xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯ สอบ “บิ๊กป้อม-มทภ.2” ปล่อยเขมรสร้างบ่อน ฟ้อง มทภ.3 ชี้นำคดีหนุ่มลาหู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ “ประวิตร-แม่ทัพภาคที่ 2” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยกัมพูชาสร้างบ่อนในพื้นที่ทับซ้อน เขตอุทยานตาพระยา มรดกโลก ส่อเอื้อเอกชนลงทุนทุกธุรกิจอบายมุข พร้อมฟ้องแม่ทัพภาค 3 พูดกดออโต้ยิงหนุ่มลาหู่ ส่อชี้นำกระบวนการยุติธรรม ผิดระเบียบกลาโหม ด้านรองเลขาฯ ชี้ต้องดูก่อนที่ของใคร รับถ้าเป็นที่ทับซ้อนแล้วปล่อยให้สร้างเท่ากับยอมรับกลายๆ เป็นพื้นที่เขมรหรือเปล่า



วันนี้ (27 มี.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ใน 2 ประเด็น ผ่านนายธาวิน อินทร์จำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดย 1. ขอให้ตรวจสอบกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ท.วิชัย แซจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้กัมพูชาเข้ามาสร้างกาสิโนในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งที่บริเวณดังกล่าวไทยถือว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา พื้นที่ส่วนหนึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เขาใหญ่-ดงพญาเย็น จึงถือได้ว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเข้ามาทำธุรกิจการพนันอบายมุข เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและประเทศชาติ

“การก่อสร้างอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ การจะใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบและหากจะใช้พื้นที่เป็นการถาวรต้องมีพระราชกฤษฎีกาเพิกอุทยานเฉพาะพื้นที่ก่อน และยังเป็นพื้นที่ซับซ้อน นอกจากนี้อุทยานฯ ดังกล่าวเป็น 1 ใน 5 ของอุทยานฯ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การจะใช้พื้นที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมอุทยานฯ และการจะใช้ประโยชน์ในระยะยาวในลักษณะถาวร ต้องมีพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานเฉพาะพื้นที่ก่อน ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และทาง พล.อ.ประวิตรก็ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ที่ทางไทย-กัมพูชายังกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดน เท่ากับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อน ฉะนั้น การเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปก่อสร้างกาสิโนที่เชื่อว่าจะมีแค่คนไทยที่สามารถเข้าไปเล่นได้ ถือว่าการกระทำของ พล.อ.ประวิตร และแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าข่ายปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องปฏิบัติ” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าว

เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประเด็นที่ 2 ขอให้ตรวจสอบ ที่ทาง พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาค 3 กรณีให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 มี.ค.เกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมกลุ่มเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ ว่า “ถ้าเป็นผม ผมอาจกดออโต้ไปแล้วก็ได้” การให้สัมภาษณ์ในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการชี้นำกระบวนการยุติธรรม เพราะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็กำลังพิจารณาเรื่องนี้ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีก็ระบุว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เท่ากับว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าการวิสามัญฯ เป็นไปถูกต้องหรือไม่ คำพูดของแม่ทัพภาคที่ 3 เข้าข่ายผิดระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ. 2551 หรือไม่

เมื่อถามว่า การตรวจสอบครั้งนี้ของผู้ตรวจฯ จะทราบว่าพื้นที่ที่ตั้งกาสิโนดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายไหนใช่หรือไม่ นายธาวินกล่าวว่า ทางผู้ตรวจฯ นั้นต้องตรวจสอบว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ของใคร และความจริงการสร้างบ่อนกฎหมายก็ไม่เปิดให้ทำได้ซึ่งต้องดูว่าคณะกรรมการที่จัดขึ้นใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณา และถ้าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่ทับซ้อนก็ต้องไปดูว่าการจะดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ตามกฎหมายแล้วมีหลักเกณฑ์อย่างไร การที่เราไปปล่อยให้กัมพูชามาสร้างบ่อนจะเหมือนเป็นการยอมรับไปกลายๆ หรือเปล่าว่าพื้นที่นี้เป็นของฝ่ายใด และเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับต่างประเทศด้วย การที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องของขอบเขตดินแดน จะทำอะไรก็ควรต้องทำให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด


กำลังโหลดความคิดเห็น