xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ไซเบอร์ ทบ.ยันร่าง กม.คอมพ์ ไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ
ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์ กองทัพบก ระบุ ร่าง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฉบับนี้ ปรับปรุงจากกม. เดิมให้ทันสมัย เหมาะกับสถานการณ์ พฤติกรรมผู้ใช้โซเชียล ยันเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชน ไม่ได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใคร ตามที่มีการบิดเบือน ที่สำคัญ ไม่เกี่ยวโยงกับซิงเกิล เกตเวย์ แนะควรอ่านกฎหมายให้ครบ

พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์ กองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มพยายามสร้างกระแสบิดเบือนข้อกฎหมาย จนทำให้ประชาชนตื่นตระหนกต่อร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ควรนำมาโยงในเรื่อง Single Gateway (ซิงเกิล เกตเวย์) เพราะเป็นไปไม่ได้ ทั้งด้านเทคนิค และการปฏิบัติแบบรวมศูนย์ รัฐบาลไม่เอาด้วยอยู่แล้ว เพราะกระทบความเชื่อมั่น และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบดิจิทัล

พล.ต.ฤทธี กล่าวว่า พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์) ฉบับใหม่ที่ทางสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังจะพิจารณาอยู่นี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน มากกว่า เพราะเป็นการปรับปรุง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาจากปี 2550 ให้ทันสมัยขึ้น ทันต่อโลกในปัจจุบัน และมีความเหมาะสมตามสถานการณ์ สภาพแวดล้อมของสังคม โดยเฉพาะพฤติกรรมบุคคลที่ใช้เทคโนโลยี่ โซเชียล รวมถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับปรับปรุงนี้เป็นการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด ทั้งด้าน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และ กฎหมายอาญาอื่นๆ ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ์ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคุกคามสิทธิ์ส่วนบุคคลในโลกไซเบอร์ตามที่มีคนบางกลุ่มพยายามสร้างกระแสบิดเบือน เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อและคัดค้าน ตรงกันข้าม พ.ร.บ. ดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ด้านการคุ้มครอง และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไป และผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเป็นมาตรการทางกฎหมาย เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบดิจิทัลของประเทศเราด้วย

“ประชาชนทุกท่านควรอ่านข้อกฎหมายให้ครบถ้วน และไม่ควรหลงเชื่อกระแสบิดเบือนข้อมูล จนทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นเวลาที่คนไทยทั้งชาติอยู่ในความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งต้องการความรัก สามัคคี และกำลังใจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลับคืนมาโดยเร็ว และขอวิงวอนกลุ่มบุคคลที่สร้างกระแสและสื่อต่างๆ ควรหยุดสร้างกระแสปลุกปั่นยุโยงให้เกิดความเข้าใจผิด และความแตกแยกในสังคมจากการบิดเบือนข้อมูลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน”
กำลังโหลดความคิดเห็น