รองนายกฯ เผย 5 วันเปิดนิทรรศการพระเมรุมาศ ยอดพุ่ง 2 แสนคน เล็งเสนอนายกฯ กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตขยายเวลาเข้าชมอีก 1 เดือน หากยอดสูงต่อเนื่อง
วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า การเข้าชมนิทรรศการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตลอด 5 วันที่ผ่านมามีประชาชนจากหลากหลายอาชีพเข้าชมประมาณ 245,000 คน เฉลี่ยชั่วโมง 6,000 คน โดยทยอยให้เข้าชมประมาณ 300-500 คน และจากการสอบถามความเห็นจากหลายคนที่ได้เข้าชมระบุว่าพอใจการจัดระบบเข้าชมที่เป็นไปอย่างรวดเร็วไม่ต้องรอนาน สามารถเดินชมได้ตามสบาย โดยภาพรวมจึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่ผู้เข้าชมนิทรรศการมีท่าทีผ่อนคลายและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เพราะบริเวณพระเมรุมาศถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยที่ได้มาสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณและเห็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดี ดังนั้น รัฐบาลได้จัดเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รวมทั้งจิตอาสา คอยอำนวยความสะดวกภายในเวลาที่เปิดให้ชมและขอบคุณที่เข้ามาด้วยความเรียบร้อย
พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการขยายเวลาเปิดให้เข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศหลังจากเดือน พ.ย.นั้น จะประเมินจำนวนผู้เข้าชมทุก 5 วันไปถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หากพบว่ายอดผู้เข้าชมยังคงที่อยู่ที่ประมาณ 200,000 คน ก็จะเสนอ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณานำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ขยายเวลาการชมเข้าต่อไปอีก 1 เดือน ขณะที่พระเมรุมาศจำลองในทุกจังหวัดกระทรวงมหาดไทยจะประเมินจำนวนผู้เข้าชมและจัดทำในลักษณะเดียวกันเพื่อขยายระยะเวลาไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ หากยอดผู้เข้าชมทยอยลดลงก็จะปิดตามกำหนดเดิมคือวันที่ 30 พ.ย.
พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ในการเข้าชมเราจะยึดถือเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยไม่มีการไปบังคับอะไรและอำนวยความสะดวกตลอด และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำและอาหาร แก่ผู้เข้าชมและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งนี้ จากการทำโพลของกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิตพบว่าประชาชนชื่นชอบที่การจัดนิทรรศการใหญ่สมพระเกียรติและเป็นบุญที่ได้มา ส่วนนิทรรศการภายในศาลาลูกขุนทั้ง 6 ศาลา ทำให้ได้รับรู้ประวัติศาสตร์ที่ให้ศึกษาและให้ความรู้ นอกจากนี้ขอให้เปิดเวลาให้เข้าชมไปนานกว่านี้