เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผย “ประวิตร” กำชับที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขับเคลื่อนแผนงานให้เป็นรูปธรรม เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมแห่งชาติ ปี 60-64 รับมือภัยธรรมชาติ การสู้รบ และผลกระทบต่อความมั่นคง ชง สมช.ต่อ ระบุพม่าพร้อมช่วยน้ำท่วมใต้ ชมมีน้ำใจ ดูอยู่ให้ช่วยหรือไม่ จ่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัยในชายแดนใต้
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมมีการชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการด้านความมั่นคงด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนา การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และร่าง พ.ร.บ.ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมถึงแผนผนึกกำลังป้องกันประเทศ
เลขาธิการ สมช.กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำการขับเคลื่อนแผนงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมแห่งชาติ ปี 2560-2564 ที่ สมช.ร่วมจัดทำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ ภัยจากการสู้รบ และภัยที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง หลังจากนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ สมช.ต่อไป
พล.อ.ทวีปกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมได้รายงานต่อที่ประชุมว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ได้แจ้งความประสงค์ว่าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ของประเทศไทย การแจ้งความประสงค์เช่นนี้ถือว่าเป็นการแสดงความมีน้ำใจของประเทศเพื่อนบ้าน เราจะต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าเราจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ทั้งนี้ ทางพม่าได้ประสานมาทางกองทัพ ไม่ได้ผ่านทางการทูตหรือทางกระทรวงการต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีการประสานกันทางด้านกองทัพอยู่แล้ว เพราะความสัมพันธ์ด้านกองทัพของสองประเทศถือว่าดีมาก
พล.อ.ทวีปให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า ขณะนี้มีการพูดคุยถึงการเตรียมการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้แนวทางว่าพื้นที่ปลอดภัยไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ทั้งตำบลหรืออำเภอ อาจจะเป็นเพียงสถานที่ก็ได้ เช่น พื้นที่โรงเรียนต้องปลอดภัย นักเรียนหรือครูเดินทางไปโรงเรียนต้องปลอดภัย ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่เซฟตี้โซนที่มีการพูดไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนการพูดคุยครั้งต่อไปอยู่ระหว่างการรอกำหนดที่คณะเทคนิคจะประสานงานไปยังประเทศมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเพื่อนัดหมายกันอีกครั้งหนึ่ง