xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” ไปสุพรรณฯคุ้มค่า ได้ “ชาติไทยฯ” หนุนเพิ่ม-การันตีปึ้ก !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

บางครั้งการเมืองแค่อธิบายด้วยภาพเพียงภาพเดียวก็เข้าใจได้ทั้งหมดแล้ว เหมือนกับภาพที่ระดับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาที่ยกกันมาทั้งพรรคมารอต้อนรับและพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขณะที่เดินทางไปจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในช่วงประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในพื้นที่ภาคกลาง (สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา) ระหว่างวันที่ 18 - 19 กันยายน

ภาพที่ระดับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย วรวุธ ศิลปอาชา ทายาทโดยตรงของ บรรหาร ศิลปอาชา ประภัตร โพธสุธน กรวีร์ ปริศนานันทกุล ลูกชาย สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และ เสมอกัน เที่ยงธรรม ลูกชาย จองชัย เที่ยงธรรม มาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับบทสนทนาหวานๆหยอดใส่กันมันก็ย่อมมีความหมายทางการเมืองที่ชัดเจนแบบไม่ต่องอธิบายอะไรกันให้มากความ

“วันนี้ไม่กินข้าวก็ได้ เพราะดีใจที่ได้พบกับประชาชน ได้พบกับพี่ประภัตร ได้พบกับท็อป (วราวุธ) ปลื้มใจที่จะได้เห็นประเทศเปลี่ยนแปลง รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้เลือกข้าง โดยทุกคนต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศเข้มแข็งและยั่งยืน ดีใจที่ได้พบนักการเมืองด้วย ผมฝากกับพี่ประภัตร ฝากกับท็อปฝากกับปริศนานันทกุล ผมขอฝากความหวังไว้กับทุกคน เราจะต้องไม่ขัดแย้งกันอีกเราต้องเดินหน้าให้ได้”

นั่นเป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตอนหนึ่งที่กล่าวต่อหน้าแกนนำของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ทันทีว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น อวยกันไปมาสร้างความประทับใจกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนคำพูดของ ประภัตร โพธสุธน ที่กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มันก็สะท้อนนัยทางการเมืองที่ชัดเจนว่า “ขอบคุณที่นายกฯเปิดใจรับนักการเมือง เพราะนักการเมืองไม่ได้เลวทุกคน นักการเมืองที่ดีก็มี การเลือกตั้งเร็วไม่ได้ประโยชน์ เพราะวันนี้ทะเลาะกัน ถ้าเลือกตั้งก็ต้องด่ากัน วันนี้ขอเพียงรัฐบาลแบ่งงบประมาณมาช่วยชาวนาบ้าง เพราะเมื่อปากท้องของประชาชนอยู่ได้ นายกฯจะอยู่อีก 8 ปี 10 ปีก็ไม่ว่า”

ส่วนคำพูดของ วราวุธ ศิลปอาชา ก็ชัดเจนไม่แพ้กันว่า “เรายินดีที่คณะนายกฯให้เกียรติมาเยี่ยมสุพรรณบุรีอยู่กันเหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน หากรัฐบาลมีนโยบายอย่างไรพวกเราพร้อมสนองนโยบาย และการเลือกตั้งก็ให้นายกฯเป็นคนตัดสิน โดยพวกเรารอเล่นอย่างเดียว ปีนี้ผมเป็นประธานสโมสรฟุตบอลสพรรณบุรีจึงต้อรอเล่นตามกติกาอย่างเดียว”

เป็นอันว่างานนี้ชัดยิ่งกว่าชัด สำหรับท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่แม้ว่าในอดีตในยุคที่เจ้าของพรรคในรุ่นพ่อคือ บรรหาร ศิลปอาชา มาวันนี้ตกทอดมาถึงรุ่นลูกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงชุดความคิดนั่นคือ “ต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น” เหมือนกับที่ “หลงจู๊” เคยกล่าวว่า “เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง” และการที่ระดับแกนนำระดับสัญลักษณ์มากันครบทั้ง “ศิลปอาชา ปริศนานันทกุล โพธสุธน และ เที่ยงธรรม” แบบนี้ก็ถือว่านี่คือ “มติพรรคชาติไทยพัฒนา” สมบูรณ์แบบแล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวก็ถือว่าแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาดังกล่าวถือเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มแรกที่ได้ใกล้ชิดและแสดงท่าทีสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างชัดเจน หรืออาจจะเรียกว่าเป็นทางการก็ได้

เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์ ก็ถือว่าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่แสดงท่าทีทางการเมืองล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้มีพรรคภูมิใจไทยที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “กลุ่มกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาฯ กปปส. และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องหมายเหตุเอาไว้ไม่ว่าจะแยกออกมาตั้งพรรคใหม่ หรือว่าสามารถกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทั้งพรรคหรือไม่ แต่ก็ถือว่าทั้งสามพรรคดังกล่าวเป็นฐานสนับสนุนได้เป็นกอบเป็นกำ สำหรับเสียง ส.ส. ในสภาเพื่อรองรับเงื่อนไขนายกฯคนนอก ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี

ดังนั้น หากบอกว่าการไปสุพรรณฯและลงพื้นที่ภาคกลางเที่ยวนี้ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าคุ้มค่านอกจากได้พรรคชาติไทยพัฒนามาเป็นฐานเสียงในสภาผู้แทนฯคราวหน้าแล้ว และแม้ว่านี่คือ “ปลาไหล” ที่เน้นร่วมรัฐบาลอย่างเดียวก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการประกันความชัวร์ในวันหน้า ขณะเดียวกัน ยังได้มวลชนกลับมาอีกส่วนหนึ่ง อย่างน้อยก็ช่วงชิงมาจากฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยมาได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนกัน เพราะรับรู้กันดีว่าแถบนั้นเป็น “ดงเสื้อแดง” ถืงได้บอกว่ามันคุ้มค่าสำหรับนักการเมือง “ซ่อนรูป” อย่างเขา !!
กำลังโหลดความคิดเห็น