xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ประกาศจำนวน ส.ส.เขตแล้วพบ 23 จว.ลดลง อีสานหด 10 ที่นั่ง-กทม.เหลือ 30

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายอิทธิพร บุญประคองประธานกกต.(แฟ้มภาพ)
กกต.ประกาศจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดแล้ว เผย มี 23 จังหวัดที่ ส.ส.ลดลง คงที่ 54 จังหวัด อีสานหนักสุดหาย 10 ที่นั่ง ขณะที่ กทม. เหลือ 30 ที่นั่ง


วันนี้ (19 ก.ย.) ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด โดยกำหนดให้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีจำนวน 350 คน แต่ละเขตเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส.1 คน จังหวัดใดมีจำนวน ส.ส.ได้ไม่เกิน 1 คน ให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง และจังหวัดใดมีจำนวน ส.ส.ได้เกิน 1 คน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้ง มีจำนวนเท่ากับจำนวน ส.ส.ที่พึงจะมี โดยใช้จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 60 ซึ่งมีจำนวน 66,188,503 คน เป็นฐานในการแบ่งเขตเลือกตั้ง

โดยจำนวนราษฎรโดยเฉลี่ย 189,110 คน ต่อ ส.ส. 1 คน มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2557 ทั้งสิ้น 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เดิม 33 คน เหลือ 30 คน กระบี่ เดิม 3 คน เหลือ 2 คน กาฬสินธุ์ เดิม 6 คน เหลือ 5 คน ชัยภูมิ เดิม 7 คน เหลือ 6 คน เชียงใหม่ เดิม 10 คนเหลือ 9 คน ตรัง เดิม 4 คน เหลือ 3 คน นครราชสีมา เดิม 15 คน เหลือ 14 คน นครศรีธรรมราช เดิม 9 คน เหลือ 8 คน นนทบุรี เดิม 7 คน เหลือ 6 คน บุรีรัมย์ เดิม 9 คน เหลือ 8 คน พระนครศรีอยุธยา เดิม 5 คน เหลือ 4 คน เพชรบูรณ์ เดิม 6 คน เหลือ 5 คน แพร่ เดิม 3 คน เหลือ 2 คน ร้อยเอ็ด เดิม 8 คน เหลือ 7 คน เลย เดิม 4 คน เหลือ 3 คน สกลนคร เดิม 7 คนเหลือ 6 คน สระบุรี เดิม 4 คน เหลือ 3 คน สุพรรณบุรี เดิม 5 คนเหลือ 4 คน สุรินทร์ เดิม 8 คนเหลือ 7 คน อ่างทองเดิม 2 คน เหลือ 1 คน อุดรธานี เดิม 9 คน เหลือ 8 คน อุตรดิตถ์ เดิม 3 คน เหลือ 2 คน และ อุบลราชธานี เดิม 11 คน เหลือ 10 คน


นอกจากนี้ มี 54 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส.เท่าเดิม แม้ในจำนวนนี้จะมี 41 จว.ที่เมื่อนำจำนวนประชากร 189,110 คน มาคำนวณแล้วเหลือค่าเฉลี่ยที่มีผลทำให้ได้จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นผลให้มี ส.ส.จำนวนเท่าเดิมกับปี 2557 โดย 54 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี 5 คน กำแพงเพชร 4 คน ขอนแก่น 10 คน จันทบุรี 3 คน ฉะเชิงเทรา 4 คน ชลบุรี 8 คน ชัยนาท 2 คน ชุมพร 3 คน เชียงราย 7 คน ตราด 1 คน ตาก 3 คน นครนายก 1 คน นครปฐม 5 คน นครพนม 4 คน นครสวรรค์ 6 คน นราธิวาส 4 คน น่าน 3 คน บึงกาฬ 2 คน ปทุมธานี 6 คน ประจวบคีรีขันธ์ 3 คน ปราจีนบุรี 3 คน ปัตตานี 4 คน พะเยา 3 คน พังงา 1 คน พัทลุง 3 คน พิจิตร 3 คน พิษณุโลก 5 คน เพชรบุรี 3 คน ภูเก็ต 2 คน มหาสารคาม 5 คน มุกดาหาร 2 คน แม่ฮ่องสอน 1 คน ยโสธร 3 คน ยะลา 3 คน ระนอง 1 คน ระยอง 4 คน ราชบุรี 5 คน ลพบุรี 4 คน ลำปาง 4 คน ลำพูน 2 คน ศรีสะเกษ 8 คน สงขลา 8 คน สตูล 2 คน สมุทรปราการ 7 คน สุมทรสงคราม 1 คน สมุทรสาคร 3 คน สระแก้ว 3 คน สิงห์บุรี 1 คน สุโขทัย 3 คน สุราษฎร์ธานี 6 คน หนองคาย 3 คน หนองบัวลำภู 3 คน อำนาจเจริญ 2 คน อุทัยธานี 2 คน

สรุปแล้ว ภาคเหนือ เดิมมี ส.ส. 36 คน ลดเหลือ 33 คน ภาคอีสาน เดิมมี ส.ส. 126 คน ลดเหลือ 116 คน ภาคกลาง เดิมมี ส.ส. 82 คน ลดเหลือ 76 คน ภาคใต้ เดิมมี ส.ส. 53 คน ลดเหลือ 50 คน และกรุงเทพมหานคร เดิมมี ส.ส. 33 คน ลดเหลือ 30 คน ส่วนภาคที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลง คือ ภาคตะวันออก มี ส.ส. 26 คน และ ภาคตะวันตก มี ส.ส. 19 คน เท่าเดิม


ขั้นตอนต่อจากนี้ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง กำหนดให้ ผอ.กกต.จังหวัดแบ่งเขตแต่ละจังหวัดตามจำนวน ส.ส.ในสามรูปแบบ ภายใน 14 วัน และภายใน 10 วัน รับฟังความเห็นจากพรรคการเมือง ประชาชน จากนั้นภายใน 3 วัน ผอ.กกต.จังหวัดประมวลความคิดเห็นว่าจะมีการปรับปรุงหรือไม่ รายงานต่อ กกต. โดย กกต.มีเวลา 20 วัน ในการพิจารณาเพื่อเลือกรูปแบบที่ดีที่สุด เพื่อประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง

รวมใช้เวลา 50 วัน ตามระเบียบของ กกต. แต่ กกต. คาดการณ์ว่า กระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งจะครบกำหนดประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 2561 ก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 จากนั้นจะเริ่มนับถอยหลัง 150 วัน สู่การเลือกตั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น