xs
xsm
sm
md
lg

คสช.สั่งแก้ 5 ถนนรถติดสร้างรถไฟฟ้า ลอกท่อกันน้ำท่วม เร่งจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คสช.เผยขยะอิเล็กทรอนิกส์ตกค้าง 85 ตู้-เศษพลาสติก 2,100 ตู้ สั่งกรมศุลฯ-กรมโรงงานอุตฯ เร่งแก้ ทำบัญชีเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง อนุญาตนำเข้า สั่ง กทม.แก้รถติด 5 ถนนสร้างรถไฟฟ้า เร่งขุดลอกท่อ-คลองกันน้ำท่วม ตร.ต้องประจำจุดช่วงเร่งด่วน

วันนี้ (15 ส.ค.) เวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ว่าถึงความคืบหน้าการจัดการปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยได้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาบูรณาการขับคลื่อนแก้ปัญหาแล้ว ซึ่งข้อมูลสถานภาพขยะปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.เป็นต้นมา กรมศุลกากรแจ้งว่ามีขยะอิเล็กทรอนิกส์ตกค้างอยู่จำนวน 85 ตู้ และมีเศษพลาสติกตกค้างอยู่ 2,100 ตู้ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้กรมศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรมไปดำเนินการแก้ปัญหา ขณะเดียวกันที่ประชุมมีมติให้ ยกเลิกการนำเข้าซากชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเศษอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้จัดทำบัญชีรายชื่ออุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง ที่จะอนุญาตให้นำเข้าโดยกำหนดโควต้าเศษพลาสติกและเศษโลหะที่ใช้แล้วจะต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้ร่วมกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนเป็นตัวตั้ง ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากรร่วมกันพิจารณาเรื่องดังกล่าว

พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการจัดทำแนวทางการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกต้องและไม่ เข้าข่ายเป็นโรงงาน ที่ประชุมมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ร่วมกันพิจารณาแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำว่าเมื่อดำเนินการจัดทำแนวทางแก้ไขเสร็จแล้วให้ เผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบังคับใช้กฎหมายและกำกับดู แลงานในความรับผิดชอบให้ต่อเนื่องและจริงจัง” พล.ท.คงชีพกล่าว

พล.ท.คงชีพยังกล่าวถึงส่วนการแก้ไขปัญหาจราจร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกทม.ต้องลงไปดูแลการแก้ปัญหาการจราจรและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะวิกฤตจราจรที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า ให้ กทม.ติดตามประสานการทำงานร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และสตช.อย่างใกล้ชิด ซึ่ง กทม.จะต้องลงไปแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการคืนพื้นผิวจราจรของถนนสายหลักทั้ง 5 สายที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า ให้มีการปรับผิวการจราจรไม่ให้รถชะลอตัว รถพัง รวมถึงจัดทำช่องจราจรให้ชัดเจน มีการจัดทำจุดกลับรถให้เหมาะสม และมีแสงสว่างเพียงพอในเวลากลางคืนสำหรับพื้นที่ก่อสร้าง

พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กทม.จะต้องจัดชุดซ่อมเร่งด่วนดูแลผิวการจราจรที่ชำรุดในทุกเขตพื้นที่ กทม.ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุบัติเหตุและรถชะลอตัว และขอให้ประชาชนแจ้งไปยังเขตต่างๆซึ่ง กทม.ต้องตอบสนองการแก้ปัญหา นอกจากนี้ กทม.จะต้องดูแลเรื่องการระบายน้ำกรณีฝนตกฉับพลันให้มีการล้างท่อระบายน้ำ และขุดคลองในกำกับของ กทม.ทั้งหมด เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ในส่วน สตช.ให้กวดขันวินัยจราจรโดยเฉพาะเรื่องการขับรถย้อนศร การขับรถบนฟุตปาธ และการหยุดรถให้คนข้ามถนน เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาจำนวนมากว่าไม่มีการหยุดให้ประชาชนข้ามถนนในทางม้าลาย จึงขอให้ตำรวจบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านศูนย์ควบคุมสั่งการและแก้ไขปัญหาจราจร และหากประชาชนพบเห็นรถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ขับรถไม่เคารพกฎจราจรขอให้ถ่ายภาพส่งมาให้เจ้าหน้าที่จับ ปรับ พร้อมทั้งกำชับไม่ให้ตำรวจผิดกฎหมายเอง และต้องประจำจุดเสี่ยงการระบายรถให้การจราจรเคลื่อนตัวในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงต้องประเมินผลทุกสัปดาห์ในการปรับแผนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น