xs
xsm
sm
md
lg

แพงไป! 1.5 พันล้าน ร่วม “ดูไบ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” - “บิ๊กตู่-สมคิด” เห็นพ้อง “ไปทบทวนใหม่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แพงไป! 1.5 พันล้าน ร่วมงาน “ดูไบ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” “บิ๊กตู่ - สมคิด” เห็นพ้อง สั่งให้ไปทบทวนใหม่ ด้าน “ดีอี” เจ้าภาพใหญ่ แจง ต้องใช้แรงงานยูเออี ก่อสร้างเท่านั้น ทำงบต้องบานปลาย แถมค่าแรงงานยูเออี สูงกว่าปกติถึงร้อยละ 25 เผย มติ ครม. เดิม ให้ “ดีอี - พาณิชย์” ถกเอกชน ร่วมออกค่าใช้จ่าย ย้อนดู “วาระแห่งชาติ” เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ไทยเคยเสนอตัว แต่พับโครงการเพราะเหตุใด?

วันนี้ (4 ธ.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแม่งานจัดงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ หรือ World EXPO 2020 (เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020) ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทบทวนงบประมาณ จำนวน 1,542 ล้านบาท สำหรับการร่วมจัดงานให้เหมาะสม เพราะเห็นว่าเป็นยอดเงินที่สูง

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เห็นพ้องให้ทบทวนงบประมาณ สำหรับการร่วมจัดงานให้เหมาะสม เพราะกระทรวงดีอี ประเมินยอดรวมการจัดงบประมาณประจำปีครอบคลุมให้ทุกกระทรวงแล้ว วงเงินรวม 1,542 ล้านบาท เป็นงบประมาณปี 2561 - 2564 แต่เพื่อให้เหมาะสมจึงสั่งทบทวนใหม่”

โดย กระทรวงดีอี ได้ชี้แจงสาเหตุการใช้งบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท ว่า ประเทศยูเออี มีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่า การร่วมออกบูธจัดงานในประเทศ จะต้องใช้แรงงานของประเทศยูเออี จัดสร้างเท่านั้น และ ค่าแรงงานของยูเออี ก็สูงกว่าปกติถึงร้อยละ 25 และ ที่สำคัญช่วงก่อนการจัดงานบางเดือนสภาพอากาศเมืองดูไบ ร้อนจัด ไม่สามารถทำงานได้ จึงต้องจ่ายค่าโอทีเมื่อต้องการเร่งงานให้เสร็จ

ทั้งนี้ เมื่อคราวประชุม ครม. เมื่อ 18 เม.ย. 2560 อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน World Expo 2020 Dubai ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2563 - 20 เมษายน 2564 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานฯ ดังกล่าว และให้กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นหน่วยงานสนับสนุนการเข้าร่วมงานฯ ด้วย โดยหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานฯ จะเป็นผู้นำเสนอรายละเอียดแผนงานและแผนเงินให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

“ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงบประมาณที่มีข้อเสนอแนะให้พิจารณานำประเด็นเรื่อง อุตสาหกรรมอนาคต ด้านอวกาศและอากาศยานเป็นส่วนหนึ่งในงานฯ รวมทั้งควรประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่ายร่วมกับภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย”

ย้อนรอย วาระแห่งชาติ ไทยแห้วเป็นเจ้าภาพ World Expo 2020 เพราะเหตุใด?

สำหรับความสำคัญของ มหกรรมโลก World Expo 2020 นั้น พบว่า ในปี 2551 ในสมัยรัฐบาลชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มอบหมายภารกิจการประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน ให้เป็นหน้าที่ ของ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ซึ่งในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2555 ก่อนเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในขณะนั้น สสปน. ได้เสนอของบเพื่อใช้เกี่ยวกับโครงการ จำนวน ไป 300 ล้านบาท แต่ทางรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ได้อนุมัติงบ ไว้ให้ 100 ล้านบาท เพื่อใช้รณรงค์ให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพ

ต่อมา รัฐบาลใหม่ พรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2555 รัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน อย่างเป็นทางการ โดยมี ไทย (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ตุรกี (เมืองอิซเมียร์) สหพันธรัฐรัสเซีย (เมืองเยคาเตรินเบิร์ก) บราซิล (เมืองเซา เปาโล) และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เมืองดูไบ) โดยมีการลงคะแนนเสียงในช่วงปลายปี 2556 ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมเพื่อรณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นเจ้าภาพและนำเสนอความคืบหน้า ระหว่างปี 2555 -2556

“มี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.กระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน และหัวหน้าคณะทำงานหาเสียงสนับสนุนฯ และเป็นแกนกลางในการประสานกับ BIE ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ในส่วนของไทย มี นายอรรคพล สรสุชาติ อดีตผู้อำนวยการ สสปน. เป็นผู้นำเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยมีแผนงานเตรียมการพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่จัดงาน อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า สสปน. ถูกตัดลดงบประมาณในนำเสนอว่า 100 ล้านบาท ทำให้ สสปน. ไม่มีงบมาดูแล และใช้งบดำเนินงานปกติ มาใช้ทำงาน

“ปลายปี 2555 ประเทศไทย ยื่นรายละเอียดเอกสารทางการการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่รัฐบาลในช่วงนั้น มีมติ ครม. ออกมาว่า จะทบทวนเรื่องนี้ โดยต้องพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม โดยคณะกรรมการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โประหว่างประเทศ (บีไออี) ได้คัดเลือก นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าภาพ ด้วยคะแนนโหวต 116 เสียง ขณะที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิ์ ออกไปก่อนรอบสุดท้ายเมื่อกลางปี 2556”
กำลังโหลดความคิดเห็น