xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เผย ร.๑๐ รับสั่งจัดพระราชพิธีราชาภิเษกเรียบง่าย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงแข็งแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีเผย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงรับสั่งจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเรียบง่าย ไม่สิ้นเปลือง ระบุ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถใน ร.๙ มีพระพลานามัยแข็งแรงดี ย้ำเลือกตั้งใหญ่ ก.พ.ปี 62 จากนั้นอีก 3 เดือนมีเลือกตั้งท้องถิ่น

ภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-26 มิ.ย.นั้น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. เวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกฯ ได้พบปะชุมชนไทยในกรุงลอนดอน พร้อมกล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ได้พบกับชุมชนชาวไทยในสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ และรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ และขอชื่นชมคนไทยที่นี่แม้อยู่ห่างไกลจากประเทศไทย แต่มีสายใยความผูกพันต่อกัน ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แม้มีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งสื่อเขียนว่ามีมาชุมนุมเป็นร้อยคน แต่ตนพยายามนับแล้วก็ไม่ถึงร้อย แต่ตนเข้าใจไม่ว่าอะไร ไม่โกรธ พร้อมฝากบอกคนเหล่านั้นว่าสิ่งที่ตนทำทั้งหมดเพื่อคนไทย

นายกฯ กล่าวว่า การมาเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย ขณะที่การทะเลาะเบาะแว้งกันอาจส่งผลเสียมาถึงประเทศของเราได้ อย่างไรก็ตาม ทุกรัฐบาลไม่มีใครอยู่นาน ทำงานปีแรกก็ดี แต่เมื่อเข้าปีที่ 2 ก็ไม่ค่อยจะดี เพราะต้องเตรียมการเลือกตั้งในครั้งต่อไป นี่คือความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองที่ทำให้การพัฒนาประเทศต้องหยุดชะงัก ซึ่งตรงนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“ในโลกโซเชียลฯ ไม่มีใครชมผม มีแต่ด่า ตอนแรกก็โกรธมากเพราะผมเป็นทหาร ใครว่าแล้วมันกระทบศักดิ์ศรี และเมื่อเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพราะเหตุผลของผมเอง ไม่มีใครเขาเลือกผมเข้ามา แต่ผมก็ต้องทำ ขอเพียงอย่างเดียวเกียรติยศผมมี ดังนั้น ผมไม่เคยทำความเลวร้ายอย่างที่เขาทำกันมา จึงอย่ามามองผมเป็นแบบเดียวกัน วันนี้ผมทำใจได้แล้ว ไม่โกรธแล้ว อย่างเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่เดินทางมาถึงอังกฤษ ผมไม่ค่อยสบาย รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ผมใส่เสื้อไปเดินในสวนก็ถูกกล่าวหาว่าแต่งตัวหล่อเกินไป ทำไมไม่ดูตัวอย่างรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่มาด้วยแต่งตัวตามสบาย กลายเป็นอย่างนั้นไป เมื่อผมหนาวของผม ถ้าไม่ใส่ คงไม่ได้มาเจอกันวันนี้ คงป่วยไปแล้ว ผมก็พันผ้าพันของผม ไม่ได้ดูยี่ห้ออะไร แต่บังเอิญว่ามันมียี่ห้อก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ถ้ามีคนจับตามองผมแบบนี้ วันหน้าจะเอาผ้าขาวม้ามาด้วย ขณะที่สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมดกลับไม่มีอะไร ข่าวกลายเป็นว่านายกฯ แต่งตัวหล่อเกินไป ใช้ของมียี่ห้อทั้งแว่นตาและผ้าพันคอ แต่งานต่างๆ ทำแทบตาย เหนื่อยเปล่าๆ แบบนี้มันไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เวลาที่นายกฯ หรือรัฐมนตรีไปทำงานที่ต่างประเทศ ต้องแสดงอินเทรนด์ แสดงข้างในออกมาให้ต่างชาติเขารู้ ต้องมีความเท่าทัน ไม่ใช่เขาพูดอะไรมาก็ตอบ “เยส” หรือส่ายหน้าตลอด เพราะฟังไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องที่น่าอับอาย ซึ่งตนไม่อยากจะพูดว่ามีใครบ้าง ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศที่สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในเวทีต่างประเทศ และไทยต้องเป็นผู้นำทางพฤตินัยในทุกเวทีโลก ต้องแสดงความคิด พร้อมกับเก็บสิ่งที่ประเทศอื่นพูดในเวทีโลก โดยตนอาจใช้ได้เรื่องการฟัง แต่ในเรื่องของการพูด ถ้าจะให้ตนใช้ภาษาอังกฤษก็คงเหนื่อย เพราะต้องแปลในหัว ตนจึงมีล่ามที่แปลภาษาได้ทันซึ่งตนฟังด้วยว่าล่ามโกหกหรือไม่ โชคดีที่มีคนเก่งและรักอยู่ในตัวทำงานร่วมกันมาตลอด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ตนต้องขอโทษเรื่องที่ภริยาของตนไม่สามารถมาด้วยได้ ไม่ใช่ไม่มาเพราะกลัวจะถูกว่า ว่ามาจัดงานวันเกิดที่นี่ มาฉลองครบรอบแต่งงาน มันไม่ใช่ ตนมาทำงาน “ผมไม่จำเป็นต้องฉลองวันเกิดอะไรให้กับเมียผม ในวันใดทั้งสิ้น เพราะวันสำคัญของเขา ผมให้เขาทุกวันอยู่แล้ว แต่บางครั้งผมก็ลืม เคยลืมวันเกิดเมียอยู่ปีหนึ่ง ยังสงสัยว่าทำไมเขาไม่พูดกับผมเลย สองวันมาแล้ว ยอมรับว่าลืม บางทีเลยต้องอวยพรก่อนถึงวันจริง ก็ยังสงสัยสมองของตัวเองเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ชิดกับเรามากเกินไป ออลเวย์อินมายฮาร์ต วันสำคัญสำหรับคนที่เรารักมีให้ทุกวันอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งว่าภรรยาผมตั้งใจจะมาแต่ต้องไปพบแพทย์ เพราะเขาต้องผ่าตัดเล็กน้อย หมออยากให้พักเลยไม่ได้มา ก็มีคนไปมโนต่อไปเรื่อยว่าไม่มาเพราะอะไร”

นายกฯ กล่าวว่า เขามาได้ก็อยากให้เขามา แต่ถ้ามาแล้วเกิดอะไรขึ้น ใครจะรับผิดชอบ แต่วันนี้ถึงไม่มาก็เหมือนมา เพราะถามตนทั้งวัน คอยให้กำลังใจทุกวันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ตอบไปทุกครั้งเขาจะได้หมดห่วง อยู่ด้วยกันมา 30 กว่าปีแล้ว ลูกก็อายุ 30 กว่าปี และรัฐมนตรีของตนทุกคนก็มีความสุขกับลูกกับหลานกันแล้ว วันนี้พวกเราอาจจะลำบาก แต่จะยอมให้ลูกหลานเราลำบากอย่างนั้นหรือ เป็นหน้าที่ของทุกๆ รัฐบาล จึงต้องวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า การเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้เป็นการเดินทางตามแผนการทางยุทธศาสตร์ เพราะสหราชอาณาจักรเป็นประเทศสำคัญ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีเสถียรภาพที่ดีซึ่งมีผลการเยือนของนายกรัฐมนตรีจนตอนนี้มีผลสำเร็จที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้พบหารือกับ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้พบผู้บริหารรายใหญ่หลายรายด้วยกัน และเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการลงทุนประเทศไทย โดยในการสัมมนาเมื่อเช้ามีนักธุรกิจสหราชอาณาจักรเข้าร่วมกว่า 100 ราย ได้เยี่ยมชมสำนักงานบริษัท Pearson ซึ่งกำลังจะเข้าไปลงทุนด้านการพัฒนาระบบการสอนอาชีวศึกษาในประเทศไทย ตลอดจนได้พบประธานสภาขุนนางสหราชอาณาจักร The Right Honourable the Lord Fowler เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนมุมมองนิติบัญญัติระหว่างกัน

นายกฯ กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เปิดตลาดการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น ส่งเสริมการลงทุนของอังกฤษในประเทศไทย ทั้งนี้การดำเนินนโยบายทั้งหมดนี้ก็เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทยทั่วโลกทำหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เดือดร้อน ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนคนไทย และศูนย์ดำรงธรรมของไทยรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนมาทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านเรื่อง และนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการแก้ไขแล้วกว่าร้อยละ 90

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ในการทำงานอะไรไม่มีทางที่จะสำเร็จได้ในวันเดียว แม้แต่การเป็นประชาธิปไตยบางประเทศก็ยิ่งกว่าไทยอีก และตั้งแต่ผมเข้ามาก็ยังไม่มีใครตายกับผมสักคนเดียว ดังนั้น ขอร้องอย่าไปเชื่อหรือฟังข้อมูลการบิดเบือนต่างๆ ยืนยันว่าใช้อำนาจอย่างเหมาะสม ผมอยู่กับคนไทยไม่ได้อยู่กับคนอื่น อะไรเลี่ยงได้ก็เลี่ยงจนไม่รู้จะเลี่ยงอย่างไรแล้ว เพราะถ้าทำกฎหมาย ก็จะเสีย จึงต้องเข้าใจความเป็นบริบทของคนไทยด้วย สำหรับเรื่องการเมืองพูดอีกครั้งว่า ปีหน้ามีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 เพราะห้วงเวลาเป็นแบบนี้ ต้องเข้าใจว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญจะมีการกำหนดระยะเวลา”

นายกฯ กล่าวว่า อย่างตอนนี้ถ้าสมมติว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) อีก 3 ฉบับ ทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว เมื่อได้ทูลเกล้าฯ ถวายก็ต้องรอระยะเวลาใน 90 วันก็จะลงมา ซึ่งก็เป็นพระราชอำนาจ ที่จะทรงพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง คณะกรรมการของท่านที่จะคอยดูแล ระยะเวลา 90 วันก็นับกันต่อไป ก็คงประมาณเดือนกันยายน และก็ยังมีช่วงเวลาคำสั่งของ คสช.อยู่ฉบับหนึ่ง เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีเรื่องการทำไพรมารีโหวต และการแบ่งเขตการเลือกตั้ง ต้องใช้เวลาทำตรงนี้จึงมีการเขียนระยะเวลา 90 วันไว้ เพื่อให้ทำในเรื่องเหล่านี้

นายกฯ กล่าวว่า การหาสมาชิก การประชุมสมาชิกพรรค ซึ่งตอนนี้ก็ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่ให้ยกเลิก 3 คำสั่งที่เกี่ยวข้อง เช่นการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งถ้าเลิกคำสั่งนี้เมื่อไหร่ทุกอย่างเหมือนเดิม ยังจะทะเลาะกันออกมาด่ากันโหวกเหวกเป็นแบบการเมืองไทย ยังแก้ไม่ได้ แต่ก็โอเคตนก็ผ่อนผันให้ในบางเรื่อง เช่น สามารถประชุมพรรคได้ หาสมาชิกได้ แต่อย่าออกมาด่ากันบนถนน หรือเคลื่อนไหว ตนไม่ให้ถือเป็นหลักการของตน เพราะฉะนั้นระยะเวลา 90 วัน เป็นการเผื่อระยะเวลาให้กับนักการเมือง เขาจะได้ไม่มาอ้างได้อีกว่าทำไม่ทัน ดังนั้น 90 วันตรงนี้เป็นการเผื่อไว้ให้ ถ้าสมมติจากนี้ไปจากเดิม 90 วัน บวกอีก 150 วัน เลือกตั้งก็จะตกไปที่เดือน พ.ค. 2562 แต่ตนบอกแล้วว่าถ้ามันเร็วกว่านั้นตนก็จะให้ ดังนั้นก็อาจจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะหลังจากนั้นจะต้องใช้เวลาตั้งรัฐบาล หลังจากนั้นก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะต้องห่างจากการเลือกตั้งใหญ่สัก 3 เดือน ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ก็ขอให้จับตาดูว่าหลังจากที่มีการปลดล็อก ขั้นที่ 1 จะเกิดอะไรขึ้น แล้วขั้นที่ 2 จะมีอะไรตามมา

“ระหว่างนี้มีอะไรสำคัญรู้ไหม พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งยังไม่ได้จัด ถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะทรงมีพระราชวินิจฉัยลงนาม พระองค์จะทรงดูสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร สงบเรียบร้อยพระองค์ก็ยินดี ทรงรับสั่งว่าให้จัดอย่างประหยัด อย่าให้สิ้นเปลือง ขอให้ครบตามจารีตประเพณีเท่านั้น และพระองค์ทรงเป็นกำลังใจให้รัฐบาลในการทำตรงนี้ให้เรียบร้อย ทรงบอกว่าสิ่งที่สมเด็จพระราชบิดาทรงทำไว้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ไปเช็กดูว่าทำครบหรือยัง ตรงไหนทำได้ทำไม่ได้ หรือว่ายังไม่ได้ทำให้ทำต่อ เรียกว่าสืบสาน รักษา ต่อยอด ทรงพระราชทานคำแนะนำอันเป็นประโยชน์ ทรงต้องการให้บ้านเมืองมีระเบียบวินัย คนมีการปลูกฝังเรื่องจิตอาสา ขุดลอกคูคลอง ทรงบอกทำไปสัปดาห์แรกก็ดี แต่ก็กลับมารกอีกเหมือนเดิมไม่ได้ ต้องทำต่อเนื่อง เดี๋ยวในอาทิตย์หน้า เดือนหน้า นายกฯ และครม.ทั้งหมด ต้องไปทำจิตอาสาขุดลอกคูคลองด้วย เพื่อสร้างความร่วมมือตามแนวพระราชดำริ วันนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง เพียงแต่ออกงานไม่สะดวก เพราะพระชนมายุมากแล้ว ให้พระองค์ได้ทรงพักผ่อน ผมทราบมาตลอดพระองค์ยังทรงแข็งแรง ทรงพระราชดำเนินได้ดีทุกอย่าง นั่นคือหลักชัยของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้พูดจนหมดเปลือกเพราะตนพูดโกหกไม่ได้ ทหารพูดโกหกไม่เป็น พูดให้ใครรักก็ไม่เป็น แต่ห้ามใครรักไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าพูดอย่างนี้ก็จะถูกกล่าวหาว่าแก่แล้วก็ยังจะทำปากหวาน วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาได้จำนวนมากแล้ว ซึ่งถ้าประชาชนสงบเรียบร้อย เคารพกฎหมาย มีความรู้ ปัญหาทุกอย่างก็แก้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่พร้อมทั้งหมด ซึ่งโทษกันไม่ได้ ต้องโทษคนที่อยู่ดีกว่า ที่ไม่สามารถทำให้คนเหล่านี้มีความเท่าเทียม สาเหตุหลักเป็นเพราะการเมืองยังไม่เข้มแข็งพอ ถ้าการเมืองเข้มแข็งก็คงไม่ใช่แบบนี้ ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามแก้ไขในทุกๆ เรื่องให้มีความเท่าเทียม แต่การเรียกร้องต่างๆต้องขอเวลากับรัฐบาลบ้าง เราให้ทุกอย่างทุกคนไม่ได้ นี่คือการทำงานของรัฐบาลและ คสช.และทหารทุกคน ซึ่งคือลูกหลานของคนไทย

นายกฯ กล่าวว่า การที่โลกใบนี้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ถือเป็นอันตรายเช่นกัน เพราะการพูดผ่านโซเชียลมีเดียไม่ต้องรับผิดชอบ สื่อเองก็ยังสู้ไม่ได้ ก็ขอให้ระวังกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะมีบทลงโทษแรง วันนี้ถือเป็นการเปิดใจพูดของรัฐบาล ว่ามีความจริงใจกับทุกคนแค่ไหน ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครหน้างอใส่ ยกเว้นพวกต่อต้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่อย่าไปโกรธพวกเขา ตนอาจพูดจากระเซ้าไปบ้าง อาจเคยโมโหแต่ก็เลิกโมโหไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม การพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับคนไทยต้องหยุดลงกะทันหัน หลังนายกฯ ใช้เวลาพูดไปประมาณ 58 นาที เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอังกฤษขอให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับขึ้นห้องพัก ตามระเบียบรักษาความปลอดภัย หลังได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอน ขณะที่นายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน แจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้คนไทยรับทราบและขอให้ระมัดระวังในการเดินทางกลับที่พัก


กำลังโหลดความคิดเห็น