เมืองไทย 360 องศา
"ทุกอย่างจบแล้ว ให้เขาดำเนินการไป ส่วนจะได้ตัวหรือไม่อยู่ที่เขา"
นั่นเป็นคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลานี้ ตอบคำถามถึงการตามล่าตัว อดีตพระพรหมเมธี หนึ่งในผู้ต้องหาคดีที่เรียกกันแบบเข้าใจง่ายว่า"คดีทุจริตเงินทอนวัด" โดยตามข่าวระบุว่ามีปลายทางการหลบหนีไปที่ประเทศเยอรมันนีและกำลังทำเรื่องขอลี้ภัยที่นั่น
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวในตอนแรกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็เดินทางไปพร้อมกับผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปยังประเทศเยอรมันนี เพื่อชี้แจงให้เห็นว่าคดีที่อดีตพระพรหมเมธีถูกตั้งข้อหานั้นเป้นคดีทุจริตไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือการปิดกั้นเสรีภาพทางศาสนาแต่อย่างใด พร้อมทั้งประสานงานนำผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ในตอนแรกก็มีการระบุว่าต้องรอการพิจารณาของทางการเยอรมันนีเป็นเวลา 3 วัน และตอนนั้น หากจำกันได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอ 3 วันที่นั่นเพื่อให้ได้คำตอบ แต่กลายเป็นว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็เดินทางกลับมาก่อน แล้วให้ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรออยู่ที่นั่น
ที่น่าสนใจก็คือเมื่อมาถึงประเทศไทย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาก็เก็บตัวเงียบ ยังดีที่เขาต้องเดินทางมาร่วมประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติในฐานะสนช.เพื่อร่วมประชุมร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 เลี่ยงไม่ออก แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรยังอ้างว่าไม่ได้ไปเยอรมันนีด้วยซ้ำ ทุกอย่างจึงอ้ำอึ้งคลุมเครือไปหมด
รวมไปถึงรายงานที่ระบุว่ามีตำรวจบางคนในสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)บางคนทำตัวเป็น"หนอนบ่อนใส้"อีก นั่นคือ"พาอดีตพระพรหมเมธีหนี"หรือ"ปล่อยให้หนี"และตามมาด้วยคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยและอาญาตำรวจสองนายไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งการสั่งย้ายผู้กำกับตม.นครพนม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองภาค 4
กลายเป็นว่างานนี้ตำรวจมีเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมาแบบเดิมอีกจนได้หลังจากก่อนหน้านี้ที่มีตำรวจระดับยศพันตำรวจเอกนายหนึ่งในสังกัดนครบาลก็ได้พา นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีทุจริตเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวมาแล้ว
วกกลับมาที่คดีทุจริตเงินทอนวัดอีกที หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได่ทำตัวเป็น"นินจา"อยู่สองสามวัน ล่าสุดก็มีรายงานว่าได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสและตามข่าวที่รายงานบอกว่าไปติดต่อประสานงานกับตำรวจสากลที่มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปารีสเพื่อชี้แจงเรื่องคดีอาญาของอดีตพระพรหมเมธีและให้ช่วยประสานงานกับทางการเยอรมันนีให้ส่งตัวมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย จนกระทั่งเกิดคำพูดดังกล่าวข้างต้นของ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯที่บอกว่า"มันจบแล้ว"นั่นแหละ หรือยังมีคำตอบพ่วงท้ายตามมาอีกว่า การติดตามจับกุม"เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ซึ่งหากฟังกันแบบทำความเข้าใจมันก็เหมือนกับการ"บี้"ยังไงยังงั้น
และล่าสุดเมื่อวานนี้(14 มิถุนายน)พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มาบอกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อไปดูงานเรื่องการจัดซื้ออาวุธปืนที่นั่น กลายเป็น"คนละเรื่อง"ไปแบบน่าเวียนหัวเลยทีเดียว แต่ที่แน่ๆคนที่เสียเครดิตก็ย่อมเป็น พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั่นแหละเพราะถึงอย่างไรก็คว่าน้ำเหลว หมดท่ากลับมาทุกครั้ง
เมื่อพิจารณาจากผลงานในช่วงหลังๆของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ปรากฏว่าไม่ค่อยฮอตเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะมี"แคดิเดต"บางคนกำลังไล่ประกบตามมาติดๆ และก่อนหน้านี้ก็มักมีข่าวถูกแซะถูกเด้งอยู่บ่อยครั้งแต่ก็สามารถยืนระยะยืนยงมาจนถึงวันนี้
แต่ล่าสุดเมื่อมีคำพูดปริศนาลอยลมมาว่า"มันจบแล้ว"และการจับกุมเป็นหน้าที่เขา จะได้ตัวมาหรือไม่เป็นหน้าที่เขา มันจะสื่ออะไรไปถึง"เขา"หรือไม่มันน่าหวาดเสียวเหมือนกัน !!