xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ย้ำดูแลคนไทยทุกคนไม่บังคับให้รัก-แก้ปัญหาเพื่อรัฐบาลหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
นายกฯ ร่ายยาวขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยทำความเข้าใจการบริหารงานรัฐ ยันเข้ามาแก้ปัญหาเพื่อรัฐบาลเลือกตั้งวันหน้า ต้องดูแลคนไทยทุกตารางนิ้วไม่ใช่เฉพาะคนที่สนับสนุนหรือบังคับให้คนมารัก พร้อมทักทาย ปธ.กกต.ย้ำไม่มีความข้ดแย้งกับใคร

วันนี้ (9 ส.ค.) ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2561 จัดโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมงาน

โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้อยากให้ศิลปินนักแสดงและพิธีกรช่วยกันประชาสัมพันธ์ โดยแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เพื่อช่วยกันทำให้ชาวต่างชาติรู้ว่าเรากำลังขับเคลื่อนประเทศอย่างไร วันนี้รัฐบาลกำลังพยายามพูดให้ต่างประเทศเกิดความเข้าใจว่าเราแก้ไขปัญหาอะไร อย่างไร ทั้งการบริหารจัดการเรื่องกฎหมาย ระเบียบกติกาจำนวนมาก รวมถึงแก้ไขปัญหาทุจริต ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเร่งรัดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในรัฐบาลต่อไป จึงขอความร่วมมือทุกคนช่วยกัน รวมทั้งสื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดียด้วย เพราะวันนี้ถ้าเรามีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง คนที่ชอบบิดเบือนก็จะออกมาชี้นำสังคมซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประเทศ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด จึงไม่อยากให้พูดจาให้เกิดความเสียหาย ขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งชี้แจงในเรื่องนี้ต่อไปด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คำว่าไทยนิยมและการทำเพื่อประชาชน เป็นสิ่งที่ทุกคนพูดถึงจนติดปากติดหู เมื่อติดปากมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคนนำไปบิดเบือนมากขึ้น เราจึงต้องเข้าใจกันเองว่าอะไรคือประชารัฐ อะไรคือประชาชน อะไรคือไทยนิยมและกลไกการทำความดี โดยต้องสุจริตโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ทั้งนี้ กองทุนหมุนเวียนถือเป็นเครื่องมือตอบสนองความต้องการทุกอย่างของประเทศ ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของประเทศไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมจะสามารถเป็นหลักในการนำเงินของกองทุนหมุนเวียนไปใช้ผลักดันกิจกรรมของรัฐจนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นอกเหนือจากการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ รัฐบาลนี้ห่วงใยประชาชนระดับฐานรากซึ่งเปรียบเสมือนรากแก้ว หรือเสาเอกของบ้าน เราต้องดูแลคนในประเทศที่จะต้องได้รับความเป็นธรรมให้มีความมั่นคงในการดำรงชีพ 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินหน้าประเทศไทยวันนี้สิ่งสำคัญ คือ การบูรณาการงานต่างๆร่วมกัน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงขอฝากทุกคนให้ทำความเข้าใจในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่เช่นนั้นจะถูกบิดเบือนจนไม่เข้าใจกันไปหมด เรื่องนี้ไม่ใช่การควบคุมหรือผูกขาดอำนาจ เพราะการที่รัฐบาลนี้จัดทำโครงการต่างๆ ขึ้นมาก็เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปสู่วิสัยทัศน์ที่ทุกคนต้องการ เราจึงต้องสร้างภาพจำของเราใหม่ การสร้างความเข้มแข็งต้องใช้เวลามากพอสมควร หลังจากที่เรามีปัญหาอุปสรรคมามากมาย เราต้องเดินหน้าไปอีกเพื่อพ้นจากประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง และติดกับดักประชาธิปไตยของเรา จึงต้องคิดใหม่ ทำใหม่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญอีกอย่าง คือ การเข้าใจซึ่งกันและกันของเรา ขอจากนักวิชาการและประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจด้วย เพราะถ้าเรายังติดปัญหาอยู่แบบเดิม โจมตีกันไปมาแบบเดิม ทุกอย่างก็จะกลับสู่ที่เดิม เริ่มสิ่งใหม่ไม่ได้เลย หลายอย่างที่เราทำคือสิ่งใหม่ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้ใคร เราจะต้องสร้างภาพหวังในอนาคตข้างหน้า เราต้องเป็นประเทศที่มั่นคงทุกมิติ มั่งคั่งทุกกลุ่ม ตามแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีเหตุ มีผล มีความพอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความล้มเหลวในวันข้างหน้า เราจึงต้องลดความเสี่ยง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเชื่อมโยงประชาคมโลกตามแนวคิดไทยนิยมนั้นไม่ได้ต้องการไปล้มล้างอะไรของใคร แต่ต้องการให้คนไทยนิยมสิ่งที่ดีงาม ความสุข ความถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจทุกคน บางอย่างต้องเลือกระหว่างความถูกต้องกับความถูกใจ รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ทำเพื่อรัฐบาลเลือกตั้งในวันข้างหน้า ให้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติต่อไป เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ไม่ใช่เป็นการสร้างกระแสนิยมให้รัฐบาลนี้ ยืนยันว่าเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ ทุกคนต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี นักธุรกิจเองก็จะต้องประกอบการอย่างถูกต้อง ไม่ร้องขอในสิ่งที่ทำให้รัฐบาลเสียหาย เราพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนเพื่อนำมาสู่การปฏิบัติให้เป็นธรรม จึงอยากขอร้องทุกคนโดยเฉพาะนักวิชาการ ให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ความรู้สึกที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำให้เกิดความสับสน โดยอ้างตำราวิชาการเพียงอย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่าเราไทยคือไทย จะไปเอาอย่างบ้านเมืองอื่นอย่างเดียวคงไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องน้ำท่วม เมื่อวานไปเยี่ยมไปดูน้ำท่วมที่ จ.เพชรบุรี ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก แต่อยากให้มีการเตรียมตัว รัฐบาลไม่สามารถบอกได้ว่าจะไม่ท่วมร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ การจะดำเนินโครงการอะไรจะต้องทำประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น คลอง D9 รัฐบาลให้งบไป 300 กว่าล้าน เพื่อการระบายน้ำอีกเส้นทาง ซึ่งยังมีแผนดำเนินการอีก 2 เส้น แต่ต้องการทำประชาพิจารณ์จากประชาชน จึงต้องสร้างความเข้าใจกันให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้ รวมไปถึงโครงการก่อสร้างถนนหนทางเส้นต่างๆ ด้วย

“วันนี้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องมีมาตรการดูแล แต่ไม่มีการพูดถึง พูดกันแต่ว่าน้ำล้นอยู่นั่นแหละ สื่อบางสื่อไปยืนถ่ายภาพอยู่ในน้ำ ทั้งนี้น้ำมันไม่ท่วมก็ไปยืนที่น้ำท่วมแล้วก็ถ่ายกันออกมา ผมไม่เข้าใจว่าสื่อแบบนี้มันคืออะไร เขียนอะไรที่มันเกินไป ผมไม่ได้หมายความว่ามันไม่ท่วม แต่อย่าบิดเบือนได้ไหม มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ผมเข้าใจว่าเมื่อสื่อเริ่มมา อีกสื่อก็ต้องเขียนให้มากกว่าเดิม ก็จะกลายเป็นข่าวมากไปเรื่อยๆ เกิดการตื่นตระหนก วุ่นวาย สับสน การทำงานยากลำบากมากขึ้น” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ไม่ใช่มองเฉพาะผู้สนับสนุนหรือชอบเท่านั้น มันไม่ได้ เพราะคนไทยคือคนไทย ประเทศไทยคือประเทศไทย ทุกตารางนิ้ว ทุกพื้นที่มันเป็นหน้าที่ของทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะมาจากอะไรก็ตาม สิ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่อยากจะกล่าวให้ทุกคนเข้าใจ

นายกฯ กล่าวต่อว่า ความภาคภูมิใจแต่ละรางวัลที่ได้มาถือว่ามีค่า เพราะคนอื่นให้มา ยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัลกองทุนหมุนเวียน เราไม่สามารถให้คนอื่นยกย่องหรือให้เกียรติเรา เพราะเราขอเขาไม่ได้ ทุกอย่างเขาจะมอบให้เรามา การที่คนจะรักจะชอบเราหรืออะไรต่างๆ เป็นสิ่งที่เขาให้เรา

“ไม่ใช่ไปใช้อำนาจให้คนรักเรา ผมไม่ทำอย่างนั้น และผมคิดว่าทุกคนไม่อยากทำอย่างนั้น เราทำไม่ได้ หรือการจะไปตอบแทนผลประโยชน์ให้เขารักเรา ผมว่าไม่ได้ คนอื่นที่เขาไม่รักเรา เขาก็ไม่ได้ แต่เขาเป็นคนไทย ผมอยากจะฝากตรงนี้ไว้ด้วย ทั้งภาคประชาชนประชาสังคม ทุกภาคส่วนที่เรียกว่าประชารัฐ ต้องคำนึงสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด เพราะนี่คือแนวคิดของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน กระจายรายได้ให้มากขึ้น ขอให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องเหล่านี้ เพราะวันนี้สังคมโซเชียลมีเดียค่อนข้างจะแรง ยังมีทีท่าไม่ปรองดอง เพราะมีสองฝ่ายเสมอ เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ขอความกรุณาอย่าใช้คำหยาบคาย บางคำที่เขียนมาอ่านไม่ได้ ไม่ได้อยากจะอ่านแต่มันก็ต้องดูเพื่อที่จะแก้ไขปัญหา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ขอพูดหลายเรื่อง เพราะช่วงนี้ถือเป็นช่วงสำคัญในการสร้างความเข้าใจ สิ่งที่เราพยายามทำมาหลายๆ อย่างจะออกมาในปีนี้ หลังทำมา 3 ปีกว่า มันต้องแก้หลายอย่าง การจะปฏิรูปประเทศต้องดูปัญหาอุปสรรคภายในภายนอก หลายคนบอกว่าการปฏิรูปไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นการพูดด้วยความไม่เข้าใจ แต่หลายคนพูดด้วยความตั้งใจบิดเบือน สิ่งเหล่านี้คือทำให้เราทำงานได้ช้า และวันหน้าจะช้าไปกว่านี้อีก ถ้าเราเริ่มต้นในวันนี้ไม่ได้ จึงต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทำวันนี้เริ่มต้นให้ได้ ช่วยกันวางรากฐาน รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ชาติไว้แล้ว 20 ปี ถ้าทำได้เร็วกว่านั้นถือเป็นเรื่องที่ดี

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องดีใจที่จะทำประโยชน์ให้ถึงคนทุกพื้นที่ ทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ว่าจะรักหรือไม่รักเรา คนไทยมีนิสัยอยู่อย่างคือความกตัญญูรู้คุณ ใครให้เราก็รักคนนั้น ใครไม่รู้จักก็ไม่รัก นั่นคือประเด็นสำคัญของการเป็นประชาธิปไตยเรา ฉะนั้น การเป็นประชาธิปไตยของเรา ตนคาดหวังว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลต้องทำงานตามยุทธศาสตร์นี้ เพื่อให้เกิดความทั่วถึงเป็นธรรมในทุกพื้นที่ เพราะวันนี้เหลื่อมล้ำกันมากพอสมควร การกระจายรายได้ยังไม่ดี รัฐบาลอยากจะเร่งรัด สิ่งที่ตนพูดมา

“มีใครเห็นว่าผิดบ้าง ถ้าผิดก็คงผิดจากที่เขาเขียนมา โชคดีที่ยังพอจำได้สมองไม่เสีย ด้วยความเป็นผม ผมต้องโทษตัวเองบ่นใครไม่ได้” นายกฯ กล่าว และว่าขอบคุณคนดีๆ ที่มาร่วมกันทำงาน คนไม่ดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวทักนายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มาร่วมงานดังกล่าวว่า ขอบคุณท่านประธาน กกต.ที่มาร่วมงานในวันนี้ ถึงแม้ว่ากองทุนของท่านจะไม่อยู่ในมาตรการตรงนี้เพราะมีข้อยกเว้น แต่ท่านก็ต้องทำให้ดีตามนี้ ตนรู้ว่ามีความตั้งใจดีทุกคน ตนไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร ตนต้องแก้ไขปัญหาทุกวัน ไม่ว่าปัญหาอะไรก็ตาม ตนต้องรับผิดชอบและแก้ไขให้ได้ตามแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม หากตีกันไปตีกันมา ตนก็ต้องลงไปตัดสินอยู่ดี วันนี้ตนไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้นและเพื่อเตรียมการไปสู่การเลือกตั้งในอนาคต ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามดูแลทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใส ทุจริตคอร์รัปชัน ถ้ามีขอให้บอก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ตนจะแก้ไขปัญหาเอง อย่าไปพูดให้เสียหาย ไม่เช่นนั้นเรื่องมันจะกลายไปต่างประเทศจนแก้ไขลำบาก

“เรื่องทุจริตผิดกฎหมายก็ขอให้ร้องเรียนขึ้นมา อย่าบอกว่าร้องมาแล้วรัฐบาลไม่ทำอะไร รัฐบาลทำมาตั้งเยอะแล้ว กรุณาไปดูด้วย หลายเรื่องมีการบิดเบือนกันไปหมด มีการสร้างสังคมของเราให้เก่งทุกอย่าง ทุกคนเป็นศาลก็ได้ เป็นตำรวจก็ได้ เป็นทหารก็ได้ สังคมเป็นอย่างนี้หมด อีกหน่อยไม่ต้องมีคนทำงาน เพราะทุกคนตัดสินแทนศาลได้ พอศาลตัดสินอะไรมาก็ไม่ใช่อีก ประเทศไทยจะอยู่ได้ก็ด้วยความเท่าเทียมของโอกาส ที่เป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม” นายกฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น