xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” ลั่น “มีชัย” แยกเบอร์รายเขตมีปัญหา “มีชัย” ต้องรับผิดชอบ ไล่แก้ พ.ร.ป.เอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
“กกต.สมชัย” สวนประธาน กรธ.อย่าอ้าง จนท.กกต.การันตีแยกเบอร์ผู้สมัครรายเขตทำได้ ระบุสะท้อนสารพัดปัญหาแล้ว ชี้ถึงเวลาทำจริงเกิดปัญหา กรธ.ก็ต้องรับผิดชอบ พร้อมอัดซ้ำปมให้ กกต.ชงแก้ พ.ร.ป.พรรค ย้ำคนร่างก่อปัญหาก็ควรเสนอแก้ไขเอง กกต.มีหน้าที่ทำตาม กม.

วันนี้ (16 พ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรมนูญ (กรธ.) ระบุถึงเนื้อหาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะกำหหนดให้แยกเบอร์ผู้สมัครแต่ละพรรคแต่ละเขต หมายเลขไม่ตรงกัน โดยได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าสามารถทำได้นั้น นายมีชัยอย่ามาอ้างว่าได้ถามเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าทำได้มาเป็นข้ออ้างว่าเป็นการออกแบบที่เหมาะสม เพราะตนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าการออกแบบดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาทั้งในเรื่องความสับสนของประชาชน, ความยากลำบากในการหาเสียงของพรรคการเมือง, การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง, การรวมคะแนนของพรรคทั้งประเทศ และยังก่อให้เกิดความลำบากในการตรวจสอบของผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง และเอื้อต่อการทุจริตเลือกตั้ง แต่เมื่อ กรธ.ยืนยันว่าเป็นการออกแบบที่เหมาะสม กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติก็ต้องมีความพร้อมในการดำเนินการตามกฎหมายในทุกรูปแบบ แต่หากผลที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาตามที่ตนคาดการณ์ไว้ กรธ.สมควรเป็นผู้รับผิดชอบ

ส่วนที่นายมีชัยระบุว่าหากพรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการในเรื่องการแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคได้ทันตามกรอบเวลาที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด กกต.ก็สามารถขอให้ สนช.แก้ไขกฎหมายดังกล่าวได้นั้น กกต.ไม่ใช่ผู้ร่างกฎหมายตั้งแต่แรก เมื่อ กรธ.เป็นผู้ร่างแล้วก่อให้เกิดปัญหา กรธ.ก็ควรเป็นผู้เสนอการแก้ไขเอง มีความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายในมาตราต่างๆ โดย กกต.สามารถสนับสนุนในการชี้ให้เห็นในทางปฏิบัติ แต่มิใช่เป็นผู้เสนอแก้กฎหมาย

“นายมีชัยก็อยู่ทั้งใน คสช. และเป็นประธาน กรธ.อยู่ในแม่น้ำ 5 สาย น่าจะดำเนินการได้โดยสะดวกมากกว่า เมื่อกฎหมายที่ตนเองร่างมีปัญหาก็ควรรู้ว่าควรแก้ไขในจุดใด กกต.คงทำหน้าที่ทำตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นผู้ตามแก้ปัญหาจากกฎหมายที่มีปัญหาที่ตนไม่ได้ร่าง”

ทั้งนี้ นายสมชัยกล่าวว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 8 ต.ค. ผ่านไปแล้ว 40 วัน จะครบกำหนด 90 วันในวันที่ 5 ม.ค. 61 หรือเหลืออีก 50 วัน พรรคที่ไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกที่แตกต่างจากที่ปรากฏในทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง คือ ต้องแจ้งแจ้งรายละเอียดต่างๆที่เปลียนแปลง เช่น มีการเปลี่ยน ชื่อ ที่อยู่ สถานภาพต่างๆ ที่ครบถ้วนด้วย หรือไม่มีการทำหนังสือขอขยายเวลามาภายในเวลาดังกล่าวต้องสิ้นสภาพพรรคการเมือง ซึ่งไม่ใช่การยุบพรรคการเมือง แต่เป็นการหมดความเป็นพรรคการเมืองโดยสภาพ และนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ประกาศรายชื่อพรรคที่สิ้นสภาพได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีทางแก้ คือ 1. พรรคการเมืองทำหนังสือขอขยายเวลามายังนายทะเบียนพรรค ก่อนวันที่ 5 ม.ค. โดยต้องระบุเวลาที่ขอขยาย แต่ระหว่างการขอขยายเวลาพรรคไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ และไม่สามารถได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 2. แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อกำหนดเงื่อนไขใหม่ในกิจกรรมที่พรรคการเมืองต้องดำเนินการหลังจาก พ.ร.ป.มีผลบังคับใช้ 3. ใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.เพื่อสั่งการแก้ไขให้เกิดการผ่อนคลายในกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขการดำเนินการ ซึ่งนายมีชัยเป็นส่วนหนึ่งของ คสช. สมควรเป็นผู้เสนอให้ คสช.ดำเนินการตามความเหมาะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น