นายกฯ จี้เจ้าหนี้ผิด กม.เข้าสู่ระบบ ขู่กวาดล้าง เตือน ตร.ทหารรับจ้างทวงเจอปลดแน่

นายกรัฐมนตรี เปิดงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จ่อจัดการให้เป็นศูนย์ กวาดล้างเจ้าหนี้นายทุนที่ผิดกฎหมาย ใครกล้าก็ลองดู ไม่ได้รังแกใคร ขอให้เข้าสู่ระบบ งงทำไมรัฐบาลก่อนถึงละเลย ยันไม่ได้เลิกบัตรทอง มีแต่จะเพิ่มขึ้น บอกขึ้นบัญชีไม่ได้ล้วงความลับ ขู่ตำรวจ ทหาร ข้าราชการรับจ้างทวงหนี้เจอปลดทันที บ่นไม่ให้ใช้ ม.44 เดี๋ยวร่าง ม.88 เลยเพิ่มเป็น 2 เท่า ชี้ต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ถึงจะจนแต่ไม่คดโกงใคร ลั่นไม่กลัวโดนแช่ง เดี๋ยวก็ย้อนหาตัวเอง

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด และภาคประชาชน กว่า 1,500 คนเข้าร่วม โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบใบอนุญาติการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับ (สินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์) แก่ผู้ประกอบการจำนวน 6 คน และเป็นสักขีพยานในการมอบสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ก่อนแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกคนทราบดีว่าปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาหลักของสังคมไทยที่มีมายาวนาน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ และกลายเป็นปัญหาสังคม เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอ การจัดระเบียบการใช้จ่ายเงินยังไม่ดีจึงเกิดการกู้หนี้ยืมสิน ที่ผ่านมามีปัญหามากเนื่องจากขาดความรอบคอบในการกู้หนี้ รัฐบาลแก้ไม่ออกเสียที ยิ่งแก้ก็ยิ่งพันกันไปหมด วันนี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งนี้ยอมรับว่าแม้รัฐบาลจะพยายามแต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ การเปิดโครงการในวันนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นวาระแห่งชาติ วันนี้จึงต้องแก้ปัญหาทั้งระบบในระยะแรกเพื่อให้เกิดรูปธรรม และต้องยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบให้เกิดความเหลือมล้ำในสังคม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีมาตรการออกมาเป็นระยะ คือ การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วยการแก้ไขหนี้นอกระบบก่อน เพราะถือเป็นฐานสำคัญในวงจรเศษฐกิจฐานรากของประเทศ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ต้องร่วมมือกัน และต้องหาวิธีให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงกองทุนสินเชื่อในระบบเพื่อจะได้สามารถยกระดับชีวิตพื้นฐานของตัวเองได้ รัฐบาลจะเร่งจัดการหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกหนี้ให้ เพียงแต่จะทำให้หนี้นอกระบบซึ่งถือว่าผิดกฎหมายให้เป็นศูนย์ และกลับเข้ามาในระบบ รัฐบาลจะดำเนินการกวาดล้างพวกเจ้าหนี้ ผู้ให้กู้ และนายทุนนอกระบบที่ผิดกฎหมายให้หมด หรือถ้าใครกล้าก็ลองดู วันนี้เราต้องทำอย่างเด็ดขาด ใครเกี่ยวข้องต้องโดนทุกคน จับให้หมด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้รังแกใคร เพราะถ้าไม่ทำปัญหาก็ไม่จบสิ้น และขอให้เจ้าหนี้นอกระบบมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะต่อจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ และตำรวจดำเนินกวาดล้างทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ผิดกฎหมายคุ้มครองผู้กู้ และมีเรื่องของการไกล่เกลี่ย การลงโทษผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตามถ้ารัฐมัวแต่หาเงินมาให้อย่างเดียวมันแก้ปัญหาไม่ได้ สำคัญที่สุดทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่วันนี้ยังพันกันอยู่หลายอย่าง ประเทศไทยต้องคิดใหม่เพื่อที่ผลกระทบเศรษฐกิจ สังคม จะได้หมดไป

“แม้รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมากหลายร้อยปัญหา และมีผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่ถ้าไม่พูดคุย ไม่ใช้หลักประชาธิปไตยปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไขแบบตรงจุด ต้องแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ผมหรือ ครม.เท่านั้น ทุกคนจะต้องช่วยกัน ไม่ใช่มาคอยจับจ้องว่าผมและรัฐบาลนี้เข้ามาแบบไหน อยากให้มองว่าผมเข้ามาแล้วทำงานอะไร ส่วนการเข้ามาที่ไม่ถูกต้องผมก็รู้อยู่แล้ว ขอร้องว่าอย่ารังเกียจผมเลย ให้กำลังใจเพื่อให้ผมมีกำลังใจ มีสติที่จะทำงานต่อไป ไม่เช่นนั้นทำอะไรก็แย่ไปหมด เพราะต้องคุ้ยทุกปัญหาออกมาซึ่งมีมากมาย ทั้งที่ประเทศไทยมีโอกาสมากกว่าหลายประเทศ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทุกคนซึ่งทราบดีว่าอะไรคืออุปสรรคทั้งด้านการเมือง และเศรษฐกิจ และคงไม่สามารถที่จะแก้ทุกปัญหาได้ภายในวันเดียว” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ขอร้องคนไทยอย่าใจร้อน ที่ผ่านมาตนไม่ได้ว่าดีหรือเลว และไม่โทษใคร แต่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมจึงปล่อยปละละเลย ตนเองก็มีส่วนอยู่ด้วยในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ตนเชื่อฟังรัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เท่ากับมีส่วนร่วมไม่แก้ไขปัญหา วันนี้อย่าใช้แค่ความรู้สึกในการตัดสินปัญหา ต้องทบทวนตัวเอง ถ้าตนไม่ดีก็ไม่ต้องมาชอบตน ไม่ได้มาทำงานเพื่อให้ทุกคนมาชอบ ยืนยันว่ามีความจริงใจกับทุกคน ในตัวตนไม่มีอะไร อาจมีปัญหาอยู่บ้างในการทำงานแต่เชื่อว่าจะสามารถแก้ได้ วันนี้ทุกคนมาพร้อมกันอยากถามว่า วันนี้กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิมนุษยชนมาหรือไม่ ขอร้องอย่าไปขยายความ แล้วมองว่าประเทศมีปัญหาทุกอย่าง การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องมีปัญหาบ้าง เพราะเส้นแบ่งระหว่างสิทธิมนุษยชนกับการทำผิดกฎหมายมันเส้นเดียวกัน ทุกคนจึงต้องทำตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม อย่ามามีข้ออ้างกับตน

“ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทำไมไม่ออกมาพูดกัน อย่าเอาอันนั้นมาอ้างอันนี้เหมือนหมาป่ากับลูกแกะ ในนิทานอีสป สุภาษิตคำสอน ศีลธรรม เบญจธรรม มีมาทั้งหมดแต่สงสัยว่าทำไมยังวุ่นวายอยู่ คงเพราะเราเป็นคนที่ยุ่งและวุ่นมากต่างคนต่างคิด ต่างความรู้สึก ต่างความต้องการ แต่รัฐบาลก็พยายามที่จะทำทุกอย่างทั้งเรื่องของกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม กระบวนการยุติธรรม เพื่อเปิดเวทีให้กว้างขึ้น เพื่อให้คนมีช่องทาง ได้รับสิทธิ์และการเข้าถึงในสิ่งต่างๆ อย่างเท่าเทียม แต่ทุกอย่างต้องโปร่งใส อย่างเรื่องการรักษาพยาบาลขณะนี้ขึ้นมา 3,091 บาทต่อหัว รัฐบาลไม่เคยคิดจะยกเลิก มีแต่หาทางเพิ่มให้ ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมมาตรการรองรับผู้สูงอายุ และที่วันนี้เราต้องขึ้นบัญชีต่างๆ กับประชาชน ไม่ใช่ไปดูถูกหรือล้วงความลับอะไร แต่ต้องการทราบข้อมูลเพื่อนำเงินที่มีอยู่ไปทำให้เกิดประโยชน์” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า จะนั่งรอนอนทำแบบเดิมๆ ไม่มีทางทำได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ถามคนไทย ถ้าสมมติว่าเรารวย แล้วคนอื่นจนหมด ใช้เงินแล้วมีความสุขไหม ไปไหนแล้วใครเขาชื่นชมไหม เขาสรรเสริญไหม ต้องแบ่งปันดูแลให้ความเป็นธรรมแก่เขา เก็บดอกเบี้ยร้อยละตามที่รัฐบาลกำหนด ตนขอร้องเจ้าหนี้ทั้งประเทศ รีบตั้งบริษัทเพราะเวลาจำกัด ไม่อย่างนั้นต้องไปตั้งบริษัทข้างใน 2 ปี ไปคิดเอา ส่วนตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ถ้าตัวเองเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ แล้วไปรับจ้างทวงหนี้อีก ลงโทษปลดทันที แจ้งมาเลยตนจะรับปฏิบัติ ต้องโปร่งใส ไม่ทุจริต

“ถ้าเราไม่ใช้กฎหมาย มันจะเดินไปไม่ได้ บางครั้งต้องใช้ประกาศ คสช.ซึ่งมีพวกที่ว่า ถ้าดีกับตัวเองก็บอกว่าดี ถ้าไม่ดีกับตัวเองก็บอกว่าไม่ดี สรุปจะให้ใช้แบบไหนไม่รู้เลย ถ้าจำเป็นผมก็ใช้ ถ้าไม่จำเป็นจะใช้ทำไม ให้คนมาว่าผมเหรอ แล้วผมทำเพื่ออะไร ถ้าไม่มีคำสั่งเหล่านี้จะทำได้ไหม มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี ก็ขอเถอะครับ ถ้าท่านไม่ชอบมาตรา 44 เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นมาตรา 45 มาบอกมาตรา 44 ให้ใช้ไม่ได้ เดี๋ยวจะร่างใหม่เป็นมาตรา 88 เลย เอาให้สองเท่าเลย ดูสิจะทำได้ไหม ถ้าเราไม่ร่วมมือกฎหมายก็ใช้ไม่ได้ทั้งสิ้น ที่ต้องใช้เพราะว่าไม่ปฏิบัติ ไม่เชื่อฟังกฎหมายปกติ ทุกพวกแหละ ไปหามาใครบ้าง ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันไม่ว่าสถานะใด วันนี้ถ้าเอาความขัดแย้งมาพูดกันก่อน วันหน้าจะเดินหน้าประเทศไม่ได้ เพราะปัญหาเรารออยู่เยอะ และถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเสนอมาได้ เราเป็นรัฐบาลที่ฟังประชาชน ถ้าไม่ฟังทุบโต๊ะทุกเรื่องไปแล้ว ผมฟังมากกว่าทุกรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมในภาคประชาชน ทั้งกองทุน เงินทุน และธนาคารชุมชนต้องเข้ามาเสริม ไม่ใช่อะไรก็ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินอย่างเดียว ถ้าธนาคารอื่นสามารถช่วยได้ก็ควรเข้ามาช่วย ตอนนี้ประชาชนกำลังมีปัญหาอยากขอให้ธนาคารพาณิชย์อื่นๆ คิดดูว่าหากท่านช่วยก็ถือเป็นกุศลแก่ท่านและองค์กรของท่านที่ทำให้คนที่ลำบากชีวิตดีขึ้น ซึ่งไม่ต้องถึงขั้นขาดทุนก็ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่าตนให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะถือเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันบรรเทาความเดือดร้อนและเข้ามาให้ความรู้แก่ประชาชน รวมถึงช่วยเรื่องกองทุนหมู่บ้านและสหกรณ์ต่างๆ รัฐบาลพร้อมรับฟังเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบใครเป็นเจ้าหนี้ที่ไม่ทำตามกฎหมาย ใครไปตามทวงหนี้ขอให้ส่งคำร้องมาที่ทำเนียบรัฐบาลทันที เราจะดำเนินการให้ เราจะต้องแก้ปัญหาเรื่องหนี้ให้ได้โดยเร็ว ขอให้ทุกคนช่วยตนแก้ไขด้วย อย่าโยนมาให้ตนอย่างเดียว ก็ตายกันพอดี และขอให้ทุกคนช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและลดความเหลื่อมล้ำในประชาชนให้ได้ รวมถึงต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนพร้อมทั้งเคารพกฎหมายของประเทศ บ้านเมืองของเราจะไม่วุ่นวายอีกต่อไป เราจะได้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง ไม่ใช่ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ถ้าไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้แน่นอน

“วันนี้ต้องใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งนำมาใช้ดำรงชีวิตได้ ขอให้ทุกคนใคร่ควรการใช้ศีลธรรม คุณธรรมในการดำรงชีวิตต่อไป และน้อมนำเอาศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นแนวทางใช้ชีวิตด้วย เราต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ถึงเราจะจนแต่ต้องไม่คดโกงใคร จะทำผิดหรือถูกเรารู้อยู่แก่ใจ ไม่ต้องให้ใครเขามาว่า ให้รู้สึกว่านอนแล้วมีความสุข อย่าให้คนนั่งแช่งหรือด่าทุกวัน นอนก็ไม่มีความสุขเหมือนผมที่กำลังโดนอยู่ แต่ผมไม่กลัวอยู่แล้วเพราะผมทำให้คนดีส่วนคนไม่ดีจะแช่งผมก็ช่างเขา ก็กลับไปหาตัวเองทางพระบอกเอาไว้ว่าอย่าไปสาปแช่งใคร ใครว่าเราก็ย้อนกลับที่เขานั่นแหละ ส่วนใครที่ว่าผมก็เปลี่ยนใจได้นะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว