xs
xsm
sm
md
lg

นาฬิกาเพื่อน-ต่ออายุประธานปปช.ปฏิรูปยุคคสช.พวกพ้องมาก่อน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


มิน่าละว่าทำไมในช่วงสองสามวันนี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่า "พี่ใหญ่"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็จะไม่ให้อารมณ์ยิ้มแย้มได้อย่างไรในเมื่อเวลานี้ทุกอย่างกำลังพลิกกลับมา"เข้าทาง"จนรอดพ้นวิกฤติไปได้อย่างสะดวก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดี"เสือดำ"ของ "เจ้าสัว" เปรมชัย กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ที่แม้ว่าตำรวจที่ทำคดีกำลังถูกรุมโจมตีจากสังคมอย่างหนักในเรื่องของความ"เอนเอียง"เข้าข้าง"คนรวย" แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นกระแสเป็นแรงกระทกเข้า"ทางอ้อม"มายังพวกผู้นำในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มีตัว "พี่ใหญ่"เป็นแกนหลักอยู่ด้วยก็ตาม หรือแม้แต่การที่โดดเข้ามาอุ้ม "พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล"รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่คุมคดีดังกล่าวนั้นก็มีที่มาไม่ใช่อื่นไกลถือว่าเป็น"เด็กปั้น"หรือเด็กสร้างกันมาของ"สองพี่น้อง 2 ป."นั่นคือ "ป้อมกับประยุทธ์ "นั่นแหละ

แต่ถึงอย่างไรทั้งเรื่อง"คดีเสือดำ"รวมไปถึงเรื่อง"หวย 30 ล้าน"ที่เกิดขึ้นมาแบบพอเหมาะพอเจาะก็ทำให้เบี่ยงเบนเรื่อง"กระแสจริยธรรม"จากปมครอบครองนาฬิกาหรูไปได้

ล่าสุดเมื่อสองสามวันก่อน(คำแถลงออกมาเย็นวันศุกร์ที่ 9 มีค.)ยังมี"ข่าวดี"ที่สามารถ"ค้ำประกันความเสี่ยงในอนาคต"ได้อย่างยาวนานเข้ามาเติมเต็มอารมณ์ของ "พี่ใหญ่"เพิ่มเติมได้อีกก็คือ การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ปปช.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ความหมายก็คือผลจากคำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ชุดปัจจุบันนอกจากจะสามารถขยายวาระจากเดิม 7 ปีออกไปเป็น 9 ปี แล้วหากโฟกัสไปที่ระดับ"ฟันเฟืองสำคัญ"คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่เป็นประธานปปช.ได่อยู่ยาว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั่นคือเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(เลขาฯพล.อ.ประวิตร) และพ้นตำแหน่งมายังไม่ครบ 10 ปี

"รัฐธรรมนูญเขียนห้าม แต่กฎหมายลูกโดย สนช.ไปอนุญาต สนช.ที่ไม่เห็นด้วยจึงส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญที่มีตุลาการศาล 5 คน ที่อยู่ครบวาระ 9 ปีแล้ว แต่ สนช.ให้อยู่ต่อ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 3 คนที่ขาดคุณสมบัติแต่ สนช.ให้อยู่ต่อ ได้ลงมติแบบเงียบๆ ไม่มีการแสดงผลการลงมติ ไม่มีการระบุชื่อว่าใครลงมติอย่างไรว่าด้วยเสียงข้างมากหรือเอกฉันท์ให้ ปปช.ที่ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามอยู่ต่อไปจนครบวาระได้" ซึ่งนี่คือข้อสังเกตจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ถือว่าทำให้มองเห็นภาพอีกมุมหนึ่งได้ชัดเจนขึ้น

ทุกอย่างมันทำให้อดคิดแบบทำความเข้าใจไม่ได้ว่าผลที่ออกมาแบบนี้มัน"เชื่อมโยง"ถึงกันหมด หรือ "คนละเรื่องเดียวกัน"

แน่นอนว่าผลจากมติของ สนช.และจากมติของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างต้นมันก็ย่อมทำให้ คณะกรรมการปปช.ชุดปัจจุบันต่ออายุลากยาวไปถึง 9 ปี อีกด้านหนึ่งมันก็เป็นการ"สร้างหลักประกัน"ความมั่นคงให้กับรัฐบาลและคนในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ไปแบบไร้ความกังวลในวันหน้าโดยไม่ต้องมาหวาดผวาว่าใครจะมา"เช็กบิล"ในภายหลัง เหมือนกับการที่สังคมกำลังตั้งข้อสังเกตไว้ล่วงหน้ากรณี"นาฬิกาหรู"ว่าผลสรุปจะออกมาแบบไหน แม้ว่าในเวลานี้เวลาผ่านมานานหลายเดือนแล้ว เรื่องราวก็ยังไม่ไปถึงไหน มีการขยายเวลาไปเรื่อย

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจว่าทำไมช่วงเวลานี้ "พี่ใหญ่"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถึงได้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะทุกอย่างกำลังพลิกกลับมาเข้าทาง อย่างน้อยเรื่องการ"ต่ออายุ"ประธาน ปปช.ให้อยู่ในเก้าอี้ต่อไปจนถึง 9 ปี เป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นใครมันก็ต้องแฮปปี้อยู่แล้ว ว่ามั๊ย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น