xs
xsm
sm
md
lg

“พุทธิพงษ์” พบนายกฯ รับโปรโมตผลงานรัฐบาล เชื่อคน ปชป.เข้าใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พุทธิพงษ์” เข้าพบนายกฯ รับมอบหมายงานรองเลขาฯ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลและประสานงานสภา อ้างไม่มีต่อรองการเมือง เชื่อคนในประชาธิปัตย์เข้าใจ

เช้าวันนี้ (12 ก.ย.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้ารายงานตัวและรับมอบหมายงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาเข้าพบประมาณ 50 นาที 

ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายงานให้ คือ 1. ติดตามผลงานที่รัฐบาลได้ทำไว้แล้วซึ่งมีมากพอสมควร จึงอาจจะมีการเพิ่มเติมเรื่องการสื่อสารในบางส่วนว่ารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาอย่างไร ถึงขั้นตอนใด และจะใช้เวลาเท่าใด 2. ประสานงานแก้ไขปัญหาการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนในทุกรูปแบบ ทั้งทางศูนย์ดำรงธรรม และอื่นๆ หากปัญหาใดมีความเร่งด่วนก็จะสรุปส่งนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้ทำงานกับท่านโดยตรงที่ตึกไทยคู่ฟ้า เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.เป็นต้นไป

นายพุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ในการแต่งตั้งครั้งนี้อย่าเพิ่งมองว่าเป็นเรื่องการเมือง หรือเตรียมการเลือกตั้ง เพราะการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวข้องกับการเมือง มีเพียงการทำงานก็เท่านั้น ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานจำนวนมาก แต่อาจยังไม่มีการสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจเพียงพอ จึงต้องมาสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชน แต่ไม่ถึงขั้นเป็นโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี เพราะตำแหน่งนี้เคยมีมาแล้วในรัฐบาลก่อนๆ

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับคนในประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มา 18 ปี มีความผูกพันกันมาก และการมาครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหาผิดใจอะไรกัน แต่เอาเรื่องงานเป็นตัวตั้งซึ่งทางพรรคมีความเข้าใจเพราะเป็นทางที่ตนเลือกแล้ว

เมื่อถามว่า นายพุทธิพงษ์เป็นแกนนำ กปปส. และมีคดีความ หลายคนจึงมองว่าการมาครั้งนี้เป็นเพราะมีข้อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ทุกท่านสามารถมองได้เช่นนั้น แต่ในเรื่องของคดีความทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการปกติ ตนได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยศาลชั้นต้นได้นัดตรวจสอบพยานปีหน้า ไม่มีเรื่องใดที่จะมาทำให้ตนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะวันนี้ยังถือว่าตนบริสุทธิ์ จึงไม่มีความกังวล เหมือนกับที่หลายๆ คนยังทำงานปกติเมื่อศาลยังไม่ตัดสิน

เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการแต่งตั้งนายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. จากนี้จะมีการแต่งตั้งคนอื่นๆ ในสี่ทหารเสือ กปปส.ที่เหลืออยู่ ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายชุมพล จุลใส มาร่วมงานกับรัฐบาลหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า อย่าคิดว่าทุกคนต้องเหมือนกันหมด เพราะแต่ละคนก็มาเติมเต็มในตำแหน่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ยืนยันว่าเจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่เราต้องการปฏิรูปประเทศ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบยังคงอยู่ ซึ่งไม่ขัดกับสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำ เพราะเรามีความตั้งใจเหมือนกัน 

เขากล่าวว่า การรับตำแหน่งครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขผูกติดอะไรกับการที่เป็น กปปส. ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณเอง อดีตเลขาฯ กปปส.ไปตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก็ไม่มีชื่อพวกตน เมื่อภารกิจของ กปปส.หมดไป ทุกคนแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง และการมาครั้งนี้ก็ไม่ได้ปรึกษานายสุเทพ โดยมีบุคลากรของรัฐบาลเป็นผู้ติดต่อมา อาจมองว่าเราทำงานการเมืองมา 18 ปี และ 2-3 ปีมานี้ก็ถอยจากกิจการของพรรคไปมากเพื่อไปอยู่กับครอบครัว ไม่ได้ออกมาพูดจาให้สื่อมวลชนได้นำเสนอ จึงใช้เวลาพิจารณาอยู่สักเวลาหนึ่ง และก่อนหน้านี้คนในรัฐบาลได้ทาบทามแล้วครั้งหนึ่งให้ไปช่วยงาน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานบอร์ด ททท. แต่เวลานั้นยังไม่สะดวก ไม่พร้อม จึงได้ขอโทษทางผู้ใหญ่ไป

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า เมื่อได้โอกาสจาก พล.อ.ประยุทธ์อีกครั้งหนึ่ง ตนจึงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเลย เพราะถ้าผู้ใหญ่ขอมาสองครั้งและจะปฏิเสธทั้งสองครั้งคงไม่เหมาะสมแน่ ตนเข้ามาทำงานจริงๆ ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.มีความเข้าใจ เพราะตนก็ต้องคิดเรื่องอนาคตตัวเองในพรรคเก่าด้วย แต่ความสัมพันธ์ของตนและคนในพรรคยังเป็นเพื่อนและพี่น้องกันอยู่ ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ได้ระบุว่าให้ดูพื้นที่ กทม.เป็นพิเศษ แต่หากมีปัญหาในพื้นที่ใดก็สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้

ถามอีกว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า อาจเร็วไปที่จะตอบคำถามนี้ นี่ไม่ใช่การซื้อเวลา แต่วันนี้การปลดล็อกยังไม่เกิดขึ้น กฎหมายลูกต่างๆ ก็ยังไม่มีความชัดเจน ยืนยันว่าตนเข้าใจมารยาททางการเมืองดี หากจะต้องกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลง ส.ส.เขต ซึ่งตอนเดินลงพื้นที่หาเสียงคงไม่เหมาะสม หากตนมีตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย จึงคิดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า คงไม่กลับไปสมัคร ส.ส.เขต กับพรรคประชาธิปัตย์

ต่อข้อถามที่ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองที่สนุนพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะยังไม่เริ่มทำงานกับรัฐบาลเลย จึงขอให้ดูตามเนื้องานและความสัมพันธ์ที่ดี หากสามารถพัฒนาแก้ไขปัญหาของประชาชนได้จริง ทำงานด้วยกันอย่างเต็มกำลังถึงค่อยมาตัดสินใจในอนาคต 

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้มาประสานงานทางการเมือง เนื่องจากใกล้เลือกตั้งแล้ว นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำเรื่องนั้น และไม่ใช่เงื่อนไขที่มารับงานครั้งนี้ จึงไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีเรื่องนั้นหรือไม่ เพราะนายกฯ เองก็ยังไม่ชัดเจน ว่าอนาคตทางการเมืองจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอยู่พรรคการเมืองใด ตนจึงยังคงทำงานอยู่กับนายกฯ 

กำลังโหลดความคิดเห็น