xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ทรัพยากรฯ หนุน กม.ปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ ชี้เพิ่มมูลค่า ศก.-พื้นที่ป่าไม้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กเต่า” ส่งเสริมปลูกไม้มีค่า เพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ตามไทยนิยมฯ

วันนี้ (8 ก.ย.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. มีนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ทางกระทรวงจึงส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ที่กำหนดให้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ และอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ป่าไม้ ให้ไม้ทุกชนิดในที่ดินกรรมสิทธิ์ ไม่เป็นไม้หวงห้าม การทำไม้ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อีกต่อไป เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเห็นผลเร็วขึ้น

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอโครงการ ส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กรมป่าไม้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ องค์การมหาชน และ ธ.ก.ส. เป็นหน่วยงานหลักบูรณาการการดำเนินการ มีเป้าหมาย ให้เกิดชุมชนไม้มีค่า 20,000 ชุมชน ใน 10 ปี มีผลต่อประชาชน 2.6 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 400 ต้น รวมจำนวน 1,040 ล้านต้น จะได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 26 ล้านไร่ เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 10,400 ล้านบาทต่อปี

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผลจากโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง สร้างความพอเพียง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศในชุมชนท้องถิ่นให้กลับคืนสู่สภาพที่ใกล้เคียงธรรมชาติ รวมทั้งเป็นการเพิ่มปริมาณต้นไม้และพื้นที่ป่าของประเทศอันเป็นฐานทรัพยากรที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางไทยนิยมของรัฐบาลที่มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น