xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ได้วีซ่าเข้าสหรัฐฯ-ทำเนียบขาว 3 ปีที่รอคอย !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ในที่สุดก็เผยกำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ออกมาเสียทีสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยจากการแถลงของ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ระบุกำหนดการเยือนดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 2 - 4 ตุลาคมนี้

โดยมีคณะบุคคลที่ร่วมเดินทางไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในครั้งนี้ ประกอบด้วย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

เริ่มจากพิจารณาคณะร่วมทางก็มีทั้งฝ่ายเศรษฐกิจ และฝ่ายความมั่นคงพร้อมสรรพ ถือว่าเป็นคณะใหญ่ไม่น้อย ซึ่งก็เชื่อว่ายังต้องมีภาคเอกชนร่วมติดตามไปด้วย

แน่นอนว่า หากพิจารณาจากเรื่องทางเศรษฐกิจก็ถือว่ามีเรื่องที่ชวนติดตามไม่น้อย เพราะนอกเหนือจากการเจรจาด้านการลงทุนจากนักธุรกิจของสหรัฐฯที่ไทยต้องการดึงเข้ามาลงทุนในโครงการเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่รัฐบาลไทยพยายามตามจีบให้เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะบริษัท โบอิ้ง ที่เป็นบริษัทกลุ่มการบินยักษ์ใหญ่ให้เข้ามาลงทุนตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อรองรับธุรกิจทางด้านนี้ในภูมิภาค หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ทาบทามกลุ่มบริษัท แอร์บัสของยุโรป และทุกอย่างกำลังคืบหน้าด้วยดี

อย่างไรก็ดี การเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาเที่ยวนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าน่าจับตามองทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ และความมั่นคง เอาเฉพาะเรื่องแรกคือเรื่องเศรษฐกิจก่อน เพราะรับรู้กันอยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้ ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้จดรายชื่อประเทศที่ทำการค้าได้ดุลกับสหรัฐฯโดยประเทศไทยก็อยู่ในรายชื่อที่ถูกขึ้นบัญชีเอาไว้และมีการส่งหนังสือมาให้ชี้แจงและที่ผ่านมาทางการไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีการชี้แจงไปบ้างแล้ว และเที่ยวนี้ก็เชื่อว่าจะต้องมีการหารือกันในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะระดับความ “เขี้ยว” ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็รู้กันดี อีกทั้งนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน"ของเขาไม่ไว้หน้าใครอยู่แล้ว

เรื่องความมั่นคง งานนี้เชื่อว่าเป็นบทพิสูจน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยว่าจะสามารถพลิ้ว รักษาหลักการนโยบายรักษาความสมดุลได้อีกต่อไปหรือไม่ เพราะคราวนี้จะต้องเจอกับแรงกดดันหลายเรื่องทั้งเรื่องเกาหลีเหนือ ปัญหาทะเลจีนใต้ว่าเราจะรักษาน้ำหนักกับจีนได้อย่างไร เชื่อว่าการเดินทางไปสหรัฐฯครั้งนี้จะต้องได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากมหาอำนาจรายอื่นเพื่อรอดูท่าทีของไทยอีกด้วย

เรื่องการซื้อขายอาวุธก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้สื่อต่างประเทศก็รายงานว่าเรื่องการอนุมัติขายขีปนาวุธฮาพูน มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ให้กับกองทัพเรือไทยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม รวมทั้งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนก็มีรายงานว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯก็พิจารณาอนุมัติขายเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กอีกจำนวน 4 ลำ ให้กับกองทัพบก มูลค่าหลายพันล้านบาท เป็นต้น โดยเมื่อวันที่ 8 สองหาคม เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เดินทางมาเยือนไทยและได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯคนแรกที่มาเยือนไทยหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557

หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวทั้งหมดก็ต้องบอกว่าการเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คราวนี้ถือว่า “หนักหน่วง” และเต็มไปด้วยแรงกดดันไม่น้อย เพราะการเจอกับ ทรัมป์ ที่เอามาตรฐานทางการทูตมาจับต้องได้ยาก ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความคิดของเขาเป็นหลักซึ่งก็ต้องเตรียมรับมือให้ดี

อย่างไรก็ดี หากไม่ได้คิดในเรื่องอื่นเอาเพียงแค่ได้รับคำเชิญไปเยือน “ทำเนียบขาว” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าเป็น “ผู้นำเผ็จการ” เต็มขั้น เพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าและสามารถตบหน้าฝ่ายตรงข้ามที่เคยเสียดสีเรื่องข้อรังเกียจจากเงื่อนไขดังกล่าว และที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยเผยให้ฟังเองว่าเขาถูก “แบล็กลิสต์” ห้ามเข้าสหรัฐฯมาแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็สามารถเดินแอ๊กไปจับมือกับผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะทำเอาอึ้งกันไปค่อนโลกแน่นอน

เพียงแค่นี้หากไม่คิดอะไรมาก เรื่องอื่นก็ถือว่าเป็นเรื่องรอง เพราะการที่ผู้นำเผด็จการประเทศหนึ่งได้เข้าทำเนียบขาว มันก็น่าสนใจ แม้ว่าในปัจจุบันผู้นำประเทศประชาธิปไตยคนนี้จะมีความคิดที่แปลก มีเสียงวิจารณ์ไปทั่วโลก แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา งานนี้ถือว่าสุดคุ้ม และเป็น 3 ปีที่รอคอย !!
กำลังโหลดความคิดเห็น