“ประยุทธ์” ปลื้ม ครม.สัญจรประชาชนเข้าใจรัฐบาลมากขึ้น ขอชาวอยุธยาใครชวนชุมนุมอย่าไป อ้อนขอเวลา-โอกาสอยู่แก้ปัญหาประเทศ เลือกตั้งครั้งหน้าใช้สิทธิให้ดี อย่าหลงเชื่อแค่คารม ก่อนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และบินกลับ กทม.
วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลักราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.แถลงภายหลังเป็นประธานประชุม ครม. ว่าวันนี้เป็นการประชุม ครม.สัญจรอีกครั้งในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งพระนครศรีอยุธยาและสุพรรณบุรี พ่อค้าประชาชนที่น่ารักให้การต้อนรับ ครม.อย่างดียิ่งยอดเยี่ยม อาจจะเป็นภารบ้างรัฐบาลก็ขอภัยเพราะรัฐบาลต้องการให้ทุกคนรับรู้ทั่วกันในทุกพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะเราเดินหน้าในเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ปฏิรูปประเทศจึงต้องมาติดตามความก้าวหน้าของงานทีทำมา 3 ปี ในการดูแลทุกกิจกรรม ทั้งด้านเกษตร เอสเอ็มอี ธุรกิจการค้า
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ผู้แทนภาคเอกชน (กรอ.) ผู้บริหารท้องถิ่นจังหวัดภาคกลาง และผู้แทนเกษตรกร ทั้งเรื่องการสร้างความเชื่อมโยง ท่องเที่ยว บริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาในพื้นที่ บางเรื่องเป็นโครงการใหม่เสนอเข้ามารัฐบาลรับหลักการทุกเรื่อง และจะไปจัดลำดับความเร่งด่วน ศึกษาเพิ่มเติมเร่งให้เร็วขึ้น เพราะต้องนำไปจัดทำงบประมาณประจำปีให้เหมาะสม ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในแผนงานโครงการต่างๆ ซึ่งแตกต่างกว่าช่วงที่ผ่านมา ตนก็ไม่อาจจะกล่าวอ้างได้ว่าดีกว่าหรือไม่ดีกว่า เป็นเรื่องของประชาชนจะเป็นผู้ตอบรับเอง แต่สิ่งที่เห็นคือประชาชนเข้าใจมากขึ้น ทั้งความเชื่อมโยงและการพัฒนาตัวเอง เช่น จากโรงเรียนชาวนาเกษตรกรเริ่มลงรายละเอียดมากขึ้น ศึกษาเรื่องดิน น้ำ ป่า ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประกอบด้วยโดยเฉพาะแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงรับสั่งเสมอมา ได้สั่งการให้ไปศึกษาในการเรียนจะต้องปูพื้นฐานอาชีพตั้งแต่วัยเด็กเพื่อให้เรียนรู้การทำงาน ไม่ใช่เรียนเพื่อผ่านให้ได้ใบปริญญาเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า หลายเรื่องที่ได้ประโยชน์คือการรับฟังปัญหาในพื้นที่มีทั้งในส่วนที่เห็นด้วย บางส่วนเห็นด้วยมากบ้างโดยเฉพาะได้สั่งการการจัดตลาดค้าส่งเฉพาะทางจากผลผลิตที่มีรายได้สูงเพื่อจะได้ไม่ต้องแข่งขัน ขับเคลื่อนโดยกลไกประชารัฐ และได้เห็นศักยภาพของสุพรรณบุรีและพระนครศรีอยุธยา ที่จะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกันอย่างไร เพราะยังอยู่กระจัดกระจาย ทุกอย่างใช้งบประมาณสูงโดยเฉพาะการปฏิสังขรพัฒนาโบราณสถานของเก่าต้องใช้งบประมาณสูงกว่าปกติ ต้องใคร่ครวญให้ดี ก็อยากดูแลให้ทั้งหมดแต่ต้องค่อยเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ทำอะไรอย่างแล้วไม่ทำอีกอย่างถือเป็นความคิดไม่ถูกต้อง รัฐบาลต้องใช้จ่ายงบประมาณอย่างสมดุลทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องความเหลื่อมล้ำความเป็นธรรม ซึ่งมีมาตรการเฉพาะทางออกมาแล้วเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และอีกส่วนเพื่อการลงทุน รถไฟความเร็วสูง และโครงการอีอีซี
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้พบปะประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เรามีปัญหาจำนวนมาก แต่ตนต้องแกะปัญหาออกมาแก้ โดยประชาชนต้องช่วยกันทำด้วย เพราะจะเฝ้าคอยให้คนมาแก้ปัญหาคงไม่ได้ ประชาชนต้องยื่นมือมาให้รัฐบาล แต่เราจับมือทุกคนไม่ได้ จึงให้รวมกลุ่มกันมาจับมือกับรัฐบาล
“วันนี้อาจจะอารมณ์เสียนิดหนึ่งกับคำถามของสื่อ แต่พอเห็นรอยยิ้มจากประชาชนผมก็มีกำลังใจ ผมขอแค่นี้แหละ หากเรายังทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ เราก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ เวลาเขาชวนไปชุมนุมไม่ต้องไปแล้ว ไปกราบพระบรมศพดีกว่า แล้วไม่ต้องไปชุมนุมต่อสู้เพื่อผม เพราะผมจะสู้เพื่อพวกท่าน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า หากประชาชนพบเห็นการทุจริตให้มาบอกตนจะดำเนินการให้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ แล้วใครที่อ้างชื่อตน อ้างชื่อรองนายกฯ เพื่อรับผลประโยชน์ มันทุเรศ ล่าสุดพบคนชื่อ “เสธ.อ.” อ้างว่าเป็นเพื่อนตน ดูแล้วไม่ใช่เพื่อนตน เพราะตนจำหน้าเพื่อนได้ทุกคน แต่ไอ้บ้านั่นไม่ใช่เพื่อนตนแน่นอน ใครพบก็ให้แจ้งมาเพื่อดำเนินการ และตนไม่เข้าข้างคนรวย ตนเข้าข้างคนจน รัฐบาลพยายามแก้ไขโครงการต่างที่จะทำ หากประชาชนไม่เห็นด้วยก็ต้องไปดู แต่ก็ต้องดูด้วยว่าไม่เห็นด้วยประเด็นใด ตนเข้าใจว่าประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมดูแลเสียงส่วนน้อยด้วย คนเป็นรัฐบาลจะต้องไม่เลือกดูแลเฉพาะกลุ่มที้รักและเลือกตัวเอง
“ขอให้จำเอาไว้ว่ารัฐบาลต้องดูแลทั้ง 70 ล้านคน ประเทศเราไม่ได้มีแค่จังหวัดสุพรรณบุรี อยุธยา และการบริหารงานไม่มีใครมาหลอกผมได้ ผมไม่ใช่รัฐบาลที่หลับหูหลับตาใครจะขออะไรก็ให้ไป แต่เรามาดูทุกอย่าง ผมไม่ท้อ เพราะทุกคนเป็นกำลังใจให้ แม้จะมีคนเกลียดบ้างก็ตาม แต่ผมก็รักทุกคน และผมก็รับฟังทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องไร้สาระ การเลือกตั้งอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผม แต่อยู่ที่ท่านว่าจะกาอย่างไร กาให้ดีก็แล้วกัน อย่าหลงเชื่อคารมณ์ แล้วก็ไปกาเลือกเขา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้ากฎหมายมีความขัดแย้งต่อให้เขียนรัฐธรรมนูญมากี่ฉบับก็แก้ปัญหาไม่ได้ และวันนี้รัฐธรรมนูญมีเกือบ 300 มาตรา แต่คนกลับไปอ่านแค่มาตราเดียว คือ การชุมนุมประท้วงเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อบ้านไม่เรียบร้อย มีการใช้อาวุธ จึงทำให้ตนต้องออกมา ซึ่งการชุมนุมประท้วงส่งผลให้ประชาชนและทหารตายไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
“เราจะเกลียดนักการเมืองไม่ได้ เพราะทุกคนเป็นคนไทย การเลือกตั้งเป็นไปตามกลไกของประชาชน ผมขอเพียงเวลาและโอกาสเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ทั้งการบริหารงานและอื่นๆ ในอนาคตจะต้องไม่มีการโกง ที่ผ่านมาไม่รู้จะโกงอะไรกันหนักหนา บางเรื่องไม่น่าจะโกงก็ยังโกงกันเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามผู้เข้าร่วมรับฟังว่า “จะเลือกตั้งพรุ่งนี้เลยหรือไม่” จากนั้นได้ล้อเลียนนักการเมืองโดยทำท่าปราศรัยพร้อมระบุว่า “พี่น้องทั้งหลายถ้าผมได้เข้ามา ผมจะแก้ไขปัญหาสร้างสะพานให้ และแก้น้ำท่วมให้ได้ภายในปี้” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนว่า “แล้วทันทำไหมล่ะ”
จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างที่นายกฯ เยี่ยมชมมาถึงหุ่นจำลองหล่อโลหะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และได้ชี้ไปที่ข้อความที่สลักไว้ซึ่งมีข้อความว่า “อโยธยา จะแพ้ไม่ได้” จากนั้นนายกฯ จึงขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อเดินทางกลับ กทม.