xs
xsm
sm
md
lg

เดิมพันสุดท้าย “พี่ป้อม” ปั่นงานเซฟเก้าอี้ ถ้าเหลวก็จบเห่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ

                                      
ใครสังเกตก็จะเห็นมีหลายๆ อย่างของ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เปลี่ยนไปเยอะนับตั้งแต่เกิดกระแสข่าวลืออย่างหนาหูในช่วงของการปรับคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า เจ้าตัวถอดใจขอถอนตัวจากวังวนอำนาจ แต่ท้ายที่สุดก็ยังอยู่หยั่งยืนยงในตำแหน่งเดิมครบถ้วน ทั้งรองนายกรัฐมนตรี หรือรมว.กลาโหม

เริ่มตั้งแต่อากัปกิริยาที่เปลี่ยนแปลงไป จากคนที่เคยให้สัมภาษณ์แบบกระโชกฮากฮาก จิก จัด เหน็บแนม เรื่อยไปจนตะคอก แต่มาเดี๋ยวนี้แทบจะไม่เคยได้เห็นลีลาท่าทางกันให้สัมภาษณ์สไตล์นั้นอีกเลย “บิ๊กป้อม” กลายเป็นคนที่สุขุม ให้สัมภาษณ์แบบเรียบเฉย แม้บางคำถามจะถูกจี้อย่างหนักก็ตาม ซึ่งหากเป็นแต่ก่อนคนถามอาจโดนสวนกลับแบบเจ็บๆ แรงๆ ไปแล้ว แต่ทุกวันนี้มันหายไปหมด ราวกับเป็นคนละคนกัน

ถ้าจำกันได้ ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น “บิ๊กป้อม” ว้ากใส่นักข่าวแรงๆ คือ วันที่กระแสข่าวลือหนาหูหนักมากว่า เจ้าตัวจะไม่มีเก้าอี้รองก้น จนเจ้าตัวต้องออกมาสยบข่าวลือ หลังเก็บเนื้อเก็บตัวเงียบหายไปนาน แต่หลังจากวันนั้นกลับกลายเป็น “นิวบิ๊กป้อม” ไปโดยปริยาย แม้จะมีบ้างที่เหมือนจะตอบคำถามแบบมีอารมณ์ ทว่าก็สังเกตเห็นได้ชัดว่า เป็นการเก็บอารมณ์ให้สุขุมที่สุด

 ซึ่งมันดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย!

นอกจากอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไป เรื่องงานที่ “บิ๊กป้อม” ได้รับมอบหมายก็น่าสนใจ นับตั้งแต่มีข่าวลือเรื่องเจ้าตัวจะกระเด็กตกเก้าอี้เบอร์สองในรัฐบาลของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ตั้งแต่การสร้างเซอร์ไพร์สของ “บิ๊กตู่” ที่มอบภารกิจที่แทบว่าจะสำคัญที่สุดของการเข้ามายึดอำนาจจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั่นคือ การสร้างความปรอดองของคนในชาติ ที่ขัดแย้งสะสมกันมาเป็นสิบๆ ปี เป็นงานประเภทที่ใครแน่มาจากไหนก็ต้องจอดทุกราย ให้กับ “บิ๊กป้อม” ทำ

ทั้งๆ ที่ในแง่ความเชื่อถือของสังคม บทบาทนี้มันควรจะเป็นของนายกรัฐมนตรีอย่าง “บิ๊กตู่” มากกว่า แต่ก็เลือกที่จะให้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์รับผิดชอบ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า แม้ “บิ๊กป้อม” จะเป็นผู้มากคอนเนกชั่นทุกวงการ เข้าได้ทุกซีกการเมือง หรือแม้แต่กลุ่มนายทุน การเป็นตัวกลางก็ดูจะเหมาะกับคนและเนื้องาน

ทว่าคุณสมบัติของ “บิ๊กป้อม” ที่มี มันเหมาะกับการพูดคุยหลังฉากแบบลับๆ ที่อาจจะมีการตกลงอะไรกันแบบวิน - วิน โดยปราศจากกฎหมาย แต่การเอามาอยู่เบื้องหน้า ภาพลักษณ์อย่างไรก็ต้องยอมรับว่า “บิ๊กตู่” ดูจะเหลื่อมๆ กว่าเยอะพอสมควร

หากแต่มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ที่มอบหมายงานนี้ให้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์รับผิดชอบหน้างานด้วย ตามที่มีเสียงกระซิบกระซาบกันยังไม่หยุดว่า แม้เมื่อครั้งที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” จะยังเกาะเก้าอี้แน่นหนา ไม่ได้โดนลดบทบาท แต่ทุกวันนี้ขาเก้าอี้ก็ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดี 

หรือจะเรียกง่ายๆ ก็คือ ยังไม่พ้นขีดอันตราย!

เพียงแต่รูปแบบการจากลาอาจไม่ใช่ถูกปรับออก แต่อาจจะเป็นพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ที่เลือกไขก๊อกเอง โดยอ้างปัญหาสุขภาพ เพื่อให้การลงจากรันเวย์นุ่มนวลและเนียนตาที่สุด ไม่ให้เป็นประเด็นว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น

เมื่ออยู่ในภาวะเสี่ยง การมอบหมายให้ทำงานสำคัญอย่างเรื่องปรองดองมาขจัดความขัดแย้งที่หยั่งรากฝังลึกมานานในสังคมไทย แล้วไม่เคยมีใครทำได้ จึงเป็นเหมือนการ “ค้ำยัน” ให้เก้าอี้ของ “บิ๊กป้อม” ยังคงอยู่ต่อไป

ดังจะเห็นได้ว่า “บิ๊กป้อม” ตั้งอกตั้งใจทำงานนี้อย่างมาก ไม่ได้ทำแบบขอไปทีเหมือนที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” มีการจัดทำโครงสร้างอย่างเป็นกิจจะลักษณะ มีกฎหมายรองรับทุกอย่าง เพื่อให้พิธีกรรมสร้างความปรองดองครั้งนี้ศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือที่สุด ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วปล่อยร้าง

“บิ๊กป้อม” เองเดินงานจริงจัง โดยเฉพาะข่าวลือที่ว่ามีการ “ดีล” กันลับๆ หลังม่านไปแล้ว ระหว่างทีมงานเจ้าตัว กับพรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง ดังปฏิกิริยาที่ออกมาแบบแปลกๆ ในช่วงนี้

 ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ผีเข้า ออกมาสนับสนุนแนวทางปรองดองของรัฐบาลเสียอย่างงั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ค้านทุกเรื่องแบบไม่ลืมหูลืมตาเสียด้วยซ้ำ กลับกันกลายเป็นกลุ่มกปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งมันก็เป็นท่าที่ผิดธรรมชาติ ราวกับว่า “กำนันเทือก” ไปรับรู้ “ดีล” อะไรบางอย่างที่ตัวเองรับไม่ได้

แต่ที่แน่ๆ “บิ๊กป้อม” จะเดินต่อเพื่อเอาให้สำเร็จ!

นอกจากภารกิจกวาดต้อนนักการเมืองมาปรองดองที่ “บิ๊กป้อม” ต้องการนำมาเป็นผลงานชิ้นโบแดงเพื่อต่อขาเก้าอี้ให้แข็งแรงขึ้น งานอื่นๆ ที่เป็นบิ๊กโปรเจกต์ที่สังคมอยากเห็น เจ้าตัวก็กระโดดลงมารับแบบขะมักเขม้น อย่างเรื่อง “ธัมมชโย” เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

“บิ๊กป้อม” เรียก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เข้าพบทันทีภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จเพื่อวางมาตรการในคดีดังกล่าว

ทั้งที่ก่อนหน้า “บิ๊กป้อม” แทบไม่เคยอยากเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีแต่โยนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ในสมัยที่ยังทำหน้าที่รมว.ยุติธรรมอยู่ แต่งานนี้กลายเป็นพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ที่ลงมากำกับเอง

แล้วดูจะตั้งอกตั้งใจอีกงานหนึ่งเสียด้วย ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ “ธัมมชโย” ออกมามอบตัว หรือ ถ้าไม่มาเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวมาให้ได้ โดยให้ดีเอสไอเป็นเจ้าภาพหลัก อย่างน้อยๆ ก็ให้รู้ว่า ทุกวันนี้ยังอยู่หรือไม่อยู่ เพื่อให้สังคมหมดสิ้นข้อสงสัยต่อไปว่า ตกลงรัฐเอาจริงหรือไม่

ซึ่งคดีนี้มีสัญญาณชัดมาสักระยะแล้วว่า คดีพระธรรมกายต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และสังคมเองก็อยากเห็นรัฐทำอะไรสักอย่างให้จริงจัง ดังนั้น ถ้าทำสำเร็จเสียงปรบมือก็จะมีไม่น้อยทีเดียว และคนที่ได้ก็คือ ตัว “บิ๊กป้อม” เอง

สิ่งเหล่านี้จะทำให้เวลาของเจ้าตัวยาวขึ้นไปอีก!

 น่าสนใจอย่างมากว่า หลังจากนี้ “น้องตู่” จะหางานสำคัญๆ อะไรมาให้ “พี่ป้อม” ทำอีก เพื่อทำให้ในคณะรัฐมนตรี และคสช. ยังมีพี่น้อง “3ป.” อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น