มหาดไทยจี้ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศควบคุมสัญญาท้องถิ่นเช่ารถยนต์นำมาใช้ในราชการ อปท.ทุกประเภท หลัง สตง.ตรวจงบการเงินพบมี อปท.บางแห่งฝ่าฝืนกฎหมาย ทำหนังสือด่วน! สั่งแยกบัญชีรถเช่ากับรถกรรมสิทธิ์ อปท. ทำบัญชีควบคุม “พนักงานขับรถในสังกัด” พ่วงให้ตรวจสอบรถบรรทุกขนาด 1 ตัน- รถพยาบาลฉุกเฉินทุกประเภท หลังมีเคสใช้รถในสังกัดขนสิ่งผิดกฎหมาย ใช้ประโยชน์ส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ฉุกเฉิน มอบดาบผู้ว่าฯ-นายอำเภอพบซึ่งหน้าฟันวินัยได้ทันที
วันนี้ (26 ก.ย.) แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 โดยให้ผู้ว่าฯ แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ เร่งดำเนินการประกอบด้วย ให้จัดทำบัญชีรถยนต์ที่ได้มาโดยการเช่า แยกจากบัญชีรถยนต์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ อปท. กรณี อปท.จะใช้รถยนต์ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขต อปท.ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ที่ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายก่อน
ทั้งนี้ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายข้าราชการส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการใช้รถยนต์เป็นการเฉพาะ โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายจะต้องจัดให้มีสมุดบันทึกการใช้รถยนต์ และต้องควบคุมพนักงานขับรถให้ลงรายละเอียดการใช้รถตามความเป็นจริง และให้ผู้บริหารท้องถิ่น สำรวจและตรวจสอบรถยนต์ เช่น รถบรรทุกขนาด 1 ตัน รถยนต์พยาบาลฉุกเฉิน ฯลฯ ว่ามีการนำไปใช้ในลักษณะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ เช่น การนำรถยนต์พยาบาลฉุกเฉินไปส่งเอกสาร การนำออกจากหน่วยปฎิบ้ติการเพื่อรับผู้ป่วยกลับบ้าน การให้บริการประชาชนที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ การออกปฏิบัติงานอี่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นตัน
“หากตรวจสอบพบว่ามีการนำรถไปใช้ไนลักษณะต้องห้าม ให้ดำเนินการทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับทางราชการ ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ในกรณีผู้กระทำความผิดเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอแลัวแต่กรณี ดำเนินการสอบสวนเพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนดด้วย”
นอกจากนี้ ยังให้ผู้บริหารท้องถิ่น ควบคุมการใช้รถยนต์ให้มีการปฎิบัติตามสัญญาเช่ารถยนต์ (กรณีรถยนต์ที่ได้มาจากการเช่า) และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถยนต์ชององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 โดยเคร่งครัด
มีรายงานว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าไปตรวจสอบการใช้รถฉุกเฉินของ อปท.บางแห่ง พบว่ามีการนำรถพยาบาลฉุกเฉินไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์การแพทย์ฉุกเฉิน เช่น การส่งเอกสาร การนำรถพยาบาลฉุกเฉินออกจากหน่วยปฏิบัติการเพื่อรับผู้ป่วยกลับบ้าน การให้บริการประชาชนที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ การออกปฏิบัติงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ฉุกเฉิน ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการนำรถพยาบาลฉุกเฉินของ อปท.แห่งหนึ่งไปดัดแปลงเพื่อใช้ขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เป็นต้น
ขณะเดียวกัน กรณีการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการพบว่า การเช่ารถในแต่ละครั้งให้ทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยทำสัญญากับบริษัทหรือผู้ประกอบการซึ่งจดทะเบียนให้บริการเช่ารถโดยตรง และต้องเป็นรถใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน สำหรับสัญญาเช่ารถให้ทำตามแบบที่กรมบัญชีกลางกำหนด โดยกรณี “เช่ารถ” สตง.เคยทำหนังสือด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการแจ้งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จากกรณี สตง.ตรวจสอบงบการเงินของ อปท.พบว่า มี อปท.บางแห่งกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ โดยขอให้ทุกจังหวัดควบคุม กำกับดูแล อปท.ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหนังสือกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัด
“สตง.พบว่า อปท.บางแห่งได้ทำการเช่ารถยนต์จากผู้ให้เช่าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า เช่น ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าไม่ตรงตามสัญญา ผู้ให้เช่าไม่จัดให้มีการประกันภัยรถยนต์ที่เช่าประเภทชั้นหนึ่งตลอดอายุสัญญาเช่า หรือผู้ให้เช่ามิได้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และไม่ได้เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ที่ให้เช่า โดยประเด็นนี้เนื่องจาก การถือปฏิบัติเกี่ยวกับ “การเช่ารถยนต์” ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังโดยอนุโลม ซึ่งกระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ ซึ่งการเช่ารถในแต่ละครั้งให้ทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยให้ทำสัญญากับบริษัทหรือผู้ประกอบการซึ่งจดทะเบียนให้บริการเช่ารถโดยตรง และต้องเป็นรถใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน หรือกรณีรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ บริษัทผู้ให้เช่า ต้องจัดหารถในสภาพตามสัญญาเช่ามาทดแทนให้ทันที”