“สมชัย” ชี้ให้ศาลวินิจฉัยระยะเวลาเลือกตั้ง เหตุมีปัญหา กกต.ต้องรับผิดชอบ ปัดตีรวน

“กกต.สมชัย” แจงเหตุ กกต.ต้องยื่นศาล รธน.วินิจฉัยปมระยะเวลาจัดเลือกตั้ง 150 วันเพื่อให้มีหลังพิงในการทำงาน เพราะสุดท้ายเกิดปัญหาไม่ใช่ กรธ.-กฤษฎีกา รับผิดชอบแต่เป็น กกต.ใหม่ 7 คน ยันไม่ได้ตีรวน เพื่อให้ตัวเองทำงานหนักขึ้น

วันนี้ (18 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.3) กล่าวถึงกรณี กกต.จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 หมายรวมถึงการรับรองผลการเลือกตั้งด้วยหรือไม่ว่า กกต.ไม่ได้เรื่องมากอะไร แต่รัฐธรรมนูญเขียนไว้สั้นๆ ว่า กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ 150 วัน หลายคนให้ดูเจตนา และถามผู้ยกร่าง แต่ถึงแม้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ออกมาระบุว่าระยะเวลาดังกล่าวไม่รวมการประกาศผล กกต.ก็คิดว่าที่สุดแล้วคนที่มีอำนาจวินิจฉัยเรื่องนี้เป็นที่สุดไม่ใช่ กรธ. แต่เป็นศาลรัฐธรรมนูญ จึงควรที่จะมีการถามความชัดเจนเรื่องดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้งเกิดขึ้น

“เราเห็นว่าทั้งกฤษฎีกา และ กรธ.ไม่ใช่หลังพิงที่เพียงพอ เพราะถ้ามีการเลือกตั้งไปแล้ว มีผู้ร้องต่อศาล ว่าระยะเวลา 150 วัน รวมถึงการประกาศรับรองผลด้วย ที่ กกต.ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการจัดเลือกตั้งจึงไม่ถูกต้อง แล้วศาลวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะจากเหตุดังกล่าว ว่า คนที่จะรับผิดชอบไม่ใช่กฤษฎีกา กรธ. เจ้าหน้าที่ กกต. หรือแม้แต่ กกต.ชุดนี้ แต่จะเป็น กกต.ชุดใหม่ 7 คน ดังนั้นจึงเห็นว่าควรทำประเด็นนี้ให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อให้คำวินิจฉัยเป็นหลังพิงให้กับ กกต.

นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ กกต.จะรอคำตอบจากกฤษฎีกา และกรธ. ซึ่งอยากให้มีคำตอบมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่ กกต.จะได้ใช้พิจารณาในการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป โดยตามรัฐธรรมนูญใหม่สามารถยื่นได้เลยตามมาตรา 210 ไม่ต้องรอเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร เพียงแต่อาจต้องรอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเสร็จเสียก่อน ซึ่งระยะเวลาในการยื่นจนกว่าจะมีเลือกตั้งยังเหลือเวลาอีกมาก คิดว่าการยื่นไม่ได้ทำให้เสียเวลามากมายในการจัดการเลือกตั้ง

“อยากให้เห็นใจฝ่ายปฏิบัติ เพราะการจัดการเลือกตั้งมีต้นทุนที่ต้องเสีย เมื่อยังมีเวลา ก็ถามวันนี้เพื่อให้มีคำตอบกลับมาดีกว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ระยะเวลาดังกล่าวรวมถึงการประการรับรองผล กกต.ก็ทำได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่รวม กกต.ยิ่งดีใจ เพราะจะทำให้เรามีเวลาผ่อนคลายมากขึ้น ยืนยันว่าการเสนอเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การตีรวน เพราะคงไม่มีใครอยากจะตีความกฎหมายให้ตัวเองต้องทำงานหนักขึ้น ถ้าจะตีรวนต้องตีความกฎหมายให้ตัวเองทำงานสบายขึ้น”