ข่าวปนคน คนปนข่าว : เถรกวาดลาน “ผอ.พงศ์พร” กวาดเรียบ!! ท่วงท่า “พงศ์พร” หลังคัมแบ็ก สงัดจนน่าสะพรึง เซ็นฉับเด้ง “ลิ่วล้อพระ” ออกนอกวงโคจรไปไกล เป้าต่อไปเคลียร์เก้าอี้ “กรรมการ มส.” ให้พระดีๆ มานั่งบ้าง

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** เถรกวาดลาน “ผอ.พงศ์พร” กวาดเรียบ!! ท่วงท่า “พงศ์พร” หลังคัมแบ็ก สงัดจนน่าสะพรึง เซ็นฉับเด้ง “ลิ่วล้อพระ” ออกนอกวงโคจรไปไกล เป้าต่อไปเคลียร์เก้าอี้ “กรรมการ มส.” ให้พระดีๆ มานั่งบ้าง

สุขุม นุ่ม ลึก โลว์โปรไฟล์ แต่หนักหน่วง! สำหรับการคัมแบ็กของ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) “มือปราบมารศาสนา” พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ .. หลายคนไถ่ถามตั้งแต่กลับมาที่เดิมได้ทำงานอะไรบ้างหรือยัง เพราะเงียบผิดวิสัย ไม่เหมือนแต่ก่อน ที่คุ้ยความไม่ชอบมาพากลอะไรได้เมื่อไหร่ เอาออกมาแฉประจานกันให้เห็น แต่รอบนี้เกิดอะไรขึ้น .. ภายใต้ “ความสงัด” แต่กลับพบความเปลี่ยนแปลงที่ “น่าสะพรึง” สำหรับ “มาเฟียพระ - โจรผ้าเหลือง”กระทั่ง “ฆราวาส” บางกลุ่ม .. ก็หนนี้ “พงศ์พร” เปลี่ยนสไตล์การทำงาน มาเป็นเวอร์ชัน “พูดน้อยต่อยหนัก” เหมือนอำพรางตัว อย่าง “โปรเจกต์ร้อนๆ” ที่เพิ่งผ่านมือไป ก็เรื่องที่ “เจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ” จรดปากกาลงนามในคำสั่ง ต่อไปห้ามวัด พระภิกษุ สามเณร ประพฤติหรือปฏิบัติตนที่ไม่ตรงกับหลักคำสอน นั้นปะไร .. จน “เจ้าคุณธงชัย”พระพรหมมังคลาจารย์ เจ้าของผ้ายันต์เลสเตอร์ ยอมขาดพรรษากลางคัน ขนเครื่องรางของขลังไปไว้ปากช่อง จ.นครราชสีมา ส่วนเจ้าตัวปลีกวิเวก ไปไหนยังไม่มีใครรู้ .. ต่อเนื่องมาถึงปฏิบัติการล้างบางพวก “เกาะชายผ้าเหลืองหากิน” ใน พศ. ที่ทำตัวเป็น “เด็กวัด” เอาใจพระผู้ใหญ่เสียจนเละตุ้มเป๊ะ “พงศ์พร” เซ็นโยกย้ายกันไป 12 ตำแหน่ง โดยเฉพาะพวกตัวเป้งๆ ที่เป็นขั้วเก่าๆ ออกนอกวงโคจรไปไกล .. มุ่งทลายไปที่ “มือไม้อาณาจักรพุทธมณฑล” ตั้งแต่ บุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (สถ.) ไปเป็น ผอ.พศ. ที่ จ.ลพบุรี ประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ในฐานะ โฆษก พศ. ไปเป็น ผอ.พศ. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.กองพุทธศาสนาศึกษา ไปเป็น ผู้ตรวจราชการ พศ. หรือ ฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน ไปเป็น ผอ.พศ. จ.ปทุมธานี เป็นต้น .. โดยเฉพาะรายของ “บุญเชิด” ที่เป็น ผอ.สำนักงานเลขาธิการ มส. ทำงานใกล้ชิดพระเถระชั้นผู้ใหญ่ “ผอ.พงศ์พร” กดปุ่มเด้งแบบไม่ไว้หน้า เรียกว่า อะไรที่จะเป็นหอกข้างแคร่ หรืออุปสรรคในการทำงาน เซ็นย้ายแบบไม่มีเกรงใจใคร ส่งสัญญาณกันให้เห็น นาทีนี้ใครก็หยุดไม่ได้ ..

ร้อนฉ่าไปถึงข่าวคราวน่าหวาดเสียว สำหรับพระบางรูป โดยเฉพาะ “กรรมการ มส.” ที่มาโดยการแต่งตั้ง ที่มีการตั้งขึ้นหลายรูป ในยุคที่“สมเด็จช่วง” สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ อดีตรักษาการตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช อาจมีการปรับเปลี่ยนกันหลายรูปเหมือนกัน.. ลองเช็ก “กรรมการ มส. ลากตั้ง” กันเองว่าใครอยู่สายไหน ใครจะได้อยู่ ได้ไป พระพรหมเมธาจารย์ (คณิศร์ เขมวํโส) วัดบุรณศิริมาตยาราม พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) วัดสัมพันธวงศาฯ พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) วัดราชบพิธฯ พระพรหมวิสุทธาจารย์ (มนตรี คณิสฺสโร) วัดเครือวัลย์ พระธรรมธัชมุนี (อมร ญาโณทโย) วัดปทุมวนารามฯ พระธรรมบัณฑิต (อภิพล อภิพโล) วัดพระรามเก้า พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร) วัดยานนาวา พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) วัดสระเกศ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) วัดประยูรวงศาวาส .. ป่านนี้ พระเดชพระคุณ” คงพอรู้ตัว เก็บข้าวเก็บของรอเวลาเซย์กูดบาย กันหมดแล้ว

** ลุยตีบิ๊กบอส !! “เข็มชัย ชุติวงศ์” ประเดิมอัปเลเวล เป็น “อัยการสูงสุด” คนใหม่ สั้งรื้อคดี “บิ๊กบอสทักษิณ” ปล้อยกู้กรุงไทยเอื้อกฤษฎานคร ต้อนรับ กม. ปราบโกงนักการเมืองใหม่ สัญญาณเข้มที่ “โอ๊คอ๊าค” อาจต้องเจริญตามรอย “พ่อษิณ - อาปู” ชิ่งไปก่อนกำหนดรับข้อกล่าวหา

แหม่! ทั่นอัยการสูงสุด (อสส.) คนที่ 14 อย่าง เข็มชัย ชุติวงศ์ ที่เพิ่งรับเก้าอี้หมาดๆ ดูจะร้อนวิชาจนฟิตเปรี้ยะ หลังถูกนักข่าวซักถาม เรื่องการรื้อฟื้นคดีของนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร .. หลังมีการบังคับใช้ พ.ร.บ. ด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สามารถปัดฝุ่นคดีที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขึ้นมาได้ .. โดยในส่วนของคดีที่ค้างๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต ที่มีการจำหน่ายคดีออกชั่วคราว “ทั่น อสส.” บอกว่า จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดู ขณะที่อีกวัน มีการรับลูกจาก “อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ” ว่า เมื่อเป็นดำริของ อสส. ใครจะไปขัด เดี๋ยวจัดให้ ! เอ๊ะ งานนี้มันชักยังไง ข้อหาเก่าก็กลับประเทศไม่ได้อยู่แล้ว นี่มันเป็นการตอกฝาโลงกันชัดๆ .. ส่วนคดีกรุงไทยที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินแก่ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร จนทนายวิ่งสู้คดีกันขาขวิด .. หนาหูเหลือเกินพ่อเจ้าปะคุณรุนช่องว่า รอบนี้เขาเอาจริง! ไม่ได้ขู่ กะดำเนินคดีกันให้สุดซอย .. ขณะที่มีข่าวลือจากฝั่งพรรคเพื่อไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “นายใหญ่” เตรียมทางหนีทีไล่ เก็บกระเป๋าเตรียมไปอยู่กับ “พ่อแม้ว” และ “อาปู” เพราะอยู่ไม่ได้เลี้ยววว ! ปฏิบัติการถอนรากถอนโคน เพื่อไม่ให้เหลือ “เชื้อ” แม้แต่นิด มันเริ่มขึ้นแล้ว นาทีนี้ไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น นะจ๊ะคุณโยมมม.

** อานิสงส์เช็กแฮนด์ “เพื่อนทรัมป์”?? “นายกฯลุงตู่” ปลดธงแดงการบิน ICAO สำเร็จ หลังอุดหนุนสินค้า made in us ไปหลายรายการ ลุ้นต่อปมประมง IUU - ค้ามนุษย์ อีกด้าน “คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ” เปลี่ยนให้ “ศรีวราห์” รับผิดชอบ ฝากหาตัว “มือมืด” ที่เคยปั่นให้สำนวนอ่อนด้วย

กลับมาจาก “แดนลุงแซม” สหรัฐอเมริกา แป๊บเดียว มีข่าวดีเลยเป็นไง !! จนทำให้ตอนนี้“นายกฯ ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงนั่งยิ้มกริ่ม ปลาบปลื้มกับผลงานตัวเอง .. หลังเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) หน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านการบินระดับโลก ได้ทำการปลด“ธงแดง”หน้าชื่อ “ประเทศไทย” ออกแล้ว .. หลังจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยถูกปักธงแดงหน้าชื่อมานานกว่า 2 ปี ก่อนหน้านี้ ทำยังไงก็ไม่พ้น “เรดโซน” เสียที แก้แล้วแก้อีกไม่รู้เท่าไหร่ ก็ยังไม่เข้าตา ICAO แม้แต่น้อย .. พอมีภาพ “นายกฯ ตู่” ไปจู๋จี๋กับ “ลุงทรัมป์” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แป๊บเดียว ธงแดง ICAO ถูกปลดทันควัน น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เห็นว่า เหตุใด “ลุงตู่” ถึงยอมให้ชาติมหาอำนาจล็อกคอขายของฝ่ายเดียว

.. ทีนี้ก็มารอลุ้นกันอีกว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย (IUU) และการจัดอันดับประเทศค้ามนุษย์ (Tier3) ที่ “ไทย” ยังไม่พ้นขีดอันตราย “พี่เบิ้ม” จะทับตราให้ง่ายๆ เหมือนกันอีกหรือไม่ .. อย่างเรื่อง Tier3 เนี่ย ของมะกัน เต็มๆ ต้องจับตาดูว่า“เพื่อนทรัมป์” จะหลับตาสักข้างช่วยหิ้ว “เพื่อนตู่” พ้นโซนอันตรายด้วยรึป่าว

อีกเรื่องที่โดนค่อนแคะกันสาหัส กรณี“ทัวร์ศูนย์เหรียญ”ที่โดนศาลไล่ลง ตั้งแต่ไม่ขึ้นชก ด้วยเหตุผลประมาณว่า “ข้อกล่าวหาฟังไม่ขึ้น” ผลดีตกไปอยู่ที่ “จำเลยสังคม” อย่าง บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด .. ลือกันสนั่น “กรมปทุมวัน” ว่า มันชักยังไง ใครไปทำไม่ดีไม่งามหลังม่านกันหรือเปล่า .. จนคณะทำงานชุดเดิมที่มี “บิ๊กจุก” พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประกบการทำงานของผู้กำกับการสถานีตำรวจพญาไท ไปสั่งฟ้องข้อหา“อั้งยี่ซ่องโจร” จนศาลยกฟ้อง เห็นว่าเป็นเพราะสำนวนที่น้ำหนักเบาดัง “นุ่น” หน้าแหกกลับมาไม่เป็นท่า .. แถมโดนบริษัทชื่อดังฟ้องกลับอีก หนนี้ต้องเปลี่ยนทีมงานมาดูแล ส่ง“บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ลงมากำกับการทำงานด้วยตัวเอง .. เขี่ยทิ้งข้อหา “อั้งยี่ซ่องโจร” แล้วจัดการดำเนินคดีกับ 29 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบริษัทที่เช่ารถทัวร์ กลุ่มร้านค้า กลุ่มบริษัทนำเที่ยว และกลุ่มบริษัทในเครือบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด และ บริษัท สยามเจมส์ จำกัด ในความผิดตาม พ.ร.บ. ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง .. ขอเน้นๆ แบบเป็นไปได้ มากกว่าไปใช้กฎหมายโบราณกล่าวหาว่าเป็น “อั้งยี่ซ่องโจร” แบบเดิม .. ก็พฤติกรรม “แก๊งศูนย์เหรียญ” เหล่านี้หนักไปทาง“ต้มตุ๋นหลอกลวง”มากกว่า ไปรวมกลุ่มรวมแก๊งไปรีดไถใคร .. ที่ถนัด ก็เรื่องการต้อน “ลูกทัวร์” เข้าไปเชือดในร้านขายของที่ระลึก เอา “ของเก๊” มาขายเป็น “ของแท้”.. อย่าง “ดีหมี” สินค้ายอดนิยม ยาโป๊วยอดฮิตของชาวจีน ก็เจอ “ลูกตุกติก” ไปรับ “ดีหมู” จาก จ.นครปฐม มาหรอกใส่ขวด ใส่กระปุก แต่ขายในราคา “ดีหมี” อะไรเทือกนี้ .. ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วาน “พี่ศรี” ไปควานหาตัว “มือมืด”ที่เป็นตัวการทำให้สำนวนของ สน.พญาไท “อ่อนยวบ” อย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อขจัดข้อครหา มีการรับทรัพย์ เพื่อล้มคดี ที่คาอยู่อีกด้วย.

ช.ชฎา