xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ลุ้นเฮือกสุดท้าย โหมไทยนิยมแก้จนสุดตัวสกัด “แม้ว”!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

ต้องบอกว่าทุ่มกันสุดตัวจริงๆ สำหรับโครงการ “ไทยนิยม” เพื่อความมั่งคั่ง ยั่งยืน ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เริ่มดีเดย์คิกออฟเป็นทางการ เริ่มที่จังหวัดนครปฐมเป็นแห่งแรก เป้าหมายดำเนินการแบบปูพรมไปพร้อมๆ กันทุกหมู่บ้าน กว่า 74,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ

หลักการก็จะใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีแม่งานโดยกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน นั่นคือ ใช้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ลงไปจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีฝ่ายทหาร ตำรวจ เข้าร่วมทั้งเป็นวิทยากรและรักษาความสงบป้องกันพวกป่วน เรียกว่าลงไปเป็นทีม “แบบครบวงจร”

รูปแบบบอกว่าจะลงไป “เก็บรายละเอียดกันทุกเม็ด” อ้างว่า นี่คือ การแก้ปัญหาความยากจนแบบครบวงจร ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไทยชุดไหนเคยทำมาก่อน เพราะเป็นการลงไปสอบถามชาวบ้าน ว่า มีปัญหาอะไรบ้าง ต้องการให้ช่วยเหลือแบบไหน มีทั้งการฝึกอาชีพพื้นฐานตามความถนัด มีการจัดหาทุนเอาไว้รองรับเพื่อสร้างอาชีพ สร้างอนาคตกันใหม่ ส่วนพวกลูกหลานที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ ก็อาจจูงใจให้ศึกษาหาความรู้ มีหน่วยงานรัฐเข้าไปติดตามผลเป็นพี่เลี้ยงเป็นระยะ

ตามที่มีการอธิบายก่อนหน้านี้ว่า นี่เป็นโครงการต่อยอดมาจากโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐ ที่มีการเปิดให้ “คนจน” ลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือทั้งในเรื่องค่าครองชีพ และอำนวยความสะดวกในเรื่องค่าเดินทาง

พิจารณากันโดยรวมๆ ก็ถือว่าดี มีการช่วยเหลือแบบเข้าถึงตัว ไม่ใช่หว่านแห เปะปะ มั่วไปทั้งคนจนคนรวย แม้ว่าวิธีการ “เลียนแบบมาจากประเทศจีน” ตามโครงการแก้จนแบบเคาะประตูบ้านของประธานาธิบดี “สี จิ้น ผิง” ที่ทำสำเร็จมาแล้ว ทำให้คนจีนหลุดพ้นจากรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนหลายสิบล้านคน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ว่ากัน เหมือนกับวลี “ไม่ว่าแมวสีไหนถ้าจับหนูได้ก็โอเค” ประมาณนั้นแหละ

ย้อนมาโฟกัสที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เริ่ม “ปูพรม” โครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยเขาลงพื้นที่ ที่จังหวัดนครปฐม เป็นแห่งแรก

พิจารณากันตามรูปการณ์แล้วถือว่าเขา “จัดเต็ม” สำหรับโครงการนี้ เหมือนกับการลุ้นเฮือกสุดท้าย และในเวลาที่จำกัดเหลือแค่ไม่ถึงปี ก็ต้อง “เร่งสปีด” อย่างเต็มที่ ลุ้นในใจลึกๆ ว่า ต้องสร้างความ “ประทับจิต ตรึงใจ” ชาวบ้านให้ได้ โดยเฉพาะแย่งชิง “รากหญ้า” ให้จดจำคนในตระกูล “จันทร์โอชา” ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออดอ้อนพี่น้องชาวจังหวัดนครปฐม นั่นแหละ

ที่บอกว่าต้อง “แย่งชิงรากหญ้า” หรือแย่งชิง “คนจน” นั้นความหมายก็คือ ต้องรู้ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังต้องสกัดเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่ให้กลับมา เพราะอย่างที่รับรู้กันว่า พวกเขายังครองใจชาวบ้านได้เป็นส่วนใหญ่จาก “โครงการประชานิยม” ที่ใช้งบประมาณของรัฐไปทุ่มหาเสียง ซื้อเสียง แบบไม่ต้องลงทุนสักบาท และผลสำรวจที่ออกมาตรงกันว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทย ก็ยังมีแนวโน้มสูงว่าจะชนะการเลือกตั้งอีก

ซึ่งนั่นก็จะเป็น “ขวากหนาม” สำคัญที่จะสกัดไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ “ไปต่อ” แม้ว่าจะได้สร้างกลไกทางรัฐธรรมนูญเอาไว้รองรับแล้วก็ตาม แต่ด้วยสมการตัวเลขของ ส.ส. ในสภา ก็ยังเป็นตัวแปรชี้ขาดอยู่ดี

ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง แบบเล็งผลเลิศ สร้างกระแสให้ชาวบ้านเกิดความประทับใจให้ได้ พร้อมๆ กับการทุ่มเท ขันนอต เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันแบบขนานใหญ่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก พวกราคาสินค้าเกษตรจะต้องดีขึ้นจนเกิดความแตกต่างให้ได้

แต่ก็อย่างว่า ในเมื่อเวลาจำกัดและเพิ่งมาผลักดันกันสุดตัวในช่วง “ขาลง” อารมณ์ร่วมมันเลยกระตุ้นยาก เพราะหากลองเปรียบเทียบในยุค ปีสองปีก่อนรับรองว่า “ต้องปัง” กว่านี้หลายเท่า อีกทั้งเรื่องความยากจน หากจะให้เห็นผลมันต้องใช้เวลา ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องระวังให้มากที่สุด ก็คือ ระหว่างที่ขับเคลื่อนไทยนิยมกันเพลินนั้น อย่าให้เกิดเรื่องทุจริตใช้งบเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นก็จบเห่ทันที
     
     เพราะลองให้พวกข้าราชการถือเงิน มันย่อมล่อตา ล่อใจ มีความเสี่ยงวันยังค่ำ แต่ถึงอย่างไรมันก็ต้องเสี่ยง เพราะนี่ถือว่า “เฮือกสุดท้าย” แล้วจริงๆ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น