“ประยุทธ์” เมิน “ทักษิณ” โพสต์ภาพอยู่อังกฤษ บอกไม่อยากตอบ ไร้ประโยชน์การทำงาน ลั่นตามตัว “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้แสดงว่าต่างประเทศไม่ให้ตัว ยอมรับอารมณ์ไม่ดี บ่นมีแต่ติไม่มีก่อ บอกพยายามยืนตรงกลางใช้กฎหมายแก้ปัญหา
วันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ถึงกระแสวิจารณ์ที่รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลงว่า สถานการณ์การเมืองไม่มีอะไรที่จะสงบได้ เพราะเป็นการสร้างความนิยมทางการเมือง ฉะนั้นใครจะว่าอะไรต่างๆ ก็ตาม ตนก็รับไปแก้ไขและหาข้อเท็จจริง นำเข้าสู่การตรวจสอบ ตนทำทุกอันไม่ขอตอบอย่างอื่น เพราะตอบอย่างอื่นมันก็วุ่นวายไปหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรกับกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตัวเองขณะอยู่ที่ประเทศอังกฤษในช่วงเวลาคาบเกี่ยว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอังกฤษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การโพสต์ภาพอะไรต่างๆ เป็นเรื่องของท่าน ตนห้ามท่านไม่ได้ ตนเคยบอกแล้วห้ามท่านไม่ได้ ท่านโพสต์มาหากมันจะเกิดอะไรขึ้นมาก็แล้วแต่ท่าน ท่านเลือกของท่านเอง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ตนไปควบคุมไม่ได้ พูดไปก็เท่านั้น ก็ไปดูเอาก็แล้วกัน คำถามพวกนี้ไม่ขอตอบ ไม่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของตน
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หายตัวไป นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยไปไล่ล่าใคร เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่เรื่องของคนไม่กี่คนก็ขยายความขัดแย้งกันอยู่ได้ คำถามวันนี้ 10 เรื่องที่ส่งมาไม่ได้เกี่ยวกับการประชุม ครม.เลย เกี่ยวกับเรื่องหนีตรงนั้นหนีตรงนี้ หนีทุกวันแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา เดี๋ยวมันก็จับจนได้ ถ้าจับไม่ได้ แสดงว่าเขาไม่ให้ตัว ก็ต้องรออย่างนั้น จะไปจับที่อื่นได้หรือไม่ ไปหาสิว่าออกอย่างไร ที่ไหนแล้วจะลงโทษกันอย่างไร ฝ่ายความมั่นคงเขาก็ทำทั้งหมด นึกถึงสิ่งที่ก้าวหน้าบ้าง แต่ถ้าเอาปัญหาเหล่านี้ที่พะรุงพะรัง สิ่งที่จะก้าวไปก็จะก้าวช้า หรือจะเริ่มใหม่ ก็เริ่มไม่ได้ เพราะเรื่องเดิมมันเยอะ ขอให้ลองย้อนดู เรื่องเกิดขึ้นอย่างไร และเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตนเข้ามาแก้ทั้งหมด 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เมื่อแก้แล้วก็โดนสังคมและสื่อตำหนิติเตียนทั้งๆ ที่เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ทำ ไม่เคยได้ปฏิบัติ ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วตนจะทำไปเพื่ออะไร ทำไปเพื่อใคร
“วันนี้มาที่นี่ ตั้งแต่ประชุมอารมณ์รุนแรงหน่อย เมืองนี้เป็นเมืองประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์ 30 กว่าพระองค์ กรุงศรีอยุธยาที่นั่งอยู่นี้เพราะบรรพบุรุษรักษาแผ่นดินนี้ไว้ เราอย่าทำลายแผ่นดินผืนนี้ อยู่ด้วยพระมหากษัตริย์มายุคสมัยที่ 4 แล้ว รัตนโกสินทร์อยู่ด้วยความมีระเบียบวินัย ด้วยมาตการต่างๆ จนมาเป็นประชาธิปไตย เป็นประเทศไทยในวันนี้ และเรากำลังให้ประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยที่เป็นปกติ เป็นสากล และวิธีการที่จะไปสู่ตรงนั้นต้องใช้วิธีการพิเศษหรือไม่ หากใช้วิธีการปกติจะไปได้หรือไม่ มันก็ไม่ได้อยู่ดี แล้วจะทำอย่างไร ขอถามหน่อย ไอ้นี่ก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ละเมิด ไอ้นี่ไม่เป็นประชาธิปไตย ผมรู้อยู่แล้ว แต่มันแก้ด้วยวิธีอื่นไม่ได้ มันก็ต้องแก้ด้วยวิธีนี้ หรือใครคิดว่ามีวิธีอื่น มีไหม มีแต่ผู้รู้แต่ไม่มีผู้ปฎิบัติ มีแต่ผู้ติ ไม่มีผู้ก่อ มันอยู่ไม่ได้หรอกประเทศไทย จะไม่มีอะไรก้าวหน้าได้ ถ้าตราบใดยังเป็นฝ่ายเป็นพวก ไอ้นี่จะเอาซ้าย เอาให้ตาย ไอ้ทางขวาก็ว่าไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียม ไม่ยุติธรรม ผมก็พยายามอยู่ตรงกลาง แก้ปัญหาทั้งสองทางให้ได้ โดยเอากฎหมายเข้ามาเป็นตัวตัดสิน ก็ยังมาไล่ผม ซึ่งเป็นคนทำอีก ตกลงจะเอาไงกันดี วันนี้ไม่ได้อารมณ์เสีย แต่อารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวต้องไปพบประชาชนอีก” นายกฯ กล่าว