xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” ชี้ปรับ ครม.แค่คนไม่พอ ต้องเปลี่ยนวิธีคิด ชี้เป็นบทพิสูจน์เสียของหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (แฟ้มภาพ)
“สุริยะใส” มองการปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 เป็นบทพิสูจน์เสียของหรือไม่ ย้ำปรับแค่คนไม่พอ ต้องเปลี่ยนวิธีคิด แนะจัดระดับความสำคัญปัญหา สร้างแนวร่วมขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ

วันนี้ (19 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แสดงความเห็นว่า การปรับ ครม.อย่างเดียวไม่พอต่อการแก้ปัญหา แต่ในขณะนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องกล้าเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำงานด้วย โดยเฉพาะการเตรียมการหลายๆ อย่างเพื่อส่งผ่านประเทศไปสู่รัฐบาลตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

วิธีคิดที่เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมาบางทีมองปัญหาผิด ทำให้การแก้ปัญหาผิดและเสียเวลาเสียของไปด้วย เช่น โจทย์เรื่องปฏิรูปประเทศถ้ายังไม่เข้าใจว่าต้นเหตุคือปัญหาโครงสร้าง ผูกขาด รวมศูนย์ก็จะเห็นแผนปฏิรูประดับปลายเหตุเท่านั้น แม้ประชาชนจะเห็นความตั้งใจทุ่มเทของนายกฯ ที่ลงไปล้วงลูกทุกเรื่องทุกกระทรวง แต่ในขณะเดียวกันวาระใหญ่ๆ อาจจะดูอืดอาด ทำให้การขับเคลื่อนงานใหญ่ๆ ออกมาไม่ชัด เช่น เรื่องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งต้องยอมรับว่าไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ได้แต่กรรมการและกรรมการ เต็มไปหมด ฉะนั้นต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหาให้ชัดขึ้น ส่วนที่เคยบอกว่าคนเก่งๆ ปฏิเสธร่วมงานรัฐบาลนั้น ไม่น่าจะเป็นจริง ถ้ารัฐบาลให้โอกาสจริงๆ และยิ่งเป็นรัฐบาลทหารยิ่งไม่ต้องติดปัญหาระบบโควต้า โอกาสได้คนดีคนเก่งก็มากขึ้น

ที่สำคัญรัฐบาลต้องมองหามิตรหาแนวร่วมด้านกว้างในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติมากขึ้น ไม่ใช่คาดหวังระบบราชการอย่างเดียว โดยเฉพาะพลังปฏิรูปในหมู่ประชาชนที่เป็นกระแสสูงในช่วงที่ผ่านมาดูซบเซาหายไปมาก เพราะด้านหนึ่งนั้นถูกรัฐบาลกันออกจากเวที และมองเป็นคนอื่นไปก็มี

อย่างไรก็ตาม ครม.ประยุทธ์ 5 จะเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนรัฐบาลชุดนี้ก่อนพ้นวาระ และจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่า 4 ปี คสช.เสียของหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น