xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภชัย” นำถกทีมศึกษา กม.ลูก สนช.พรุ่งนี้ จ่อชงขออยู่จนครบวาระ แนะข้อดี-เสียผู้ตรวจการเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
ประธาน กกต.เตรียมนำคณะคุย กก.ศึกษาร่างกฎหมายลูก สนช.พรุ่งนี้ เล็งชงให้กรรมการอยู่ต่อจนครบวาระ ส่วนคุณสมบัติใหม่ค่อยใช้ครั้งต่อไป เสนอข้อดี-เสียผู้ตรวจการเลือกตั้ง ผุด พ.ร.บ.สำนักงานฯ ให้สิทฑิประโยชน์พนักงานหลังเกษียณ เครื่องราชฯ ย้ำไปดูงานต่างประเทศจำเป็น เผยที่ประชุมให้สถาบันพัฒนาการเมืองฯ ปรับดูงานให้สอดคล้องมติ ครม.

วันนี้ (22 มี.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) ตนพร้อมด้วยนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และผู้บริหารสำนักงานจะเข้าหารือกับคณะกรรมการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เป็นประธานตามที่ได้รับคำเชิญ โดยทราบว่าทางคณะกรรมการของ สนช.ยึดร่างพระราชบัญญัติที่ กกต.เสนอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นหลักในการพิจารณา แต่เมื่อ กรธ.มีการแก้ไขเนื้อหาไม่เป็นไปตามที่ กกต.เสนอ ทางคณะกรรมการของ สนช.จึงต้องการทราบว่า กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติว่าคิดเห็นอย่างไร หรือมีข้อขัดข้องในเรื่องใดบ้าง ซึ่งประเด็นที่ที่ประชุม กกต.เมื่อวันที่ 21 มี.ค. เห็นว่าควรจะเสนอต่อคณะกรรมการของ สนช. คือในเรื่องการดำรงตำแหน่งของ กกต.ชุดปัจจุบัน โดยเห็นว่าควรให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ เนื่องจากได้รับการสรรหามาโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ 2550 และผ่านการเห็นชอบคุณสมบัติจากวุฒิสภา หลักเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ตามร่างรัฐธรรมนูญควรจะไปใช้บังคับในการสรรหา กกต.ครั้งต่อไป

นายศุภชัยกล่าวว่า นอกจากนี้จะเสนอในประเด็นของผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยจะเสนอข้อดีข้อเสียของการเปลี่ยนจาก กกต.จังหวัดเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประเด็นสถานะของสำนักงาน กกต.ที่ควรมีการกำหนดให้ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ให้มีการออก พ.ร.บ.สำนักงาน กกต. เพื่อให้สำนักงานมีความมั่นคงเช่นเดียวกับ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ของพนักงานที่จะได้รับทั้งเมื่อเกษียณอายุราชการ และการได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อีกทั้งประเด็นเรื่องการห้ามใช้งบประมาณของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไปดูศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งก็จะชี้ให้เห็นว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศมีความจำเป็น เพราะการเลือกตั้งของแต่ละประเทศมีบริบทที่แตกต่างกัน ประเทศที่ไม่มีซื้อเสียง ก็ต้องไปดูว่าเขามีวิธีการในการส่งเสริมให้ความรู้ประชาชนอย่างไร จึงไม่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น แต่ทั้งหมดเมื่อ กกต.เสนอไปแล้ว สนช.ในฐานะผู้มีหน้าที่ออกกฎหมายจะเห็นเป็นอย่างไร และที่สุดกฎหมายออกมาอย่างไร กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

นายศุภชัยยังกล่าวด้วยว่าในการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ก็ได้มีการพิจารณาถึงเรื่องการศึกษาดูงานต่างประเทศของหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงที่มีการท้วงติงเรื่องความเหมาะสมและความคุ้มค่า โดยที่ประชุมได้ให้แนวทางกับทางสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งของสำนักงานในฐานะเจ้าของหลักสูตรว่าการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของนักศึกษาต่อไปต้องปรับให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่ให้พิจารณากลุ่มประเทศอาเซียน +3 เป็นหลัก แต่ทั้งนี้ตามมติ ครม.ก็มีการยกเว้น ให้สามารถเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศนอกกลุ่มประเทศอาเชียน +3 ได้หากเป็นกรณีจำเป็น มีเหตุสมควรโดยถ้าเป็นหน่วยราชการต้องขออนุมัติต่อรัฐบาล แต่ถ้าเป็นองค์กรอิสระก็ต้องขอต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งในกรณีของ พตส. ผู้บังคับบัญชาสูงสุดก็คือ กกต. โดยขณะนี้ทางสถาบันพัฒนการเมืองและการเลือกตั้งกำลังพิจารณา หากในกลุ่มประเทศอาเซียน +3 ไม่มีประเทศไหนที่มีการเลือกตั้งให้นักศึกษาสามารถไปดูงานได้ ก็จะพิจารณาประเทศนอกกลุ่มอาเซียน+3 แล้วจึงเสนอต่อประชุม กกต.พิจารณาอนุมัติ

“เวลานี้กระแสมันแรง เราจะไปฝืนกระแสก็ไมได้ รวมทั้งบ้านเราก็กำลังประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ อะไรที่ช่วยประหยัดงบประมาณได้ กกต.ก็พร้อมที่จะทำ ที่เขาพิจารณากันอยู่ อย่างประเทศญี่ปุ่น จะมีการเลือกตั้ง ถ้าไป ก็จะไปดูเรื่องที่รัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการติดป้ายหาเสียงให้กับผู้สมัคร เพราะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของเราก็นำแบบอย่างมาจากเขา แต่หลักการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการไปดูงานต่างประเทศของ กกต. เพราะเมื่อเรามีหน้าในการจัดการเลือกตั้ง ก็จำเป็นต้องไปดูว่าแต่ละประเทศเขาพัฒนาประชาธิปไตยกันอย่างไร ถือว่าได้ประโยชน์มาก และส่วนใหญ่ที่ไปก็เป็นไปตามคำเชิญของประเทศต่างๆ อย่างเช่นตนไปดูเลือกตั้งที่ประเทศเอกวาดอร์ ก็เป็นไปตามคำเชิญของ AWEB ซึ่งเขาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เราออกแค่ค่าเดินทางอย่างเดียว” นายศุภชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น