xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” อาการหนัก “หลอน” สื่อ-การเมืองจ้องล้ม !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


ตอนแรกยังนึกว่าเป็นแค่รายงานข่าวธรรมดาทั่วไปกับเรื่องที่ “บิ๊กตู่” ระบุว่า “มีสื่อกับนักการเมืองต้องล้มรัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่วันรุ่งขึ้น ก็มีคำตอบจาก สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมายอมรับในวันรุ่งขึ้น ว่า นายกรัฐมนตรีได้แจกเอกสารที่เขียนด้วยลายมือให้กับคณะรัฐมนตรี โดยเนื้อหามีอยู่สองส่วน คือ ส่วนแรก เกี่ยวกับการเร่งรัดแก้ปัญหาความยากจน และเรื่องการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใสรวมไปถึงเรื่อง “ธรรมาภิบาล” แม้ว่าเมื่อถูกถามย้ำถึงเรื่องที่ว่า “มีสื่อและนักการเมืองจ้องล้มรัฐบาล และ คสช.” นั้น เขากลับอ้ำอึ้งและโบ้ยไปอีกทางว่ายังอ่านข้อความในหนังสือดังกล่าวได้ไม่ครบ อีกทั้งลายมือนายกฯนั้นอ่านยาก จึงยังไม่ทราบเรื่องก็ตาม

เอาเป็นว่าเมื่อพิจารณาจากคำพูดดังกล่าวแล้ว ก็ต้องสรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีข้อความในเรื่องแบบนี้จริง โดยเฉพาะเรื่อง “สื่อกับนักการเมืองจ้องล้ม”

อย่างไรก็ดี จากข้อความของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถึงขั้นระบุแบบนั้น มันก็ต้องบอกว่าถึงขั้น “หลอน” แล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อมีอาการแบบนั้นก็ต้องบอกว่า นี่คือ อาการ “นับถอยหลัง” เข้ามาทุกทีแล้ว

แน่นอนว่า ในทางการเมืองหรือในการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง การ “บ่อนทำลาย” รวมไปถึงการล้มล้างรัฐบาล การดิสเครดิตฝ่ายรัฐบาลย่อมต้องมีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องไปเอ่ยถึงใครเป็นกรณีพิเศษ แต่คำถามก็คือเวลานี้ ทั้งตัวผู้นำหรือระดับผู้นำได้ “เปิดช่อง” หรือสะสมจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามได้โจมตีหรือเปล่า ซึ่งบางทีในทางการเมืองก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนซ้อนเงื่อนอะไรนัก เพียงแค่ว่าสิ่งไหนก็ตามที่ชาวบ้านไม่ชอบก็อย่าไปทำ ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่ไม่กี่เรื่อง เช่น การทุจริต การใช้อำนาจมิชอบ ไม่มีความยุติธรรม รวมไปถึงพูดอย่างแล้วทำอีกอย่างแบบนี้เป็นต้น ซึ่งจะว่าไปแล้วเงื่อนไขบางเรื่องอาจมีข้อยกเว้นไปบ้างในบางช่วงเวลา เช่น เรื่อง “เผด็จการ” จะเห็นว่าที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนักขอเพียงแค่ทำตามที่เคยรับปากเอาไว้ ก็ให้ทำตามที่พูดแค่นั้นพอ

เมื่อโฟกัสมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทีคำถามก็คือมันเกิดอะไรขึ้น หากจำกันได้ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็เคยเตือนแล้วว่า “ให้ระวังกองหนุนจะหมดไป” เพราะใช้เกือบหมดแล้ว ต้องรีบสร้างให้คืนมา แต่ในทางการเมืองมันอยู่ได้ด้วย “ความศรัทธา”

คำถามก็คือ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับรู้หรือไม่ว่ามีอะไรบ้าง หรือมีใครบ้างที่ทำลายคสามศรัทธาในตัวผู้นำ ทำลายความศรัทธาของรัฐบาลและคสช.ให้หดหายลงไป กรณี “นาฬิกาหรูของพี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้นถือว่าได้ทำลายความศรัทธาของชาวบ้านหรือไม่ เรื่องการแก้กฎหมายที่ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือปปช.ที่ต้องการให้มีการยกเว้นบังคับใช้เรื่องคุณสมบัติต้องห้ามและขัดรัฐธรรมนูญของกรรมการปปช.บางคน ซึ่งก็ย่อมหมายถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ที่ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับ พี่ใหญ่ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบ 9 ปี

เรื่องดังกล่าวถือว่าทำลายศรัทธาลงไปหรือไม่ เป็นการทำให้"กองหนุน"ลดลงหรือไม่ แน่นอนว่า ในมุมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความสำคัญกับตัวเขากับรัฐบาลและ คสช. อีกทั้งผูกพันกันมานาน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าจะรู้ว่า ความศรัทธาและความสนับสนุนจากชาวบ้านย่อมสำคัญยิ่งกว่า แต่ที่ผ่านมา กลับมองว่า พล.อ.ประวิตร ถูกกระทำกำลังตกเป็นเป้าโจมตีเพื่อทำลายรัฐบาล ซึ่งก็อาจจะจริงในแง่ที่ว่าหากทำให้เขาพ้นจากตำแหน่งไปได้มันก็จะกระทบกระเทือน แต่ในทางการเมืองคำว่า “มาตรฐานทางจริยธรรม” สปิริตทางการเมือง มันอยู่เหนือกว่ามาตรการการตรวจสอบ ที่จะต้องเกิดขึ้นภายหลัง

ดังนั้น การที่บอกว่า สื่อและนักการเมืองจ้องล้มนั้นอาจจะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่าเวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลัง “เปิดช่อง” หรือ “เปิดจุดอ่อน” ให้อีกฝ่ายเข้าไปเอง และที่สำคัญ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้หรือไม่ว่าอย่างไหนคือจุดอ่อน อย่างไหนที่ชาวบ้านไม่ชอบ หรือถ้ารู้แล้วไม่ “กำจัดจุดอ่อน” มันก็ลำบาก !!


กำลังโหลดความคิดเห็น