้อนว่า กระแสของ“อนาคตใหม่”ก็อยู่ในสายตาของ “บิ๊กตู่”เหมือนกัน ด้วยต้องยอมรับว่า “พรรคธนาธร”มาแรงจริง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่-สังคมออนไลน์ .. แต่หากพิเคราะห์ดีๆ ก็จะพบว่า อันที่จริงกระแส “อนาคตใหม่”ที่แรงปรู๊ดปร๊าดขึ้น จนคาดหมายว่าอาจนำพา ส.ส.เข้าสภาได้มากถึง 40-50 ที่นั่ง เลยทีเดียวนั้น .. เป็นกระแสที่ “ธนาธร” ยังไม่ได้ดันแคมเปญทางการตลาดอะไรมากมาย เพียงแค่ “ค้านทุกเรื่อง”ที่เกี่ยวกับ คสช.เท่านั้น กระแสยังถาโถมขนาดนี้ .. สะท้อนให้เห็นถึง “ความเบื่อหน่าย”ของคนไทย ต่อการอยู่ในอำนาจของ คสช. ที่นานเกินกว่า “คณะรัฐประหาร”อื่นๆในอดีต ..
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ในความเป็นจริงแล้ว “ประยุทธ์”ไม่ควรจะลดตัวลงไปชก แล้วไม่ควรไปเปิด “พื้นที่”ให้ “ธนาธร”ต่อล้อต่อเถียงกลับไปมาด้วยซ้ำ .. แล้วหากปรับโหมดเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อไร หรือยืนระยะไปเรื่อย ก็เชื่อเหลือเกินว่า “ธนาธร”จะยิ่งถูกปอกเปลือย“ไร้ราคาทางการเมือง” ..พิสูจน์แล้วว่าที่ผ่านมา “เสี่ยเอก”ที่อาจจะมีโปรไฟล์สวยหรูในทางธุรกิจ แต่ในทางการเมือง ยังไม่เท่าไร .. พยายามเปิดประเด็นแบบงูๆ ปลาๆ เจอจับได้ไล่ทันว่า “มั่ว”อยู่เนืองๆ อย่างที่เคยเปรียบการพัฒนา ระหว่าง “ไทย - สิงคโปร์”ว่าต่างกันเพราะ “ประชาธิปไตย”..จนเจอ “พี่มาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สอนมวย ตอกหงายกลางฟลอร์มาแล้วว่า “ประชาธิปไตยแบบสิงคโปร์”ไม่น่าจะยกมาเป็น “โมเดลประชาธิปไตยที่ดี” เท่าไร .. หรืออย่างล่าสุดที่ “เสี่ยเอก”โกอินเตอร์ ไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวที ที่สหรัฐฯ .. ก็ยังไปพูดเอามันว่า“ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการรัฐประหารมากที่สุดในโลก”เสียอีก ทั้งที่ประเทศไทยรัฐประหารบ่อย แต่ก็ไม่ได้บ่อยที่สุดในโลก .. ที่ “โป๊ะแตก สุดๆ”ก็น่าจะเป็นที่อ้างว่า ได้รับเชิญไปร่วมเวที “ยูเอ็น”ที่นิวยอร์ก ปรากฏว่า ถูกแฉว่าเป็นเวทีของ “เอ็นจีโอ”ที่ไปโมเมจัดในโรงแรมเดียวกับงานใหญ่ของ“ยูเอ็น” .. ดูๆ แล้ว ไม่น่าจะเป็น“คู่แข่ง” ที่ “ประยุทธ์”จะลดตัวลงมาชกด้วย หรือเปิด “พื้นที่”ให้ “ธนาธร”มาต่อล้อต่อเถียง อะไรเลย .. สู้เอาเวลาไปปรับจูน สร้างผลงานปังๆ โดยเฉพาะ“วาระปราบโกง - วาระปฏิรูป”ปิดจุดอ่อนก่อนถึงเลือกตั้งจะดีกว่า

**ออกลายงูเห่า!! “สามมิตร”ออกลูกพลิ้วไม่ร่วมเปิดตัว “พลังประชารัฐ”ตามนัด อ้างไม่แย่งซีน “4รมต.คีย์แมน”คล้ายกับ“บ้านสะสมทรัพย์” ที่ขอโยกไปอยู่ “ภูมิใจไทย”ค่ายของ“เสี่ยหนู” อ้างเหมือนกัน ขอซุกพรรคขนาดกลาง-ไม่อยากทำ“ประชารัฐ”หม่นหมอง น่ากลัวจะมี“ตำนานงูเห่า”ภาคใหม่ หากแต้ม“พรรคทหาร”ไม่เข้าเป้า พร้อมชิ่งร่วม“สูตรผสมพันธุ์”ของเหล่านักการเมืองทันที

ไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด .. หลัง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศโครม “ผมสนใจงานการเมือง”..แล้วมาเจอ “รับน้อง” ด้วยผลโพลออนไลน์ ทุกสำนักชี้ไปในทิศทางเดียวกัน 80-90% ว่า “ไม่สนับสนุน”ทำเอาเหี่ยวๆ ไปไม่น้อย .. จากโพลที่ไม่เอา “ลุงตู่”ดูเหมือนจะเพิ่มความคึกคักให้กับบรรดา “นักเลือกตั้งอาชีพ”เป็นเท่าตัว จากที่เมื่อครั้งคลายล็อกการเมืองใหม่ๆ ยังดูห่อเหี่ยว เจี๊ยวจ๊าวได้ไม่เต็มปาก .. แล้วดูท่าประกาศิต “ห้ามต่อรองทุกกรณี”ที่ “บิ๊ก คสช.”เคยทุบโต๊ะปึงปังใส่ “นักการเมือง”ก็เริ่มคลายมนต์ขลังไม่น้อย .. ทั้งจากกระแสความนิยมที่ตกต่ำ พ่วง“ดีลผสมพันธุ์เฉพาะกิจ”ที่ว่ากันว่า มีการเจรจาพูดคุยกับขั้วตรงข้ามอย่าง “พรรคประชาธิปัตย์”ในการร่วมมือกันตั้งรัฐบาล สกัดแผนสืบทอดอำนาจของ คสช. .. ทำเอา “อำนาจต่อรอง”ของนักการเมืองที่เคยสยบยอม“พลังดูด”ดูจะแกว่งๆ ตามไปด้วย ..
สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ อนุทิน ชาญวีรกูล
แม้ความเคลื่อนไหวของ “นักเลือกตั้ง”ยังดูกระเพื่อมๆ อยู่บ้าง แต่หากพิจารณาลงลึก ก็จะเห็นได้ว่า มีการวาง“ยุทธศาสตร์ทางการเมือง” ที่ดูจะ“เขี้ยว”กว่า “ฝ่ายทหาร”หลายขุม .. ไม่ใช่แค่นักการเมืองที่ตั้งป้อมต่อกรกับ “พรรคคสช.”เท่านั้น กระทั่งนักเลือกตั้งที่ถูกเครือข่าย คสช. ดูดมาเป็นพวก ก็ยังเดิมเกมชนิด “เขี้ยวลากดิน”เหมือนกัน .. ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มสามมิตร”ภายใต้การนำของ สมศักดิ์ เทพสุทิน - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคลื่อนไหวอย่างหวือหวา สยายปีกกวาดต้อน อดีต ส.ส.อย่างสนุกสนาน .. ก็ยังออกลูก“กั๊ก”ยังไม่ตกลงปลงใจเข้าร่วม “พรรคพลังประชารัฐ”ตามแผนที่วางไว้ .. ด้วย“ข้ออ้าง”ที่ว่า ไม่อยากขโมยซีน “4รัฐมนตรี คสช.”ที่จะไปเปิดตัวในงานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง “พรรคพลังประชารัฐ”..หรืออย่าง “ตระกูลสะสมทรัพย์”บ้านใหญ่แห่ง จ.นครปฐม ที่จูงเอา ชาดา ไทยเศรษฐ์ คนโตแห่งเมืองอุทัยธานี และ ตระกูลสุวรรณฉวี ที่มีพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา ที่ตกลงเป็น“นั่งร้านทหาร”ตั้งนานแล้ว .. แต่ก็ขอ เฮโลไปร่วมกับ “พรรคภูมิใจไทย”ของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล แทนที่จะเป็นสาขาหลักอย่าง พรรคพลังประชารัฐ .. ด้วย “ข้ออ้าง”ทำนองเดียวกันว่า กระแสขณะนี้ต้องใช้ “พรรคขนาดกลาง”เป็นฐานในการต่อสู้กับพรรคเพื่อไทย มากกว่าไปกระจุกรวมอยู่ด้วยกันที่พรรคเดียว อีกทั้งอาจจะไปทำให้ภาพลักษณ์ทหารไม่ดีด้วย ..

ฟังเผินๆ “บิ๊กทหาร”ก็กดปุ่มไฟเขียว อย่างไม่คิดอะไรมาก .. ทั้งที่ความจริง ความเคลื่อนไหวของ “นักเลือกตั้งอาชีพ”ที่อาจจะตกลงร่วมหัวจมท้ายกับ “พรรค คสช.”ในทางลับแล้วก็จริง แต่ก็มีประสบการณ์ในอดีต ที่พิสูจน์แล้วหลายครั้งว่า “พรรคทหาร”มักไปไม่รอดในการเลือกตั้ง .. จึง “ชักแม่น้ำทั้งห้า”เพื่อไม่ต้องไปอยู่ในข้องเดียวกัน หากชนะได้ตามเป้า ก็เดินกันตามแผนเดิม แต่หากไม่เป็นไปตามเป้า จะได้ “ชิ่ง”ได้ถนัดถนี่ สร้างตำนาน “งูเห่า”เหมือนในอดีต .. ยิ่งเจอ “สูตรผสมพันธุ์”ของเหล่านักการเมืองจูนกันติดขึ้นมา ก็คงต้องเตรียมม้วนเสื่อ กลับกรมกองกันได้เลย .. กลายเป็น “จุดตาย”ที่ทำให้ฝ่ายการเมืองดูจะมี “อำนาจต่อรอง”มากขึ้น จากเดิมที่ “บิ๊กทหาร”ทุบโต๊ะเปรี้ยงว่า “ห้ามต่อรองในทุกกรณี”..ถึงขนาดมีข่าวกระหึ่มว่า “เสี่ย น.”เดินเกมแรง ขอเก้าอี้นายกฯ หลังเลือกตั้งกันดื้อๆ ไม่งั้นจะหอบเสียงทั้งพรรคไปร่วม“เพื่อไทย”ซะงั้น

**แผนลึกยึด กสทช. (อีกซักตอน)!! กางแผน “น้ำลอดใต้ทราย”เดินเกมเงียบ ยึด“ซอยสายลม”สบช่องแผนฟิวชั่น “ทีโอที - แคท”เป็น “บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ”ที่ “ขาใหญ่ กสทช.”รุกหนัก ร่อนเรซูเม่ ฝาก “ทีม เสธ.ตึกไทยฯ”เสนอตัวขอเสียบยอดเป็น “ประธานบอร์ด”พร้อมขยี้ปมผลงานห่วยแตกของ กสทช. ที่ตามล้างเช็ดไม่จบสิ้น ชงลดเกรด “บอร์ดระดับชาติ”เป็นแค่หน่วยงานสังกัดองค์กรใหม่
พ.อ.นที ศุกลรัตน์
ลุกกันเป็นไฟ .. แค่เขี่ยๆ “แผนลึก ยึดกสทช.ภาค 1” ก็ทำเอา “คนแถวๆ ซอยสายลม”ที่ทำการใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) นั่งกันไม่ติด .. ข่าวว่า “คนในข่าว”ถึงกับพล่านตามหา “ต้นตอ”กันให้ควั่ก เห็นว่าชี้หน้าหมายหัว “บิ๊กน้ำ”พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เป็น “ผู้ต้องสงสัย” จริงเท็จเช่นไร คงต้องไปไถ่ถามกันเอง .. ไหนๆ เปิดโปงแผนการของ “ขาใหญ่ กสทช. เบอร์ 1”แล้ว เพื่อความเสมอภาค-เท่าเทียม ก็ขออนุญาตว่าต่อ ถึงแผนของ“ขาใหญ่เบอร์ 2” .. ที่เกริ่นๆ ไว้ว่า “มาเหนือเมฆ” และเป็นเกมลึก ที่เดินไปในทำนอง “น้ำลอดใต้ทราย”ดั่งที่สำนวนไทยว่าไว้ .. ด้วยว่า “ขาใหญ่รายนี้”กำลังจะ“หมดรอบ”หากมีการออกคำสั่ง คสช.ให้ “กสทช.รักษาการ”ยุติการทำหน้าที่ และแต่งตั้งชุดใหม่ มาทำงานแทน .. ครั้นจะไปขอสอดแทรกตีตั๋วเป็น กสทช.ต่อ ก็เกรงว่าจะถูกตีความตกเก้าอี้ในภายหลัง ด้วยกฎหมาย กสทช. ระบุไว้ว่า “เป็นได้สมัยเดียว” .. โอกาสในการไปต่อในฐานะ กสทช. ก็เลยยาก แล้วยังระแคะระคายแผนการ“ขาใหญ่ร่วมสำนัก”ว่ากำลังชงให้มีการออก มาตรา 44 ตาม “แผนลึกยึด กสทช. ภาค 1”ที่ว่าไปแล้ว .. ปะเหมาะเคราะห์ดี ที่ “รัฐบาล คสช.”ทุบโต๊ะเปรี้ยง สั่งการให้ พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.กระทรวงดีอี เตรียมการควบรวมกิจการ 2 รัฐวิสาหกิจใหญ่ .. “ทีโอที”บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ “แคท” บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจที่ซ้ำซ้อน-หมักหมมของ 2 หน่วยงาน .. ขีดเส้นไม่เกิน 6 เดือน ทั้งเห็นมรรคเห็นผล ฟิวชั่น “ทีโอที-แคท”กลายเป็น “บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ”ที่มีขอบข่ายอำนาจบิ๊กบึ้มกว่าเดิมหลายเท่าตัว ..
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
แม้การตั้งองค์กรใหม่ ยังต้องรอเข้า ครม.อนุมัติช่วงเดือน พ.ย.นี้ แต่ “ขาใหญ่ กสทช.”อาศัยคอนเนกชั่น “รุ่นพี่รุ่นน้อง ตท.”ร่อนเรซูเม่ไปถึง “ทีม เสธ.ตึกไทยฯ”เสนอตัวขอเสียบยอดเป็น “ประธานคณะกรรมการ”บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ล่วงหน้าแล้ว .. ไม่เท่านั้น ยังแนบ“แผนบอนไซ”ทอนอำนาจ กสทช. ที่ทำเรื่องให้ คสช.ต้องตามล้างตามเช็ดไม่รู้จบ .. ภารกิจ “หารายได้”ก็ไม่เข้าเป้า คลื่นโทรคมนาคมมีมีอยู่เต็มแผง ชักจะขายไม่ได้ .. แถมยังมีเรื่องส่งกลิ่นสารพัด เอาแค่คูปองทีวีดิจิทัล สมัย คสช. เข้ามาใหม่ ที่เจอจับได้ว่าตีโป่งไปเกินเท่าตัว ที่ “บิ๊ก คสช.”ยังจำกันแม่น .. ยังไม่รวม“ค่า ตั๋ว-ค่าต๋ง”ประมูลนู่นนี่ เป็นหมื่นๆ แสนๆล้านบาท ที่มีคนวิ่งไปฟ้อง “ผู้ใหญ่”บ่อยๆ .. ประมาณว่า มีปัญหามากนัก ก็ปรับจาก“บอร์ดระดับชาติ”มาเป็นแค่หน่วยงานภายใต้ “บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ” ที่อยู่อันเดอร์ “กระทรวงดีอี”อีกที ก็น่าจะเพียงพอ .. เห็นว่าแผน “น้ำลอดใต้ทราย”เริ่มมีการถ่ายทอดไปถึง “ผู้มีอำนาจ”ที่ยังไม่เยสโน โอเค อะไรลงมา แต่ที่เห็นตรงกันก็ปัญหาที่ กสทช. สร้างไว้เพียบไปหมด .. ไม่ต้องอะไรมาก แค่คำสั่ง มาตรา 44 แก้ปัญหา กสทช. ก็ต้องลำบาก “นายกฯตู่”เซ็นมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3-4 หน .. จนอาจเป็น “แต้มต่อ”ที่ “ขาใหญ่เบอร์ 2 แห่งซอยสายลม”เชื่อว่า “ผู้มีอำนาจ” จะเคลิ้มไปกับแผน “น้ำลอดใต้ทราย”ที่แม้ “ขาใหญ่เบอร์ 1 แห่งซอยสายลม”ได้คุม กสทช.จริง แต่ถูกบอนไซ ลดทอนอำนาจไปก็แทบจะไร้ค่า

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น