ปธ.กกต.เปิดอบรมหลักสูตรสืบสวน คาดชี้ขาดผู้ตรวจเลือกตั้งต้นเดือนหน้า

ประธาน กกต.เปิดอบรมสืบสวนไต่สวน ชี้ภารกิจควบคุมเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับสำคัญที่สุด ด้าน “จรุงวิทย์” คาดชง กกต.พิจารณาประกาศผู้ตรวจการเลือกตั้งต้นเดือนหน้า

วันนี้ (27 ส.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตรสืบสวนและไต่สวน สำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 3 จำนวน 77 คน โดยระบุว่า การอบรมนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้บริหารของสำนักงาน กกต.ให้มีความเข้าใจในเทคนิคและวิธีการตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง รวมทั้งกฎหมายพรรคการเมือง เน้นในบริบทของการป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง และกระบวนการไต่สวน การข่าว การคุ้มครองพยาน ตลอดจนการดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและอื่นๆ

โดยผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้และปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการจัดการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นที่เชื่อมั่นต่อสังคม และมีประสิทธิภาพสมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

“การควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และเป็นที่ยอมรับถือเป็นภารกิจสำคัญของ กกต. ดังนั้น หน้าที่การไต่สวนหาข้อเท็จจริงประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดของกกต.จึงมีความสำคัญเจ้าหน้าที่ทุกระดับต้องเข้าใจระบบและกฎหมายต่างๆให้ครบถ้วนถูกต้อง และให้กระบวนการไต่สวนเป็นที่ยอมรับของสังคม”

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการรับรองผู้ตรวจการเลือกตั้งว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานของทางจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน โดยได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องเรียนได้คัดค้านและชี้แจงก่อนที่จะส่งสำนวนมายังสำนักงาน กกต.ขณะนี้มีผู้ถูกร้องเรียนจำนวน 23 เรื่องใน 10 จังหวัด ส่วนใหญ่จะถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติเช่น มีความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่, เคยสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ หรือเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดหรือไม่ โดยกระบวนการตรวจสอบกับมีความเข้มข้นพอสมควร

ส่วนบุคคลที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนนั้นจะต้องให้ กกต.พิจารณาประกาศแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง คาดว่าการแต่งตั้งจะเกิดขึ้นพร้อมกันซึ่งอาจจะต้องรอให้การไต่สวนคำร้อง 23 เรื่องที่ถูกร้องเรียนแล้วเสร็จก่อนถึงจะแต่งตั้งในคราวเดียวกัน ประมาณต้นเดือนกันยายน ทั้งนี้ หลังจากกระบวนการแต่งตั้งแล้วเสร็จผู้ได้รับการแต่งตั้งจะต้องเข้ารับการอบรมให้มีความรู้เรื่องการเลือกตั้งและกฎหมายเลือกตั้งเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปทำหน้าที่

เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงการเตรียมการของสำนักงานกกต.หลังคลายล็อคพรรคการเมือง ว่า กกต.จะเดินหน้าแบ่งเขตเลือกตั้งภายใน 50-60 วัน หลังจากกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะต้องนำรูปแบบเขตเลือกตั้งออกไปประกาศและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมืองด้วย ในส่วนพรรคการเมืองก็จะต้องเตรียมความพร้อมในการทำไพรมารีโหวต

ขณะที่ปัญหาของการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่นั้น พบว่าพรรคใหม่บางพรรคมีความซ้ำซ้อนของชื่อผู้ก่อตั้ง จึงต้องตรวจสอบให้รอบคอบตามคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนความคืบหน้าการขอใช้ชื่อพรรคเกียนของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ อยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งนี้ยอมรับว่าการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคของพรรรการเมืองใหม่จะทันต่อการเตรียมตัวในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ กกต.ได้นำมาพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งด้วย