ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เห็นเงียบๆ พี่ฟาดเรียบ!! “พี่ป๊อก”เซ็นฉับยกที่ป่าชุมชนให้“นายทุนใหญ่”ใช้ประโยชน์ อ้าง"ป่าแห้งแล้ง" แต่ส่อง google mapก็เห็นป่าเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ แถมห่างเขื่อนแค่คืบ
ว่ากันว่า 3 ปีกว่าแห่งยุคเรืองอำนาจของคสช. แม้“พี่น้อง 3 ป.”จะกอดคอกันแบบอยู่กันไปทั้งชาติ ไม่มีอะไรมาพรากไปได้ แต่การอยู่ในอำนาจก็มีทั้งสุขและทุกข์คละกันไป .. สำหรับรายของ“น้องเล็ก ป.ประยุทธ์”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดัชนีความสุขไม่ค่อยพุ่ง ด้วยฐานะ“หนังหน้าไฟ”ต้องตอบคำถามแทบทุกเรื่องของรัฐบาล ยิ่งช่วงหลังคะแนนิยมส่วนตัวที่เคยพุ่ง ก็ตกต่ำดิ่งเหวลงเรื่อยๆ ภาษาการเมืองเรียก“เสื่อม “นั่นเอง .. ส่วน“พี่ ป.ป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถึงจะสนุกสนานกับการจับวางเด็กในเครือ ขึ้นตำแหน่งใหญ่ หรือการบริหารงานในตำแหน่ง“รองนายกฯฝ่ายความมั่นคั่ง”อย่างเมามัน แต่ก็ติดอยู่ที่เป็น“ตำบลกระสุนตก”โดนด่าได้แทบทุกเรื่อง บางครั้งก็ทำให้หงุดหงิดใจอยู่บ้าง .. แต่สำหรับ“พี่รอง ป.ป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คนนี้ดัชนีความสุขพุ่งปรี๊ด ไม่ค่อยมีเรื่องโดดลงไปแก้ต่าง-แก้ตัว สักเท่าไหร่ จนโดนแซวว่า นี่คือเสือตัวจริง และเป็น เสือเงียบที่ฟาดเรียบ เสียด้วย ..
แต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา“บิ๊กป๊อก”ต้องสะอึก ไฟกำลังลามเข้าบ้าน กระทรวงมหาดไทยบ้างแล้ว เมื่อมีข้อมูลเปิดเผยจากเฟซบุ๊ก "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" ของ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)ว่าเจ้าของรหัส “มท.1”เซ็นยก “ป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก”ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จำนวน 31 ไร่ให้กับ“บริษัทกลุ่มกระทิงแดง”กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่ม และเครื่องดื่ม โดยอ้างในหนังสือราชการด้วยว่าเป็น“ป่าแห้งแล้ง”ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงไม่มีผู้ใดคัดค้าน .. ทว่าเมื่อส่องพิกัดผืนป่าดังกล่าวผ่าน google mapก็พบว่าเป็นผืนป่าที่ “เขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์”เลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีระยะห่างจากสปริงเวย์ของเขื่อนอุบลรัตน์ แค่ราว 1 กิโลเมตรเท่านั้น .. และยังมีข้อมูลด้วยว่า“นายทุน”ได้กว้านซื้อที่ดินในลักษณะปิดล้อมป่าผืนนี้ ก่อนจะมาทำเรื่องขออนุญาตจากมหาดไทย ในภายหลัง .. ส่วนเรื่องที่ว่าชาวบ้านไม่คัดค้านนั้น ก็มีหลักฐานว่าเมื่อปลายปี 2559 สภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯขอนแก่น เพื่อคัดค้านโรงงานนี้มาแล้ว .. ไฉนข้อมูลเหล่านี้จึงไม่อยู่ในมือ“มท.ป๊อก”ก่อนที่จะเซ็นอนุมัติ ก็ไม่ทราบได้ หรือหากทราบแล้วเซ็นนี่ก็อีกเรื่อง .. เคยมีคนว่าไว้“นักการเมือง-นายทุน”เกี้ยเซียะกันน่ากลัวแล้ว นี่“นายทุน-ขุนทหาร”เอื้อประโยชน์กันสยดสยองกว่าหลายเท่า
** สารภาพแล้ว !! ปล่อย “หนูปู”หนีพ้นแดนไทยเบื้องบูรพาทิศ จ.สระแก้ว แถมผ่าน“ด่านทหารกองกำลังบูรพา”สบายใจเฉิบ
เหลือเชื่อ“พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์”เพิ่งรู้เรื่อง เคยทำปึงๆปังๆ จะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องที่“หนูปู”ยิ่งลักษณ์ หลบหนีการฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวออกนอกประเทศได้อีก ท่ามกลางกระแสข่าวว่า“ขุนทหาร-ระบอบแม้ว”จับมือกันตาม “ดีลชินสุวรรณ” ..ที่สุดก็คงรู้ตัวว่าอุดไม่อยู่ ทำให้ “ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร ต้องออกมา “สารภาพ”ว่า “หนูปู”หลุดรอดไปทางชายแดน“สระแก้ว”ด้วยรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ โดยผ่าน“ด่านทหาร”ไปเสียด้วย .. เป็นคำสารภาพหลังจากที่เกิดเรื่องมา16 วัน ถึงจะมีข้อมูลหล่นจากปาก “รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง” ถึงความคืบหน้าในการหลบหนี โดยการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ควรทำได้ตั้งแต่วันแรกๆ ด้วยซ้ำ .. อย่าลืมว่าตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 25 ส.ค. ที่รู้ว่า“หนูปู”ล่องหนไป ก็มีกระแสข่าวถึงเส้นทางหนี 3 แนวทาง หนึ่ง ขึ้นเรือที่ศรีราชา สองขึ้นเรือที่เกาะช้าง จ.ตราด และ สามออกไปทางชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว .. เรื่องที่ “รองฯป้อม”ออกมาสารภาพนั้น จึงไม่ใช่เรื่องสุดเซอร์ไพร์ส แต่อย่างใด .. รวมทั้งเส้นทางการหลบหนีก็เป็นเพียงประเด็นยิบย่อยเท่านั้น ที่ไม่สำคัญกว่าคำถามที่ว่า“ใครเป็นผู้ช่วยเหลือ”ต่างหาก .. “ท่านป้อม”ก็บอกว่าเป็น “คนในประเทศ”ที่ใครๆก็คิดว่าเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว .. น่าแปลกที่หลังจาก“ท่านป้อม”ระบุถึงเส้นทางหลบหนี กลับพยายามให้น้ำหนักไปที่“คนขับรถเก๋ง”มาสอบสวน .. ทั้งที่พูดเต็มปากว่ารถที่“ยิ่งลักษณ์”โดยสารผ่าน“ด่านทหาร”ด้วย .. ในฐานะ“พี่ใหญ่กองทัพ”เหตุใดจึงไม่ให้น้ำหนักในการสอบสวน“ด่านทหาร”ที่ว่า .. ที่สำคัญ “บิ๊กป้อม”ก็ยังเป็น “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์”ที่มีลูกน้องดูแลด่านทหารแทบนั้นแบบเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะ จ.สระแก้ว ก็อยู่ในความรับผิดชอบของ“กองกำลังบูรพา”ซึ่งอยู่ในอาณัติของ “บูรพาพยัคฆ์” นั่นเอง
คำถามมีตามมามากมาย หาก “ยิ่งลักษณ์”ไปสระแก้ว จุดหมายที่จะเดินทางไปก็คงหนีไม่พ้นประเทศกัมพูชา .. แล้วในการประชุม ครม.ร่วมไทย-กัมพูชา เมื่อไม่กี่วันก่อน มีการสอบถามเรื่องนี้กับ“นายกฯฮุนเซน”แห่งกัมพูชาหรือไม่ .. ซึ่งก็เชื่อว่าไม่ได้มีการพูดถึง สำทับกับจังหวะที่“บิ๊กป้อม”ออกมาให้ข่าว ก็เป็นหลังกลับจากเยือนกัมพูชาแล้วด้วย .. ทั้งๆ ที่ใครจะไปใครจะมา ทหารตรงนั้นมีหรือจะไม่รู้ ยิ่งเป็นระดับ “วีไอพี”อย่าง “หนูปู”ด้วยแล้ว จะเข้าจะออก มีหรือที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่รู้เรื่อง .. หรือเป็นเพราะ“บิ๊ก 2 ประเทศ”รู้กันอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นเรื่อง“ละไว้ในฐานที่รู้กัน”ก็เลยเลือกที่จะมาเปิดประเด็นหลังการพบปะกัน เพื่อเลี่ยงกระแสร้อนในช่วงที่“ทีมไทย”ยกทัพเยือน“ทีมเขมร”เมื่อวีคที่แล้ว .. อีกคำถามที่ตามกับการที่ “ยิ่งลักษณ์”คือสัญลักษณ์ของ“พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง”เป็น “ปฏิปักษ์”กันมาโดยตลอด ที่มีเมืองหลวง-พื้นที่อิทธิพล อยู่แถบภาคเหนือ เหตุใดถึงเสี่ยงเอาชีวิตไปหลบหนี“ด้านบูรพาทิศ”หากไม่มี “ไฟเขียวผ่านตลอด” .. เห็นว่า “บิ๊กป้อม”สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวไขความกระจ่างเรื่อง “ปล่อยปู”ทั้งที่จริงคนที่รู้เรื่องที่สุด น่าจะเป็นคนแถลงเองนะท่านนะ
** แค่หนังตัวอย่าง!! "รัฐบาล คสช." เข้ายุคเสื่อม โดนเปิดโปง“ดีลชินสุวรรณ”เลยจับ "โอ๊คอ๊าค" บูชายัญเรียกเรตติ้งก่อนกำหนด ทำ"ฝ่ายทักษิณ" ดิ้นพล่าน ด่าไม่เลี้ยง
จากเดิมเคยลูบปาก เซ็ต "ดีลชินสุวรรณ" ฮั้วกันระหว่าง"รัฐบาล คสช.-ระบอบแม้ว" .. พอโดนจับได้ไล่ทัน หลังจาก"ปล่อยปู" แบบไม่เนียน ชาวบ้านร้านตลาดอ่านออกหมดว่า"บิ๊กทหาร" มีเอี่ยว .. ทีนี้ก็เดือดร้อนต้องไปลาก"ตัวประกัน" อย่าง"โอ๊คอ๊าค" พานทองแท้ ชินวัตร ที่มีชนัก"รับของโจร-ฟอกเงิน" ในคดีเงินกู้กรุงไทย-กฤษฎานคร ขึ้นมาเล่น"ก่อนกำหนด" .. หลักๆ ก็แค่เอามากระตุ้นเรตติ้งที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของ"รัฐบาลทหาร" เท่านั้น .. แต่ทำไปทำมา "ฝ่ายทักษิณ" ก็คิดว่า"คู่ดีล" คิดไม่ซื่อ เบี้ยวกันตั้งแต่ต้น .. ทีนี้ก็ดิ้นกันพล่าน ตั้งแต่ "เพจอวตาร"ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนอย่าง"เพจกูฯ" ที่ปกติใช้งานแบบลับๆ ล่อๆ ชกใต้เข็มขัด ก็ต้องหยิบมาใช้เป็น "องครักษ์พิทักษ์นายโอ๊คอ๊าค" ปล่อยเอกสารลับ ของดีเอสไอ ออกมา .. ก่อนที่ขุมข่ายคนเพื่อไทย จะทยอยย้ายวิกจากที่ปกป้อง"นายปู" ยิ่งลักษณ์ ออกมาปกป้อง "ลูกนายใหญ่" กันจ้าละหวั่น ที่สำคัญแต่ละคน "เบอร์ใหญ่" ทั้งนั้น ตั้งแต่ ชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม ที่เคยเล่นบท "เด็กดื้อ" ไม่ยอมลงท่าเดียว เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จน "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทุบโต๊ะ "ผมขอยึดอำนาจ" นั่นแหละ .. อย่าดูเบาไป ฉากที่ "ชัยเกษม" ออกมาโชว์ภูมิด้านกฎหมายว่า ไม่สามารถเอาผิด "นายโอ๊ค" ใน"คดีรับของโจร" จากคดีเงินกู้กรุงไทย-กฤษฎานคร ได้ ด้วยเหตุคดีหมดอายุความแล้วนั้น ก็ด้วยความที่มีชื่อคั่วเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่ กับเขาเหมือนกัน .. แต่คำแย้งของ"ชัยเกษม" ก็ดูหลามๆ ชอบกล ไม่เห็นพูดถึง "คดีฟอกเงิน" ที่เหลืออายุความอีกราวปีนึงเลย ..
ถัดมาก็ "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อันดับ 1 ก็ออกมาซัด คสช. พองามว่า แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม .. ขาดไม่ได้ "เสี่ยไก่" วัฒนา เมืองสุข ที่ระยะหลังท่าจะเข้าคอก"วังทองหลาง" เล่นบท “ลูกคู่หญิงหน่อย"ตลอด ก็พักเรื่องตัวเองมาพิทักษ์ "ลูกนายใหญ่"ว่าเป็น "เหยื่อรายล่าสุด" ที่ถูกลูกหลงทางการเมือง มาตั้งแต่รัฐประหาร 2549 นู่น .. สอดคล้องกับ "หญิงหน่อย" ที่ว่า หากมีความผิดจริง ทำไมตัองรอมาเป็น 10 ปีไม่ยอมดำเนินการ .. อันนี้ก็ถามกลับว่า หากไม่มีมูล สมัย"รัฐบาลระบอบแม้ว" ทั้ง สมัคร-สมชาย-ยิ่งลักษณ์ ทำไมไม่เป่าคดีทิ้งไปซะให้สิ้นเรื่อง .. นี่ปล่อยให้ตัวคดีมาถึงยุคคสช. แล้วศาลก็ตัดสินปมเรื่องการอนุมัติเงินกู้ฯ "อดีตผู้บริหาร ธ.กรุงไทย" ก็เข้าไปรับโทษแล้ว .. ขาดก็แต่ "พ่อแม้ว" ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีไปจนต้องพักคดีไว้ชั่วคราว ..
จังหวะคืบของ "คดีนายโอ๊ค" นั้นอาจจะเงียบไปนาน แต่พอกลับมาอยู่ในกระแส ก็แตกตื่นไปทั้งบาง .. ร้อนจน "นายโอ๊ค" ต้องกลับมาใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความชี้แจง เปิดหัวด้วย "มงแต๊สกีเยอ" เลียนแบบ"พ่อแม้ว" ว่าถูกหมายหัว เพราะเป็นลูกอดีตนายกฯ พร้อมตัดพ้อไปถึงกฎแห่งกรรม นู่น นี่ .. ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร "พี่ทหาร" เข้ามุมอับ เลยต้องงัดคดีมาเล่นงาน "นายโอ๊ค" จะแค่เล่นเลี้ยงกระแส หรือจะแทงสุดให้มิดด้าม ต้องจับตาต่อไป .. โดยเฉพาะ"คดีฟอกเงิน" ที่เหลืออายุความอีกไม่ถึงปี เผลอแปบๆ ก็ตัดจบได้ .. เวลานี้แค่“หนังตัวอย่าง”โดนเปิดโปงแผนร้าย ก็เลยขยับรักษาเรตติ้ง“รัฐบาลคนดี”ยังไม่ใช่ไคลแม็กซ์อย่างที่เข้าใจ .. ทีนี้ก็คอยดูกันอีกทีว่าสุดท้ายจะ“เกี้ยเซียะ”กันโค้งไหน จะเป็นเหมือนเกี้ยเซียะ มหาเถรฯ เด้ง ผอ.สำนักพุทธฯ หรือแบบ“หนูปู”ที่ปล่อยลอยนวลไปเฉยๆ .. รอพีคกันอีกที ก็ช่วงใกล้หมออายุความ ที่ไม่วายโดนคุ้ยมาประจานอีกรอบ .
ช.ชฎา
