อนุ กมธ.ศึกษาปรองดอง เชิญ “บิ๊กบัง” ถกลับ แนะต้องอาศัยความเป็นกลางของคน

อนุ กมธ.ศึกษาปรองดอง เชิญ “บิ๊กบัง” และตัวแทนสถาบันพระปกเกล้า แลกเปลี่ยนความเห็น ถกลับห้ามสื่อทำข่าว อดีตหัวหน้า คมช.ชี้ปรองดองต้องอาศัยความเป็นกลางของคนเป็นสำคัญ

วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา รวบรวมความเห็น วิเคราะห์และสังเคราะห์ประเด็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการสร้างความปรองดองทางการเมือง ในคณะ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ที่มีนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นประธานการประชุม ได้เชิญ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ และนายวุฒิสาร ตันไชย ในฐานะประธานคณะผู้วิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สถาบันพระปกเกล้า เข้ามาแลกเปลี่ยนความเห็น ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางสร้างความปรองดอง ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสังศิตกล่าวว่า แม้สถานการณ์ความขัดแย้งวันนี้เปลี่ยนไป ที่เชิญผู้มีประสบการณ์มาเพราะต้องเคารพ ให้เกียรติผู้ที่เคยศึกษารายงานการสร้างความปรองดองมาก่อน เชื่อว่า ข้อเสนอแนะมีประโยชน์ต่อการทำงานของอนุกมธ.ฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าอินเสิร์ตภาพในช่วงต้นเท่านั้น แต่พอถึงคิว พล.อ.สนธิให้ความเห็น เจ้าหน้าที่ได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุมทันที

พล.อ.สนธิกล่าวก่อนการประชุมว่า ในห้วงเวลาที่ทำงานเรื่องนี้ที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเป็นช่วงที่ความขัดแย้งทางการเมืองยังสูงอยู่ “ต้นเหตุที่ทำให้ผมเริ่มงานปรองดองสมัยนั้นคือครั้งได้รับเชิญจาก พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ผมไปงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พบว่าสังคมสมัยนั้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ รับได้กับการโกง และปัญหาคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ จนบางทีมันน่าเศร้าใจ ผมจึงเริ่มทำโดยผมแบกรับความอึดอัดมาก ในสถานการณ์ตอนนั้นที่ขัดแย้งยังหนัก ที่มาวันนี้เพราะนายนิกร จำนง สปท.ในฐานะอนุ กมธ.มีความจริงใจและประสานมา เท่าที่ได้คุย นายนิกรรู้จริง มีความตั้งใจสูง และเป็นกลาง ผมจึงมา เพราะความปรองดองต้องอาศัยความเป็นกลางของคนเป็นสำคัญ” พล.อ.สนธิกล่าว