xs
xsm
sm
md
lg

เอาแน่! ดึงเงิน สสส.หนุนประชารัฐ “บิ๊กตู่” ตั้ง “ผจก.สสส.- หมอพลเดช” ร่วมบอร์ดอนุฯกลั่นกรองโครงการงบฯภาคปี 62

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอาแน่! ดึงงบฯ สสส. หนุน “โครงการประชารัฐ ปี 62” นายกฯ นั่ง ปธ.จัดงบฯ พัฒนาภาคปี 62 พร้อมตั้ง “ผจก.สสส.- หมอพลเดช - ปธ.สานพลังประชารัฐ” ร่วมบอร์ดอนุฯกลั่นกรองโครงการบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค งบฯปี 62 ชุด “รองฯสมคิด” พร้อมกำหนดพื้นที่ 6 ภาค 76 จังหวัด ยึดแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ดำเนินการในพื้นที่ทั่วประเทศ เน้นสอดคล้องกับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค

วันนี้ (14 ก.พ.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือถึงหัวหน้าส่วนราชการะดับสูง ถึงการแบ่งพื้นที่การดำเนินแผนงาน/โครงการในระดับภาค เป็น 6 ภาค เพื่อเป็นโครงสร้างการจัดทำแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ที่จะดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ให้มีความสอดคล้องกับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เพื่อยึดหลักการ แบ่งพื้นที่การดำเนินแผนงาน/โครงการในระดับภาค เป็น 6 ภาค

ทั้งนี้ ประกอบด้วย 1. ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุดรดิตถ์ และ จังหวัดอุทัยธานี 2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดเลย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสกลนคร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองลำภู จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี

3. ภาคกลาง จำนวน 17 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดอ่างทอง 4. ภาคตะวันออก จำนวน 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง และ จังหวัดสระแก้ว

5. ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 6. ภาคใต้ชายแดน จำนวน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และ จังหวัดยะลา

ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามคำสั่งคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ แผนงานบูรนาการ พัฒนาพื้นที่ระดับภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่ 2/2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาความเหมาะสมโครงการตามแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดทำ แผนงาน/โครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

มีรายงานด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นั่งเป็นประธานและลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ แผนงานบูรณาการ พัฒนาพื้นที่ระดับภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยมี 5 รองนายกฯ รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นกรรมการ ร่วมกับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง

ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นประธานอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการตามแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค มีอนุกรรมการ เช่น นายอดิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง, นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายกานต์ ฮุนตระกูล ประธานโครงการสานพลังประชารัฐ, นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ นายพลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) เป็นต้น ทั้งนี้ยังแต่งตั้งคณะทำงาน 6 คณะ มีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน โดยคณะทำงานมีตัวแทนจากกระทรวงต่างๆ เป็นกรรมการ

มีรายงานว่า ที่ผ่านมา นพ.พลเดช ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงการใช้งบประมาณของ สสส. สนับสนุนโครงการประชารัฐของรัฐบาล ซึ่งพบว่า โครงการประชารัฐเป็นไปตามวัตถุประสงค์ 6 ข้อของ สสส. ซึ่งเหมือนทุกอย่าง แต่เป็นในส่วนของสุขภาวะสังคม สุขภาวะชุมชนในแบบองค์รวม

โดย การทำงานจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 6 ข้อของ สสส. คือ 1. ส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ 2. สร้างความตระหนักของประชาชนเพื่อลดความเสี่ยง ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ 3. สนับสนุนการรณรงค์เพื่อลดการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4. สนับสนุนการวิจัยที่ทำให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาพ 5. พัฒนาความสามารถของชุมชน องค์กรเอกชน องค์การสาธารณประโยชน์ และหน่วยงานภาครัฐ และ 6. สนับสนุนการจัดกิจกรรมและสื่อเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ

“2. เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 6 ข้อ แต่จะมีความหมายของนโยบายประชารัฐเข้าไปด้วย และ 3. ที่อยู่ระหว่างนี้คือนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ 6 ข้อ และประชารัฐก็อาจจะไม่ตรง ก็จะมีการพิจารณาไปตามสภาพ” รายงานระบุ




กำลังโหลดความคิดเห็น