xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ มอบโอวาทเยาวชนชายแดนใต้ ย้ำเป็นคนไทยร่วมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
นายกฯ ให้โอวาทเยาวชนชายแดนใต้ ย้ำสำนึกความเป็นคนไทยแม้ต่างศาสนาแต่อยู่ร่วมกันได้ ให้ช่วยกันสร้างสันติสุขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนา เปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ติดขัด ย้ำต้องช่วยกันขจัดคนไม่ดี ขรก.ไม่ดีออกไป ต้องมีการตรวจสอบไม่เว้นนายกฯ ชื่นใจเด็กถามเหนื่อยมั้ย

วันนี้ (6 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม ที่นำเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการ “เยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน” รุ่นที่ 6 จำนวน 160 คน เข้าเยี่ยมคารวะ

โดยนายกฯ กล่าวให้โอวาทว่า สิ่งสำคัญคือต้องมีภูมิคุ้มกันตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ และความเป็นจิตอาสาตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ เพราะสองแนวทางดังกล่าวจะเป็นเข็มทิศนำคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล เจ้าหน้าที่ ประชาชน ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะถ้าไม่สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะทำงานลำบาก แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ รัฐและประชาชนต้องร่วมมือกันขจัดความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ตนไม่อาจโทษใครได้ แต่ขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทุกคนจะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยประชาชนควรเป็นผู้ริเริ่มเพื่อพูดคุยในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เจอกันแล้วก็พูดแต่ความขัดแย้ง ความไม่เป็นธรรมความเหลื่อมล้ำ เราต้องหาทางคุยกันว่าจะทำอย่างไร จึงจะเกิดผลประโยชน์ร่วมกัน เพราะเจ้าหน้าที่มีหน้าที่รับผิดชอบกฎหมาย ประชาชนก็มีหน้าที่เคารพกฎหมาย สองฝ่ายต้องไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่สุดท้ายต้องหาแนวปฏิบัติร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ให้บ้านเมืองมีสันติสุข 

รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ แม้หลายคนเข้าใจว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง แต่ขอยืนยันว่าตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี และก่อนหน้านี้ตั้งแต่เป็นทหารระดับเล็กเกือบ 40 ปีมาแล้ว ทราบดีว่าโยบายของผู้บังคับบัญชาทุกคน ไม่มีการใช้ความรุนแรงเลย แต่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายบ้าง ยอมรับว่าอาจจะมีข้อบกพร่อง วันนี้จึงต้องมาคุยกันว่า ในยุคใหม่แล้วควรจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าวันนี้เราคือคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยกันทุกคน ภายใต้ร่มพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกคนมีหลักการเดียวกันคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“ผมกังวลตั้งแต่เป็นทหาร ตอนนี้เป็นรัฐบาลมา 4 ปี ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ได้ โดยพยายามใช้แนวทางของต่างประเทศ และของเราเองมาแก้ไขปัญหา แม้เราจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็ต้องจัดระเบียบให้ได้ ตอนนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะอยู่ถึง เพราะไม่มีใครอยู่ได้ถึงขนาดนั้น เพียงแต่จะทำอย่างไรเพื่อให้มีการต่อยอดให้ถึง ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามา เมื่อเกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามยุคสมัย ขอให้ทุกคนใช้สติปัญญาและสมองคิดในทางที่ถูกต้องสร้างสรรค์ จะคิดแต่เรื่องความขัดแย้งหรือตามใจตัวเองตลอดเวลา มันเป็นไปไม่ได้ สังคมจำเป็นต้องมีกฎระเบียบ”  
 
นายกฯ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาโครงการรัฐบาลต่างๆ ลงไปมากมาย แต่หลายคนอาจยังไม่รู้เพราะยังมาไม่ถึงเรา แต่สิ่งเหล่านี้เหมือนร่างกายของเรา ประเทศไทยเหมือนโครงกระดูก ต้องมีเส้นเลือดเป็นส่วนประกอบไปหล่อเลี้ยงทุกส่วน แต่บางเส้นเลือดที่เป็นเส้นเลือดหลัก เส้นเลือดใหญ่ มันกะพร่องกะแพร่ง ติดๆ ดับๆ พัฒนายาก วันนี้ต้องต่อเส้นเลือดใหญ่เราให้ได้ จากนั้นก็มีเส้นเลือดฝอย เราทำทุกอย่างที่เป็นโครงสร้างให้ไปทุกพื้นที่ และต้องยอมรับในกติกา ไม่อย่างนั้นจะเหมือนกับร่างกายที่มีแต่โครงกระดูก เส้นเลือดไปไม่ถึง ก็อ่อนแอ ใช้แขนขาไม่ได้ นี่เป็นหลักที่อยากฝากให้คิด 

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญความรู้ คุณธรรม หลักนิติธรรม เป็นหลักสำคัญที่ฝ่ายตุลาการใช้ การที่มีผู้ต้องหาเกิดขึ้นสักคนก็ต้องมีกติกา กฎหมายเขียนไว้ไม่ว่าคนจนหรือคนรวย แต่หากถูกรังแกรัฐบาลพร้อมแก้ไขให้ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม แต่หากมองหาความขัดแย้งใส่กันก็จะอยู่แบบนี้ กระบวนการศาลยุติธรรมทำเป็นแสนล้านคดี ถ้าไม่ดีประเทศไทยอยู่ถึงวันนี้ไม่ได้ อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ดีต้องขจัดออกไป ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ถ้าไม่ดีต้องขจัดออก ตนมีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ 

นายกฯ กล่าวว่า การเลือกตั้ง อบต. อบจ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นคนที่มีคุณธรรม มีประสิทธิภาพ ความรู้ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการจัดสรรงบประมาณ และการพัฒนาต้องเลือกคนแบบนี้มาทำงาน ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ ทุกคนเรียกร้อง ถ้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ แต่ตนไม่ได้ตำหนิใคร เพราะทุกคนคงตั้งใจ แต่เรื่องพื้นฐาน การเรียนรู้ และหลักการเขาจะเป็นอย่างไร 

“อย่าสร้างความเข้าใจว่านายกฯ อยู่อย่างไร้การตรวจสอบ หรือเป็นการตรวจสอบที่ไม่จริงจัง โดนทุกอัน แต่เรามีหลักการ เริ่มด้วยสิ่งที่ถูกต้องและมีเจตนาบริสุทธิ์หรือเปล่า ผมไม่มุ่งหวังให้ประเทศถอยหลัง การที่ผมเข้ามาวันนี้เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า หน้าที่ผมก็มีอยู่ในช่วงเวลาที่ผมมีอยู่ วันหน้าเป็นประชาธิปไตยต้องมีคนทำเรื่องนี้ต่อไปให้ได้ สุดแล้วแต่พวกเราว่าจะเลือกใคร หรือจะเลือกแบบเดิม จะเอาอย่างไรก็ไปคิดกันเอง เรื่องของท่าน” นายกฯ กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้สอบถามข้อสงสัย โดยมีเด็กหญิงเยาวชนจาก จ.นราธิวาสคนหนึ่ง ถามนายกฯ ว่าทำงานเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ก็ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้มีคนห่วงใย หายทันที สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการกำลังใจเท่านั้นไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องการให้คนมารัก แต่ขอให้รักประเทศของท่าน รักครอบครัว รักพ่อแม่ รักแผ่นดินเกิดของท่าน แผ่นดินเกิดแผ่นดินตาย ในเมื่อท่านเกิดประเทศไทยแล้วจะต้องตอบแทนอย่างไร

นายกฯ กล่าวอีกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ท้อแท้ เหน็ดเหนื่อย นายกฯ ก็มีแต่เพียงว่าต้องทุ่มเทสร้างแรงศรัทธาของตัวเองขึ้นมาว่าสิ่งที่เราทำมันดี ถูกต้อง ทบทวนตลอดเวลา ตรงนี้ต้องแก้ไขหรือไม่ หลังจากที่ฟังประชาชนมา ถ้ามันไม่ใช่ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง รัฐบาลเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าทำแล้วต้องเกิดประโยชน์กับเรา เกิดประโยชน์กับนายกฯ หรือเกิดประโยชน์กับคนในรัฐบาล มันไม่ใช่ ประโยชน์ที่ทำในวันนี้ ใครจะมาบริหารบ้านเมืองก็ตาม จะต้องตกกับประชาชนและประเทศชาติ นั่นคือสิ่งที่ต้องตั้งไว้กับตัวเองเสมอมา และวันหน้าก็เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ส.ส. นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น ขอให้ลองดู เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ วันข้างหน้าจะออกมาอย่างไร อยู่ที่พวกเราทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ถามเยาวชนที่เข้าพบอีกว่า อายุเท่าไหร่กันแล้ว เยาวชนตอบว่า 17-18 ปี จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ใครอายุ 18 ไปเลือกตั้งทุกคน อะไรต่างๆขอให้คิดอย่างที่ลุงคิด เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราควรจะเลือกใคร เลือกอย่างไร ฉะนั้น รัฐบาลจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่เรา โทษใครไม่ได้ และจะโทษลุงอีกไม่ได้ ถ้าวันหน้ามันตีกันวุ่นวายอีก เพราะลุงก็แก่แล้ว และได้ทำมาให้แล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากันต่อไปตรงโน้น

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณสิ่งที่ถามมา ถ้าอยากจะอะไรกับลุงก็ว่ามา ไม่ต้องไปเตรียมการปรบมือ ไม่เอา ไม่ชอบ นายกฯ ไม่ใช่คนหรูหราแบบนั้น เป็นคนกินอะไรง่ายๆ บางวันก็กินก๋วยเตี๋ยว ซื้อข้าวแกงกิน คนเดินดินธรรมดา ไม่ใช่ชนชั้นอะไรทั้งสิ้น ที่นายกฯ คิดอะไรออกเพราะเป็นคนแบบพวกเรา ติดดินมาตลอด ไม่เคยไปหรูหราฟุ่มเฟือย ไม่เคยเดินห้างมา 10-20 ปีแล้ว ที่เดินห้างไม่ได้คือขี้เกียจเดิน เพราะโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นนายกฯ ยิ่งเดินห้างไม่ได้ รปภ.ต้องไปด้วย ไปกันเยอะ เขาต้องดูแลตามหน้าที่ เขาคงไม่ทำร้ายนายกฯ หรอก เขาจะเล่นงาน รปภ.ของลุงนี่แหละ เดี๋ยวก็ตีกันอีก ก็เลยไม่ได้ไปไหน ทำงานมาเจอพวกเราก็มีความสุขแล้ว อ่านหนังสือเปิดกูเกิล ตนเป็นพวกยุคเบบี้บูมเมอร์ ต้องใช้ให้เป็น แต่คงไม่เก่งเหมือนพวกเราเพราะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนท้ายว่า สัญญากับลุงว่าปัญหาภาคใต้ต้องแก้ให้เสร็จในวันนี้ ขอให้เชื่อมั่น ถ้ามันจบได้ เดี๋ยวเดินหน้าได้หมด ลุงเตรียมไว้ให้เยอะ แต่มันติดเพราะเขาไม่กล้าไป ทั้งๆที่พวกเราคนในพื้นที่บอกไม่เห็นมีอะไร แต่มันก็มีบางพื้นที่เท่านั้น พื้นที่เล็กๆ แต่พื้นที่เล็กๆ นั้น สำคัญ ทำให้ไม่เกิดความเชื่อมั่น พื้นที่เล็กๆ ปัญหาก็ต้องไม่เกิดขอให้ผู้นำศาสนาช่วยกันด้วย มีอะไรให้บอกเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่พร้อมดูแลอยู่แล้ว จะปิดลับอะไรก็ว่ามา เขียนมาบอกลุงก็ได้ ไม่ต้องลงนามก็ได้ เขียนมาบอกว่าโจรผู้ร้ายเป็นใครอยู่ที่ไหน กล้าเถอะ ไม่มีใครเขารู้หรอก ส่งมาให้ลุงพร้อมจะแก้ จะได้แก้ได้เสียที ทั้งเจ้าหน้าที่เกเร ยาเสพติด การค้าขาย ทุจริต ก็มีเหมือนกันทุกพื้นที่ เพียงแต่มีความไม่สงบผสมก็เลยดูแรง ลุงอยากให้คนไปเที่ยวเยอะๆ เงินทั้งนั้น แต่ถ้าไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่มา


กำลังโหลดความคิดเห็น