รองนายกฯ เผยยังไม่เคาะ กกต.ชงของบ 5 พันกว่าล้านจัดเลือกตั้ง ส่งสำนักงบฯ พิจารณาก่อน แย้มโยนประเด็นปัญหาส่อขัดรัฐธรรมนูญให้ศาลตีความ รับมองมหรสพมีข้อเสียมากกว่าดี
วันนี้ (1 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าจะใช้ประมาณ 5,800 ล้านบาทในการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เบื้องต้นได้เห็นหนังสือที่ กกต.จะส่งมาให้รัฐบาลได้พิจารณาแล้ว เรื่องดังกล่าวจะต้องส่งไปให้สำนักงบประมาณได้พิจารณา ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนเดือน ก.ย. 62 ก็จะใช้งบประมาณปี 62 ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประเมินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดการเลือกตั้งไว้ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท โดยนำการจัดการออกเสียงประชามติครั้งล่าสุดมาเป็นฐาน และกกต.มีสิทธิเสนอของบประมาณเพิ่มเติมเมื่อเห็นว่างบประมาณที่มีอยู่ไม่เพียงพอ
เมื่อถามว่านอกจากนี้ กกต.เห็นว่ามี 4 ประเด็นในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ เช่น การขยายเวลาบังคับใช้ 90 วัน การจัดมหรสพ เป็นต้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ นอกจากศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีข้อสงสัยก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ในอดีตเคยให้พรรคการเมืองได้จัดมหรสพตอนหาเสียง แต่เมื่อเห็นว่ามีปัญหาจึงได้ยกเลิกไปในภายหลัง ต่อมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นว่าควรจะมีขึ้นมาอีกเพื่อไม่ให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเงียบเหงา และในที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการร่วม
เมื่อถามต่อว่านายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต.ระบุว่า ที่ต้องมีประเด็นให้จัดมหรสพก็เพราะผู้มีอำนาจ ต้องการให้กฎหมายถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบและไม่รู้ ส่วนที่มีการวิจารณ์กันว่าการจัดมหรสพจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมืองนั้น ที่ผ่านมาก็มีกรณีเช่นนี้จึงต้องยกเลิกการจัดมหรสพไป เพราะ 1. เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ 2. คำนวณค่าใช้จ่ายยาก 3. แม้จะเป็นผลดีที่รณรงค์ให้คนอยากมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ก็เปิดทางให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีการแจกเงิน แจกทอง เรื่องการจัดมหรสพมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ส่วนตัวเห็นว่ามีข้อเสียมากกว่า