เปิดตัวกลุ่ม “สภาพลังงานเพื่อประชาชน” เดินหน้าค้านทีโออาร์ประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ เตรียมยื่นหนังสือ จี้ “บิ๊กตู่” ชะลอประมูล ขู่หากเพิกเฉยมีมาตรการขั้นสูงสุดเพื่อยับยั้งประโยชน์ของชาติแน่นอน
วันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 10.30 น. ที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ (คปป.) และกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ในนามกลุ่ม “สภาพลังงานเพื่อประชาชน” นำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล, ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล, นายวีระ สมความคิด, นายทศพล แก้วทิมา, พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี และแนวร่วมพลังงานอีกหลายกลุ่ม แถลงข่าวเปิดตัวกลุ่มพลังงาน เป็นการรวมตัวเพื่อเสนอข้อเรียกร้องกรณีแหล่งก๊าซบงกช-เอราวัณ พร้อมทั้งเตรียมรวบรวมรายชื่อประชาชนทั่วประเทศยื่นต่อนายกรัฐมนตรีให้ปฎิรูปพลังงานไทย โดยทางกลุ่มเห็นว่าต้องการคัดค้านทีโออาร์ที่จะใช้ในการประมูลแหล่งบงกชเอราวัณในอ่าวไทย ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี พ.ศ. 2565-2566 นี้ ซึ่งเดิมรัฐบาลแถลงว่าจะทำการประมูลในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยทีโออาร์เป็นระบบแบ่งปันผลผลิตแต่ปิโตรเลียมที่ได้ให้เอกชนเป็นผู้นำไปขายและมีระยะสัญญาใหม่ 36 ปี แต่ปรากฏว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเร่งกำหนดการรับซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือน และจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้เลย สภาพลังงานจึงตั้งข้อสงสัยว่าที่เร่งประมูล เพราะเรื่องผลประโยชน์หรือไม่
นพ.ระวีกล่าวว่า สภาพลังงานจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้ชะละเวลาในการประมูลออกไปก่อน จากนั้นหากนายกรัฐมนตรียังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของประชาชน เราก็จะไปยื่นหนังสืออีกครั้งหนึ่งในวันที่ 24 ก.ย.ก่อนหน้าวันประมูล 1 วัน แต่หากไม่สามารถยับยั้งได้ ทางกลุ่มจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งซึ่งอาจจะมีการยื่นต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณา หรืออาจจะมีการวิ่งทั่งประเทศ โดยเป็นการวิ่งเพื่อปฏิรูปพลังงานครั้งแรกของโลก
ด้านนายวีระกล่าวว่า ตนเป็นคนแรกๆที่ออกมาต่อต้านในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนทางผู้ใหญาที่มีอำนาจกลับนิ่งเฉย ลักษณะทีโออาร์ในรูปแบบที่จะมีการประมูลที่จะเกิดขึ้น เป็นรูปแบบที่มีการโกงอย่างชัดเจน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบการประมูลครั้งนี้
ด้านนายธีระชัยกล่าวว่า ปัญหาในขณะนี้คือรัฐบาลไม่มีการจัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติขึ้น แต่กลับให้อำนาจเอกชนไปคัดเลือกด้วยวิธีการเจรจา ทำให้รัฐขายก๊าซได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น และสิ่งสำคัญที่น่าสงสัยคือมีการล็อกสเปกการประมูลแบบไม่โปร่งใส เพราะตามประเทศสากลทั่วๆ ไปแล้ว ผู้ประมูลที่แบ่งให้รัฐสุงสุดจะเป็นผู้ได้ไป แต่ปรากฏว่าทีโออาร์ที่กำลังเกิดขึ้นให้รัฐแค่ร้อยละ 25 อีกร้อยละ 65 กลับไปให้น้ำหนักกับราคาก๊าซซึ่งไม่ใช่สากล ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตามและร่วมกันคัดค้าน
จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มสภาพลังงานเพื่อประชาชน ประมาณ 60 คน เดินทางมาที่บริเวณหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ยับยั้งการจัดสรรปิโตรเลียมแหล่งบงกช-เอราวัณ ในระบบแบ่งปันผลผลิต และขอให้แก้ไขหลักเกณฑ์ในการจัดสรรปิโตรเลียมให้เป็นระบบจ้างผลิต โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อรัฐจะได้ประโยชน์สูงสุด
