ปค. ขีดเส้น “ปจ.- นายอำเภอ” ทั่วประเทศ เร่งแก้ปัญหา “ผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” เฉพาะในหมู่บ้าน/ชุมชน หลังประเมินรอบแรก มีปัญหามาก 7,145 แห่ง “เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้” ขู่! หากการประเมินรอบ 2 เดือนสิงหาคมนี้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด “ปจ.- นายอำเภอ” ทั่วประเทศต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (4 ก.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทุกจังหวัด (ศอ.ปส.จังหวัด) ให้เร่งรัดการดำเนินการป้องกันและปราบปรามให้มีประสิทธิภาพ หลังจากรมการปกครอง ในฐานะเลขานุการ ศอ.ปส.มหาดไทย ได้แจ้งผลการประเมินหมู่บ้าน/ชุมชน รอบที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 รวมถึงแจ้งให้ ศอ.สป.จังหวัด ดำเนินการควบคุมรักษาสภาพหมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่มีปัญหายาเสพติดไม่ให้ลดจำนวนลง และลดระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีปัญหายาเสพติดมาก ไปสู่ระดับปานกลาง น้อย และไม่มีปัญหายาเสพติดตามลำดับ
“ในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า หมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่มีปัญหา จำนวน 50,464 หมู่บ้าน/ชุมชน หรือคิดเป็นร้อยละ 61.75 และหมูบ้าน/ชุมชน ที่มีปัญหามาก จำนวน 7,145หมู่บ้านชุมชน หรือคิดเป็นร้อยละ 8.72 ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้”
มีรายงานว่า คำสั่งดังกล่าว อธิบดีกรมการปกครอง ได้กำชับให้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขเพื่อลดระดับปัญหาความรุนแรงของยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดในการปฏิบัติราชการของกรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทย
“ให้เร่งรัดดำเนินการต่อผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมาย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และหากการประเมินหมู่บ้าน/ชุมชน รอบที่ 2 ประจำปี 2560 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด กรมการปกครองจะถือว่า เป็นความรับผิดชอบของปลัดจังหวัด และนายอำเภอ ในพื้นที่นั้น”
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ยังขอให้ดำเนินการต่อผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมายอย่างต่อเนื่องโดยการสืบสวน จับกุม หรือดำเนินการอื่นๆ ตามกฎหมาย เพื่อกดดันให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวอย่างถาวร และ ให้ดำเนินการ นำผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติด ที่ยังเหลืออยู่ในหมู่บาน/ชุมชน เข้ารับการบำบัดรักษาทุกราย ตามความเหมาะสมกับระดับของการใช้สารเสพติด
มีรายงานว่า สำหรับข้อมูลในการประเมินรอบแรก (16 พ.ค. 2560) จะถูก ศอ.ปส.จังหวัด นำไปแก้ปัญหาในพื้นที่ ก่อนที่จะมีการประเมินสภาพปัญหายาเสพติด รอบที่ 2 ปี 2560 ในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ เพื่อควบคุมรักษาสถานะหมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่มีปัญหายาเสพติด ไม่ให้ลดจำนวนลง และเร่งดำเนินการการลดระดับหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดมากไปสู่ระดับปานกลาง น้อย และไม่มียาเสพติดเลยในอนาคตต่อไป
สำหรับในระดับพื้นที่จังหวัด ในส่วนของหมู่บ้านและชุมชนที่พบว่ามีสภาพปัญหายาเสพติดอยู่ในระดับ “มีปัญหามาก” จำนวน 7,145 แห่งนั้น มีจังหวัดที่มีหมู่บ้านที่มีปัญหาในหลักมากกว่า 100 แห่ง เช่น จ.ลพบุรี 102 แห่ง จ.สระบุรี 100 แห่ง จ.นครราชสีมา 122 แห่ง จ.บุรีรัมย์ 206 แห่ง จ.ศรีสะเกษ 267 แห่ง จ.อุบลราชธานี 469 แห่ง จ.ยโสธร 201 แห่ง จ.ชัยภูมิ 210 แห่ง จ.อำนาจเจริญ 130 แห่ง จ.หนองบัวลำภู 185 แห่ง จ.ขอนแก่น 160 แห่ง จ.อุดรธานี 130 แห่ง จ.ร้อยเอ็ด 188 แห่ง จ.กาฬสินธุ์ 177 แห่ง จ.สกลนคร 212 แห่ง จ.นครพนม 146 แห่ง
จ.เชียงใหม่ 170 แห่ง จ.เชียงราย 130 แห่ง จ.สุโขทัย 105 แห่ง จ.พิษณุโลก 229 แห่ง จ.พิจิตร 103 แห่ง จ.เพชรบูรณ์ 192 แห่ง จ.ราชบุรี 100 แห่ง จ.สุพรรณบุรี 127 แห่ง จ.สงขลา 239 แห่ง จ.ตรัง 150 แห่ง จ.ปัตตานี 135 แห่ง จ.ยะลา 121 แห่ง จ.นราธิวาส 184 แห่ง และกรุงเทพมหานคร 343 แห่ง
ข้อมูลดังกล่าวยังระบุว่า มีจำนวนผู้เสพยาเสพติด 68,935 ราย มีผู้ค้ายาเสพติด 7,387 ราย จากจำนวนประชากร 60,078,134 คน โดยพบว่า ในหมู่บ้าน/ชุมชน “ที่มีปัญหามาก” จ.อุบลราชธานี มีจำนวนทั้งผู้เสพและผู้ค้า ถึง 206 ราย รองจาก กทม. ที่มีทั้งผู้เสพ/ค้า 224 ราย นอกจากนี้ จ.อุบลราชธานี ยังมีผู้เสพอย่างเดียวถึง 203 รายมากกว่า กทม. ที่มีเพียง 97 ราย และตัวเลขผู้ค้ายาเสพติดอย่างเดียว พบว่า จ.เพชรบูรณ์ มีถึง 81 ราย
