xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวร้าย “นายใหญ่” กฎหมายใหม่จัดหนัก-จัดเต็มรายวัน !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



จะเรียกว่าเริ่มไม่ใช่วันของพวกเขาจริงๆ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร และทีมงาน เพราะในช่วงล่วงเข้าปีที่สามเข้าปีที่สี่ ถือว่าเจอแรงกระแทกแบบย้อนกลับรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความเสียหายดังกล่าวก็มักจะออกมาในแบบกระทบในเชิงโครงสร้างอำนาจที่พวกเขาเคยใช้เป็นเครื่องมือสร้างความนิยม และปูทางสร้างฐานอำนาจทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่มาจนถึงวันนี้กลไกโครงสร้างแบบนั้นกำลังถูกกระทบกระเทือนและท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ผ่านมา หากพิจารณาจากภาพที่เห็นต่อเนื่องนับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ก้าวเข้ามาสู่การเมืองแบบเต็มตัวตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และ มีอำนาจทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา แม้ว่าอีกด้านหนึ่งเขาก็เริ่มโดนแรงกระแทกจากข้อกล่าวหาในเรื่องการประพฤติมิชอบตามมาเช่นเดียวกัน โดยตัวอย่างแรกที่โดน ก็คือ “ข้อหาซุกหุ้น” ที่ในตอนนั้นถูกชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ก็รอดไปได้ในศาลรัฐธรรมนูญที่ว่ากันว่า มี “รายการพิเศษ” แต่ถึงอย่างไรสำหรับคนในครอบครัวนี้ก็ต้องเกิดแต่เรื่องข้อกล่าวหาในเรื่องประพฤติมิชอบ เช่น ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งมันก็น่าคิดสำหรับคนทั่วไปได้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ ทำไมพวกเขามีแต่เรื่องข้อสงสัย ถูกดำเนินคดี ถูกยึดทรัพย์จากเรื่องดังกล่าวอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนอกเหนือจาก ทักษิณ ชินวัตร แล้วก็ยังมีคนในครอบครัวคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิดถูกกล่าวหาถูกดำเนินคดีในแบบเดียวกัน

ล่าสุด ก็มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูกดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าวในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และคดีก็งวดเข้ามาทุกขณะแล้ว โดยในวันที่ 21 กรกฎาคม เป็นวันไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยน้ดสุดท้ายแล้ว จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนของการแถลงปิดคดี ก่อนมีการกำหนดวันพิพากษากันต่อไป

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันฝ่ายจำเลย (ยิ่งลักษณ์) ก็กำลังลุ้นอยู่ว่าศาลฎีกาฯจะมีคำสั่งออกมาว่าจะให้ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในข้อกฎหมายบางอย่างที่ทางทีมทนายความยื่นคำร้องไปหรือไม่ต้องรอลุ้นกัน แต่ถึงอย่างไรถือว่า “น่าหวาดเสียว” ทั้งสิ้น

หากตัดตอนออกมาพิจารณากันเฉพาะในส่วนของ ทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้ถือว่าเขาอยู่ใน “อาการทรุดหนัก” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอนาคตทางการเมืองที่ต้องบอกว่า “ดับวูบตลอดชีวิต” ส่วนในทางคดีก็ต้องบอกว่ามีแนวโน้ม “จบเห่” ค่อนข้างสูงมาก

อย่างแรกในเรื่องอนาคตทางการเมืองที่บอกว่าดับวูบถาวรนั้น เพราะเขาอยู่ในข่ายมี “คุณสมบัติต้องห้าม” ตามรัฐธรรมนูญใหม่ จากคดีทุจริต เคยถูกยึดทรัพย์ เคยถูกศาลตัดสินจำคุก ถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง ฯลฯ

ล่าสุด สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นการ “พิจารณาคดีลับหลัง” จำเลยได้ แม้ว่ากฎหมายไม่ได้เจาะจงกับใคร แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่ต้องกระทบกับ ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปอย่างจังที่เรียกว่า “กระอักเลือด” รวมไปถึงคนอื่นที่คิดหนีหลังมีคำพิพากษาออกมาในทางลบกับพวกเขา เพราะสำหรับ ทักษิณ เขามีคดีที่ค้างอยู่ในศาลอย่างน้อย 4 คดี และถูกจำหน่ายคดีออกไปชั่วคราว เนื่องจากเขาหลบหนีไป แต่ในอนาคตหากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้คดีก็จะเดินหน้าต่อทันที ไม่ว่าเขาจะกลับมาหรือไม่ ขณะเดียวกัน โทษจำคุก 2 ปีจากคดีซื้อขายที่ดินรัชดาหากถูกจับกุมได้หรือกลับมาก็ต้องติดคุก

นั่นว่ากันเฉพาะคดีอาญาทั้งในศาลและนอกศาลที่เขาต้องเจอ แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีผลกระทบทางอ้อมในทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าอีกหลังที่ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้หลังจากสภานิติบัญญัตฯมีมติเป็นเอกฉันท์มีข้อกำหนดในเรื่อง “ไพรมารี” นั่นคือ การเป็นตัวแทนพรรค หรือผู้สมัครของพรรคทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อต้องผ่านการหยั่งเสียง หรือคัดเลือกจากสมาชิกในระดับสาขาพรรคแต่ละเขตขึ้นมา เท่ากับว่า ต่อไปนี้ตัวแทนของพรรคต้องมาจากการคัดเลือกของสมาชิกพรรคไม่ใช่มาจากเด็กของ “นายใหญ่” หรือ “เจ๊” คนนั้นคนนี้ และล่าสุด ผลจากการหารือของคณะกรรมการร่วมกันมีข้อสรุปที่รัดแน่นเข้าไปอีก นั่นคือ บังคับให้มีโทษจำคุกและยุบพรรค หากมีการ “ตุกติก” หรือฮั้วกันในระดับสาขาพรรค นั่นคือ จะทำมั่วๆ เล่นๆ
ไม่ได้อีกแล้ว

หากกฎหมายพรรคการเมืองออกมาบังคับใช้เมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่า ทุกพรรคการเมืองต้องปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่สำหรับพรรคแบบครอบครัว อย่างพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร พวกเขาก็จะถูกลดอิทธิพลในการครอบงำลงไปอีก แม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะเป็นการพัฒนาพรรคการเมืองให้มาจากฐานรากอย่างแท้จริงก็ตาม และเป็นธรรมดาที่ในช่วงแรกจะมีปัญหาติดขัดบ้างก็ตาม

ดังนั้น หากพิจารณากันเฉพาะสองเรื่องใหญ่ คือ กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายวิธีพิจารณาความของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่อนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ เท่ากับว่าเป็น “ข่าวร้าย” สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขาโดยตรง แต่ขณะเดียวกัน มันก็ช่วยไม่ได้เพราะเขาเลือกเดินในเส้นทางแบบนี้เอง เส้นทางที่หลายคนมองว่า “เอาเปรียบ” คนอื่นในสังคม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น