xs
xsm
sm
md
lg

สนช.เอกฉันท์รับร่าง พ.ร.ป.วิธีพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ รีเซ็ตตุลาการขาดคุณสมบัติ เพิ่มดาบจำคุกคนหมิ่นศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
ประชุม สนช.เคาะมติเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.ป.วิธีพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีตุลาการ 9 คนมาจากศาลฎีกา 3 คน ศาลปกครองสูงสุด 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน รีเซ็ตตุลาการที่ขาดคุณสมบัติ เพิ่มอำนาจสั่งจำคุกกรณีหมิ่นศาล

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 198 คะแนนรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวาระที่ 1 ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอ โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 9 คน แบ่งเป็น 1. ผู้พิพากษาในศาลฎีกาที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี ซึ่งได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจำนวน 3 คน 2. ตุลาการศาลปกครองสูงสุดซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการศาลปกครองสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดจำนวน 2 คน

3. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ซึ่งได้รับการสรรหาจากผู้ดำรงตำแหน่ง หรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 1 คน 4. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ซึ่งได้รับการสรรหาจากผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 1 คน และ 5. ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการสรรหาจากผู้รับหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จำนวน 2 คน

ขณะเดียวกัน มาตรา 38 กำหนดให้ศาลมีอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยของการพิจารณาคดีหรือในกรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลอาจมีคำสั่งให้บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการเพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยสงบเรียบร้อยและรวดเร็ว นอกจากนี้ การวิจารณ์คำวินิจฉัยคดีที่กระทำโดยสุจริตและไม่ได้ใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี หรืออาฆาตมาดร้ายไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มาตรา 39 บัญญัติว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบตามมาตรา 38 ให้ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาลและให้ศาลมีอำนาจดังต่อไปนี้ 1. ตักเตือน 2. ไล่ออกจากบริเวณศาล 3. ลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการดำรงตำแหน่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน มาตรา 76 กำหนดให้ประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับและมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ

ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะการให้มีกลไกการทำงานเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องความคงอยู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน ทาง กรธ.ได้กำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกองค์กร คือ การให้ดำรงตำแหน่งต่อไปได้เฉพาะบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะมีเพียงเฉพาะกรณีของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เท่านั้นที่ กรธ.บัญญัติให้แตกต่างออกไปด้วยการให้พ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อให้ กสม.มีกระบวนการสรรหาให้สอดคล้องกับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม หากในชั้นคณะกรรมาธิการของ สนช.จะมีการแก้ไขหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ สนช.

จากนั้นที่ประชุมได้มติเอกฉันท์ 198 คะแนนรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 22 คน พร้อมกับกำหนดเวลาการทำงานต้องให้แล้วเสร็จภายใน 50 วันก่อนส่งกลับมาให้ที่ประชุม สนช.ลงมติต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น