xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ร่อนหนังสือถึงทุกพรรคแจ้งแนวปฏิบัติคำสั่งคสช.-ปชป.เซ็งอ้างไม่ตอบข้อสงสัย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พตอ.จรุงวิทย์ ภุมมา(แฟ้มภาพ)
กกต.ร่อนหนังสือถึงทุกพรรคแจ้งแนวปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ขณะที่ ปชป.เซ็งอ้างแค่ล้อคำสั่งไม่ตอบปมสงสัย เสนอปรับกำหนดการเปิดโอกาสซักถามหาข้อสรุป แทนการบรรยายเรื่องกม.พรรคการเมือง หากไม่แก้ไขประชุมไปก็ไม่เกิดประโยชน์

วันนี้(19 กย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาสำนักงานกกต. ลงนามโดยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ส่งหนังสือถึงทุกพรรคการเมือง 2 ฉบับ

โดยฉบับแรกเป็นการเชิญประชุมในวันที่ 28 ก.ย. พร้อมแนบกำหนดการ และอีกหนึ่งฉบับเป็นแนวทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองซึ่งมีเนื้อหาล้อจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13 /2561 เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของพรรคการเมืองในเรื่องการจัดหาสมาชิกให้ครบตามกรอบเวลาที่พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองโดยให้นับระยะเวลาใหม่โดยนับแต่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ แทนที่หลังจากพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ เช่น การจัดประชุมใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค คำประกาศอุดมการณ์ทากงารเมือง นโยบายพรรค ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

รวมถึงการเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและกรรมการบริหาร ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่แก้ไขใหม่ และให้มีคณะกรรมการสรรหาเพื่อคัดเลือกผู้สมัคร โดยให้ลงคะแนนลับ ซึ่งจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ หากไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และปรับอีกวันละหนึ่งพันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง ทั้งนี้ยังระบุว่าหากพรรคการเมืองไม่ดำเนินกิจกรรมต่างๆให้เป็นไปตามกฎหมายภายในระยะเวลาที่กำหนดกกต.อาจสั่งให้พรรคนั้นสิ้นสภาพได้ และในระหว่างที่ปฏิบัติไม่แล้วเสร็จไม่สามารถส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้

 
ด้านนาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเพิ่งได้รับหนังสือดังกล่าวในวันนี้ โดยในส่วนกำหนดการประชุมร่วมกับกกต.ในวันที่ 28 ก.ย.นั้นเห็นว่า ช่วงเช้าที่เลขาธิการกกต.จะบรรยายในหัวข้อพรรคการเมืองไทยมีอะไรที่ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ น่าจะมีการปรับเปลี่ยนให้พรรคการเมืองมีโอกาสได้ซักถามในข้อสงสัยอย่างเต็มที่มากกว่า เนื่องจากการปรับตัวตามกฎหมายใหม่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองทราบอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ชัดเจนคือการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 โดยเฉพาะในประเด็นการห้ามหาเสียงว่าจะนิยามการหาเสียงอย่างไร อีกทั้งแม้จะมีการเปิดให้ตอบข้อหารือในช่วงบ่ายแต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าการตอบข้อหารือดังกล่าวจะเป็นมติกกต.ที่พรรคการเมืองนำไปปฏิบัติได้เลย หรือว่ากกต.เพียงแค่ให้ความเห็นแต่สุดท้ายต้องไปขอคำตอบจากคสช.เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควรเพราะสุดท้ายแล้วหลังการประชุมก็ไม่สามารถปฏิบัติได้อยู่ดี

 
กำลังโหลดความคิดเห็น