xs
xsm
sm
md
lg

“นักเลือกตั้งอาชีพ”คลอดสูตรผสมพันธุ์ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์”จับมือกันตั้งรัฐบาล ส่งทหารกลับกรมกอง **งัด ม.44 ตั้ง “สนธยา คุณปลื้ม”เป็นนายกเมืองพัทยา **แผนลึกยึด กสทช.(1) !! “ลุงตู่” รอเซ็นต์คำสั่ง มาตรา 44 ตั้ง “กสทช.ชุดใหม่”ก่อน คสช. ผละอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ผสมพันธุ์เฉพาะกิจ!! “เพื่อไทย”อาจโละ กก.บห.ชุดเก่าที่ล่อแหลม ออฟไซด์คำสั่ง คสช. เปิดทาง “เจ๊หน่อย”ผงาดคุมพรรค พร้อมขุด“พรรคอะไหล่”สแตนบาย เผื่อโดนยุบ “นักเลือกตั้งอาชีพ”สุมหัวแก้เกม“พรรคทหาร”คลอดสูตรผสมพันธุ์ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์”จับมือกันตั้งรัฐบาล ส่งทหารกลับกรมกอง ผ่านวงเจรจา “โภคิน-อภิสิทธิ์”ที่ใช้สำนักกฎหมาย“กุนซือบิ๊กป้อม”เป็นวอร์รูม

คึกคัก-คักคึก .. บรรยากาศหลังคลายล็อกการเมือง แล้วยังมีคิวที่ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศโครม “สนในงานการเมือง” .. ต่อด้วยคิวของ “4 รัฐมนตรี”ที่เตรียมเปิดตัวเป็น “คีย์แมน”นำทัพ “พลังประชารัฐ”ลุยเลือกตั้ง .. ตามสเตปที่ว่ามา นอกจากจะคอนเฟิร์มกลายๆ ว่า โรดแมปเลือกตั้งไม่ติดโรคเลื่อนแล้ว .. ยังเข้าเค้า “ปิดเกมเร็ว”ปักหมุด ตั้งคูหากันวันที่ 24 ก.พ.62 ไวที่สุดในปฏิทินการเลือกตั้ง .. ในขณะที่ “พรรคนั่งร้านทหาร”แทบจะพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงขนาดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ลงตัวเกือบหมดแล้วทั้ง 500 รายชื่อ .. ข้ามฟากมาที่ “นักเลือกตั้ง อาชีพ”ก็ดูจะอยู่นิ่งไม่ได้เหมือนกัน แม้จะยังติดเงื่อนไข ห้ามหาเสียง-ห้ามเคลื่อนทางการเมือง อยู่ก็ตาม .. “หน้าฉาก”ก็ชุลมุนกับการนัดประชุมวางตัวผู้บริหารพรรคกันใหม่หมด .. แต่ “หลังฉาก”เรียกได้ว่า “มันยกร่อง”ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงเป็นพิเศษที่ “ค่ายสะตอ”พรรคประชาธิปัตย์ .. กับศึกท้าชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคจาก “พ่อมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็นรายของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือ “เสี่ยจ้อน”อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธาน สปท. ที่เพิ่งมุดกลับเข้าพรรคไปจิบกาแฟกับ “จารย์มาร์ค”..
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  และ  อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ชั่วโมงนี้ความหวือหวาอยู่ที่ “ทีมหมอวรงค์” ที่มีแบ็กอัพเป็น ถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. ที่พะโลโก้ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ไว้กลางหน้าผาก .. จนเป็นขี้ปากทั่วที่ทำการพรรคสะตอ ว่าสงสัย “พรรครวมพลังประชาชาติไทย”ที่ “กำนันเทือก”ไปออกหน้าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ท่าจะไม่รอด ก็เลยปัดฝุ่นรื้อแผนยึด “ค่าย ปชป.” ..แล้วเหมือนกลัวจะไม่ชัดว่า “สายกำนัน”ลุยเอง ไม่แค่ “นายหัววอน”ยังมีการใส่ชื่อ ลูกรักนอกไส้อย่าง “เสี่ยขิง”เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ร่วมทีมผู้ท้าชิง เป็นแคนดิเดตรองหัวหน้าพรรคด้วย .. แต่ก็อย่าดูเบาว่าจะเป็น “ละครการเมือง”ที่ร้องเล่น เต้นกันตามบท จริงๆ แล้วรู้กันทุกฝักฝ่าย แค่แอคท่าให้มันมี “สตอรี่”สร้างภาพสถาบันการเมือง ข่มคู่แข่งอย่าง “พรรคเพื่อไทย”เท่านั้น ..

ย้ายวิกมาที่ “พรรคเพื่อไทย”กันบ้าง วันนี้ (26 ก.ย.) มีนัดหมาย “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่นครบาล มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หลังชื่อหลุดไม่ทราบสาเหตุ เมื่อครั้งชุลมุนทางการเมือง .. จับตากันว่าที่ “เจ๊หน่อย”ต้องวิ่งโร่มาสมัครสมาชิกแต่วัน ก็เพราะยังหวังลึกๆ ว่าจะได้สอยเก้าอี้หัวหน้าพรรค ที่จะเลือกกันช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ มาครอง .. แม้ข่าวกระฉ่อนว่า “นายใหญ่ดูไบ”ทักษิณ ชินวัตร เคาะให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค รับเป็นผู้นำเพื่อไทยไปพลางก่อนก็ตาม .. อย่างไรก็ดี มีความเชื่อลึกๆว่า “ฝ่ายทักษิณ”จะเจอ คสช. “จัดหนัก”ช่วงก่อนการเลือกตั้ง .. ไม่ว่ากรณีตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค กระทั่ง “ยุบพรรค”จากกรณีที่ “ผู้บริหารพรรคชุดรักษาการ”เรียงหน้ากันแถลงข่าว ในโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร ที่ถูกหมายหัวไว้ว่า “ขัดคำสั่ง คสช.”.. กระทั่งมีการไปขุดเอา “พรรคเพื่อธรรม”พรรคอะไหล่ที่อยู่ใต้ปีก “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ มาจัดแจงสแตนบายไว้ .. ส่วนพรรคเพื่อไทย ครั้นจะใช้ผู้บริหารพรรคชุดเดิมต่อไป ก็สุ่มเสี่ยงะถูกสอยร่วงก่อนถึงสนามแข่ง โอกาสจึงเทกลับมาที่ “คุณหญิงหน่อย”.. ส่วนคนในบ้านอย่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ หวานใจ "เจ๊แดง" ต้องเก็บไว้ใช้ใส่ในตระกร้านายกฯ หลังเลือกตั้งมากกว่า .. และในระหว่างที่ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์”วุ่นวายกับกิจการภายใน ก็ไม่ลืมประเมินเกมชิงอำนาจคืนจาก “ขุนทหาร”เหมือนกัน .. ด้วยรู้ดีว่า ภายใต้ “กติกา”ในปัจจุบัน เสียเปรียบ “พรรคทหาร”ทุกประตู ถึงชนะเลือกตั้ง ได้เสียงมากกว่าก็ไม่อาจเลือกนายกฯ-ตั้งรัฐบาลได้ .. กลายเป็นโจทย์ที่ “นักเลือกตั้งอาชีพ”เอาหัวชนกัน แก้ไม่ตกมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญคลอดออกมา .. จนมีการโยนสูตร “รวมกันเฉพาะกิจ”หยั่งเชิงถึงโอกาส “พรรคสะตอ - พรรคทักษิณ”จับมือกันตั้งรัฐบาล ตะเพิดทหารกลับกรมกองมาตลอด .. พลันหมุดหมายเลือกตั้งเริ่มชัด “คีย์แมน”ของสองฝ่ายก็คุยกันหนักขึ้น โดยเฉพาะวงสนทนาที่ “สำนักกฎหมายธรรมนิติ” ..ที่มีคู่เจรจาเป็น โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา “ผู้ถือสารนายใหญ่”พูดคุยกับ “อภิสิทธิ์”บ่อยครั้ง .. พร้อมกางสูตร “เพื่อไทย”นอนมา ได้เกิน 200 ที่นั่ง ได้เสียงอันดับ 1 ส่วน “ประชาธิปัตย์”ประคองตัวเอาให้ได้อย่างน้อยซัก 100 ที่นั่ง แพ็คกับพรรคอื่นเล็กน้อย ให้ได้ 350-400 เสียง แล้วมาตั้งรัฐบาลด้วยกัน .. โดยที่ตำแหน่งนายกฯ จะให้โควตาฝ่ายประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น “อภิสิทธิ์”หรือ ชวน หลีกภัย ก็ว่ากันไป .. เป้าหมายเพื่อโค่นบัลลังก์ “ขุนทหาร”ที่แม้มี “พรรค ส.ว.”ค้ำอยู่ 250 เสียง แต่หาก “นักเลือกตั้ง”ก่อหวอดได้เกิน 350 เสียง ก็หมดทางสู้ตามกติกา .. เป็นสูตรที่อาจยากจะเกิดได้ ด้วยบาดแผลระหว่างกันในอดีต แต่ก็เคยมีคำที่ใครบางคนว่าไว้ว่า การเมืองอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ .. ดูอย่าง “สำนักกฎหมายธรรมนิติ” ที่ “โภคิน - อภิสิทธิ์”ไปอาศัยเปิด “วอร์รูม”เจรจากัน ก็อยู่ในความดูแลของ ไพศาล พืชมงคล กุนซือข้างกาย“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช. แท้ๆ


** ต้องใช้ให้เป็น!! งัด ม.44 ตั้ง “สนธยา คุณปลื้ม”เป็นนายกเมืองพัทยา ยกเหตุผลเพิ่มศักยภาพพื้นที่ยุทธศาสตร์ สนับสนุน “อีอีซี”ทั้งที่ “พลังประชารัฐ”คุมภาคตะวันออกเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องรีบใช้อำนาจพิเศษ แต่เรื่องสำคัญที่ประชาชนเรียกร้องให้ใช้ มาตรา 44 ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย “พาราควอต”ในการทำเกษตร กลับทำหูทวนลม ทั้งที่เป็นช่องทางทำคะแนนนิยมได้อื้อซ่า
สนธยา คุณปลื้ม
มันก็จะรัวๆหน่อย .. หลังเก็บดาบเข้าฝัก สงวนการใช้ “อำนาจพิเศษ”มาตรา 44 อยู่นาน พอขยับใช้ที ก็ชักจะมันมือ .. ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. เซ็นฉับ คำสั่ง คสช.ที่ 15/2561 .. อาศัยอำนาจมาตรา 44 ปลด พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี พ้นจากตำแหน่ง “นายกเมืองพัทยา”แล้วแต่งตั้ง “เสี่ยแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม ทำหน้าที่แทน .. รายของ “อนันต์”เรียก “มายังไง ไปอย่างนั้น”ตอนได้รับตำแหน่งนายกฯพัทยา ก็ได้อานิสงส์ จากมาตรา 44 เหมือนกัน .. ขณะที่ “เสี่ยแป๊ะ”ที่ยังมีหมวกเป็นหัวหน้าพรรคพลังชล ก็ใช่ว่าว่างงาน เพิ่งได้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายการเมือง ไปเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานี่เอง .. แม้ในคำสั่งจะระบุถึง “เหตุผล”ต่างๆ นานา เพื่อเพิ่มศักยภาพ “เมืองพัทยา”ในด้านต่างๆ รวมไปถึงการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกด้วย .. แต่ “ความเป็นจริง”ก็ “ละไว้ในฐานที่เข้าใจ”ว่าเป็นประเด็นการเมือง ที่หวังเก็บแต้มไปถึงการเลือกตั้งล้วนๆ .. เอาเข้าจริงตำแหน่งที่ผลัดกันชม ตามคำสั่ง คสช. ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ที่ต้องเร่งรีบใช้ มาตรา 44 ที่สำคัญไม่มีการระบุ ความผิดอะไรของ “นายกฯอนันต์”เสียด้วย .. และไม่ว่า “อนันต์”หรือ “สนธยา”หรือใครจะเป็นก็ตามแต่ การบริหารพัทยา กระทั่งเมืองชลบุรี ก็อยู่ในอาณัติ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม”อยู่ดี .. อีกทั้งฐานเสียงของเมืองชลฯ ก็อยู่ในกำมือ “พลังชล”ที่กำลังจะฟิวชั่น ไปควบรวมกับ “พลังประชารัฐ”อยู่รอมร่อ .. ล่าสุดเพิ่ง “ดูด”เอา “เสี่ยต้น”สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ มาเข้าคอก “พลังประชารัฐ”สำเร็จ .. ที่แหว่งอยู่ ก็มีเพียงเขต 8 อ.สัตหีบ ที่มี พล.ร.อ.สุรพล จันทร์แดง แชมป์เก่า สังกัดพรรคเพื่อไทย ครองอยู่เท่านั้น .. รู้กันดีว่า พื้นที่ อ.สัตหีบ นั้นเป็น “พื้นที่ทหาร” ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาของ “พลังประชารัฐ”ที่เป็น “พรรคทหาร”อย่างแน่นอน กรอกตัวเลข “พลังประชารัฐ”ไปได้เลยว่า “ชลบุรี ยกจังหวัด” ..
พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี
ที่ไล่เรียงมาก็เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า ในแง่การเมือง ไม่มีจุดไหนเลยที่ต้องเร่งรีบใช้ มาตรา 44 ตั้ง “สนธยา”เข้ามาคุม หรือทำพื้นที่ในเมืองพัทยา ด้วยมีตำแหน่งใหญ่เป้งอย่างที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายการเมืองอยู่แล้ว .. รวมทั้งกลไก “อีอีซี”ต่างๆ ทาง “ทีมเศรษฐกิจ”ก็ขับเคลื่อนอยู่ จนกระชากเอา ส.ส. แถบตะวันออกมาได้แล้วเกือบยกภาค .. ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในแง่การเมืองเพิ่มเติม ยังทำให้ถูกมองว่า คสช. เอาแต่ใช้ “อำนาจพิเศษ”หวังผลทางการเมือง มากกว่าจะใช้เป็นประโยชน์โภชน์ผลกับส่วนรวม .. ก็เรื่องสำคัญๆ ที่น่าจะทำเพื่อแก้ปัญาให้กับประชาชนหลายกรณี กลับไม่เคยถูกยกระดับความสำคัญเพื่อใช้ “มาตรา 44”ในการปลดเปลื้องพันธนาการของ“กฎหมายปกติ”แม้แต่น้อย .. ยกตัวอย่าง กรณีกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ที่มีความเสี่ยงสูง “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต”ที่ยื้อกันอยู่ .. ก็มีข้อเรียกร้องจาก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้อโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ หนึ่งในคณะกรรมการฯ ที่รัฐบาลตั้ง ให้ใช้มาตรา 44 เพื่อตัดจบปัญหา .. อีกทั้งยังแก้ข้อครหาที่ว่า มีการประวิงเวลาเพื่อพยายามให้มีการใช้สารเคมีต่อไปเท่านั้น เพราะผลวิจัยต่างๆ ยืนยันแล้วว่า “3สารพิษ”อันตรายร้ายแรงจริง .. เรื่องดีๆ ที่ได้ใจประชาชน กลับไม่รู้จักใช้อำนาจในมือ เรียกแต้ม-กู้ศรัทธา ก่อนลุยเลือกตั้ง

**แผนลึกยึด กสทช.(1) !! “ลุงตู่”ง้างปากกา รอเซ็นต์คำสั่ง มาตรา 44 ตั้ง “กสทช.ชุดใหม่”ก่อน คสช. ผละอำนาจ คำสั่งเสร็จแล้ว เหลือแค่กรอกชื่อ “7 กสทช.”ก็ครบถ้วน คาด “เลขาฯฐากร”อัพเกรด ขึ้นชั้นกรรมการ แถมมีลุ้นเก้าอี้ประธานเสียด้วย หนีบ “ดิสทัต”เลขาฯกฤษฎีกา ที่กำลังจะเกษียณ ช่วยงานด้านกฎหมาย ส่วนอีก 5 ที่นั่ง เปิดทางจับวาง “บิ๊กทหาร”ร่วมคุมความมั่นคง ด้านการสื่อสาร-ผลประโยชน์หลายแสนล้าน
ฐากร ตัณฑสิทธิ์
คลาดเคลื่อนเล็กน้อย .. ขออภัยถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) มา ณ ทีนี้ .. วันก่อนไปพาดพิงว่าโดน “นายกฯตู่”เหวี่ยงใส่กลางงานใหญ่ ฐานมีส่วนทำให้ “โครงการเนตประชารัฐ”แล่นไม่ฉิ่ว เจอข้อร้องเรียนสารพัด .. ก็บุ้ยโบ้ยกันมาว่าที่ สัญญาณไม่ดี-ใช้งานไม่ได้ มันเป็นส่วนของ“กระทรวงดีอี - ทีโอที”ต่างหาก .. ส่วนของ กสทช. ต้องย้ำว่า “ปราศจากข้อร้องเรียน” เพราะโครงการยังไม่เสร็จ ยังไม่ตรวจรับ ประมาณว่า“แค่ทำงานช้า สัญญาณไม่ได้ห่วย”แบบนี้เข้าใจตรงกันนะ ..

ว่าต่อเรื่องแผนการกระชับอำนาจ ยึด“อาณาจักรซอยสายลม”ที่ทำการใหญ่ กสทช. กันดีกว่า .. หลังจากห้ำหั่นกันเอาเป็นเอาตาย ระหว่าง “2ขาใหญ่ซอยสายลม” ที่ได้จังหวะ “พักรบ”รักษาบาดแผล มาช่วงหลัง “ว่าที่ กสทช.”ถูก สนช.เทกระจาดหนที่ 2 เมื่อหลายเดือนก่อน .. แล้วก็มี “มาตรา 44” ตบตูด ให้ “ชุดรักษาการ”ของ “ประธานอ้อ” พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ตีตั๋วอยู่ต่อแบบอันลิมิต .. หมายเหตุตัวเข้มๆไว้ว่า ยกเลิก และระงับกระบวนการสรรหา กสทช.ไว้ก่อน จนกว่า “หัวหน้า คสช.”มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น .. พลันที่การเลือกตั้งผลัดเปลี่ยนรัฐบาลมีความชัดเจน ไม่ช้าไม่เร็ว ต้นปี 2562 คสช. ก็ต้องผละอำนาจ .. ก็เลยเริ่มมีการทวงถาม “คำสั่งเป็นอย่างอื่น”ของ “หัวหน้า คสช.”เกี่ยวกับการสรรหา กสทช.ชุดใหม่กันอีกครั้ง .. สอดรับกับเรื่องเมาต์ ที่ว่า “นายกฯตู่”ดูจะไม่ปลื้มผลงาน “บอร์ด กสทช.”หลายเรื่อง ทำให้เก้าอี้ “ชุดรักษาการ”เริ่มง่อนแง่น .. ข่าวว่า “บิ๊ก กสทช. ที่ไม่ใช่บอร์ด”ได้มีการประสาน จัดทำร่างคำสั่ง มาตรา 44 อีกฉบับ กับ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมายไว้คอยท่าแล้ว .. เป็นคำสั่งที่มีเนื้อหาให้ “ปลดระวาง”ชุดรักษาการ โดยไม่ต้องไปสรรหาให้มากความ เหตุว่า สนช. ผู้ทำคลอดก็กำลังชุลมุนกับภารกิจช่วงโค้งสุดท้าย .. รูปการณ์เช่นนี้ ก็ใช้อำนาจพิเศษแทงพรวด แต่งตั้ง กสทช.ชุดใหม่ ขึ้นมาทำหน้าที่ในคราวเดียวกันไปเลยดีกว่า .. ว่ากันอีกว่า ขณะนี้ “ว่าที่ คำสั่งมาตรา 44”ไปเสียบอยู่บนโต๊ะทำงาน “นายกฯตู่”เป็นที่เรียบร้อยแล้ว .. ขาดแต่ก็เพียงรายชื่อ “7อรหันต์ กสทช.”ที่ยังไม่ได้กรอกชื่อลงไปว่าใครเป็นใครเท่านั้น ..
ดิสทัต โหตระกิตย์
เห็นแว้บๆว่า ชื่อหนึ่งที่ตอนนี้อยู่ในมือ“ทีม เสธ.หน้าห้องผู้นำประเทศ”คลับคล้ายคลับคลา จะเป็น “บิ๊กน้อย”ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาฯ กสทช. .. ที่รอบนี้น่าจะถึงเวลา ได้ขึ้นชั้นเป็นบอร์ด หลังอยู่โยงทำงานใน กทช. ต่อมาถึง กสทช. มากกว่า 13 ปี .. สั่งสมประสบการณ์ใน กสทช. ที่เรียกว่า “หนึ่งในใต้หล้า”คงไม่ผิด ที่สำคัญยังมีลุ้นถึงขนาดขึ้นเป็น “หัวโต๊ะ”ประธาน กสทช. เลยด้วยซ้ำ .. ขณะที่อีกชื่อที่ติดโผ เห็นว่าเป็น ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ถูกทาบทามให้มาช่วยงาน กสทช. ด้านกฎหมาย หลังเกษียณสิ้นเดือน ก.ย.นี้ด้วย .. ส่วน 5 เก้าอี้ที่ยังโหว่อยู่ อันนี้น่าสนใจ ผสม“น่าเป็นห่วง” เห็นว่ามีการ “ชงหวาน”เสนอให้ตั้ง “บิ๊กทหาร”เข้ามาร่วมคุมงานด้าน “ความมั่นคงด้านโทรคมนาคม” ..คงหมายใจว่า จะเอาอกเอาใจ “ผู้มีอำนาจ” ด้วยรู้ว่าหากสรรหาตาม “กฎหมายปกติ”อาจ “ตกสเปก” ดัน “นายทหาร”เข้ามาเป็น กสทช. ดูแลผลประโยชน์ “หลายแสนล้านบาท” ไม่ง่ายเหมือนสมัยเก่าก่อน ที่แทบจะเป็น “บอร์ดนายพล”.. แม้เอกสารคำสั่งกองรอลายเซ็นต์บนโต๊ะนายกฯ แต่เพื่อความชัวร์ “คนชง”ก็เลยหวังพึ่งบารมี “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช. ให้ช่วยกระชุ่น อีกแรง .. ทั้งที่ช่วงหลังชักจะ “ดังแล้วแยกวง”ไม่ค่อยแวะเวียนไป“บ้านใหญ่” เหมือนเคย จน “พี่ใหญ่”ต้องถามหาว่า “มันหายไปไหน” ..ตามคิวที่ “ลุงป้อม”ยกคณะไปมอบโฉนดที่ดินคืนให้กับเหยื่อเงินกู้ดอกโหด ที่ “เมืองน้ำดำ” จ.กาฬสินธุ์ สัปดาห์ก่อน บังเอิญที่เป็นบ้านเกิดของ “ขาใหญ่-ขาชง”ถึงไม่ได้ไปร่วมปราบแก๊งเงินกู้นอกระบบกับเขา .. แต่ก็โผล่หน้าแฉล้ม ไปร่วมต้อนรับขับสู้ในฐานะ “เจ้าถิ่น”แล้วก็ถือโอกาส กระซิบ “แผนยึด กสทช.”ให้ “ท่านรองฯป้อม”รับทราบเบื้องต้น .. ปูทางหาเสียงสนับสนุนในยามที่เข้าสู่การพิจารณาของ คสช. ส่วน “ลุงป้อม”เซย์เยส โน โอเค อย่างไร ไม่มีรายงาน .. วันนี้ว่ากันพอสมควรกับเกม “ขาใหญ่เบอร์ 1” โอกาสต่อไป จะมาเหลาต่อถึงเกมของ“ขาใหญ่เบอร์ 2”ที่ไม่ยอมง่ายๆ แถมมา “เหนือเมฆ”แบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว.


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น