xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโด่ง” ประชุม คปต.ส่วนหน้าแก้ใต้นัดแรก แบ่งงานรับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อุดมเดช” ประชุม คปต.ส่วนหน้า แก้ปัญหาภาคใต้นัดแรก แบ่งงานความรับผิดชอบ เชื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ เผยโครงการที่อยากจะทำให้ชัดเจนปี 59-60 คือเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามนโยบายนายกฯ

ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (6 ต.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะผู้แทนพิเศษของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.ส่วนหน้า) เปิดเผยก่อนการประชุมครั้งแรกว่า เป็นการพูดคุยทำความเข้าในงานที่ได้รับจากรัฐบาล โดยยึดถือกลุ่มงานที่ คปต.วางไว้ใน 7 กลุ่มงาน โดยวันนี้จะมีความชัดเจนว่าทั้ง 13 คนจะได้รับมอบหมายงานแต่ละด้านอย่างไร

นอกจากนั้นยังมาคุยถึงระบบการทำงาน การรายงาน การปฏิบัติ แนวทางการประสานงานการให้คำแนะนำ โดยการส่งข้อมูลหรือปัญหาไปยังระดับนโยบาย ตนสามารถรายงานตรงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คปต. ได้โดยตรงเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า คปต.ส่วนหน้าจะมีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นเลขานุการ คปต.มาดูแลให้ด้วย สำหรับส่วนอำนวยการจะมีทั้งนายทหาร และภาคเอกชน แต่ไม่อยากให้มีจำนวนคนมากเกินไปจนพะรุงพะรัง มีเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสมตามความจำเป็น สำหรับเลขานุการคณะทำงานชุดนี้ได้มอบหมายให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นเลขานุการ

“คำสั่งนี้ไม่ได้ให้อำนาจในการบังคับบัญชา ไม่ได้ไปสั่งการ คณะทำงานจึงทำหน้าที่ประสานงาน เน้นการบูรณาการงาน เชื่อมต่องานในระดับรัฐบาล หน่วยงานในส่วนกลาง คือกระทรวงต่างๆ รวมถึงส่วนปฏิบัติงาน เป็นการเปิดช่องในส่วนที่ติดขัด หรือช่องที่แยกห่างกันก็จับมาชนกันเสียให้งานเดินได้ ผมเชื่อแน่ว่ากรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งทุกคนตั้งใจและพยายามทำอย่างดีที่สุด อย่างน้อยแผนงานตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำ 2560 ก็จะทำให้งานลุล่วง เพื่อให้พื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบมากขึ้นเท่าที่จะทำได้ในปีต่อไป”

พล.อ.อุดมเดชกล่าวด้วยว่า คณะทำงานพิเศษฯ จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ โดยมีบางส่วนที่อยู่ประจำ ในภาพรวมมีการแบ่งงานแต่ละกระทรวงที่กำกับดูแลรับผิดชอบแยกกันชัดเจน เมื่อแต่ละคนลงไป จะทราบว่าปัญหาติดขัดที่ใดก็จะมาพบกับเจ้ากระทรวงหรือผู้ที่ได้รับผิดชอบ จะทำให้ทุกอย่างคล่องตัว ประชุมวันนี้แล้วจะทิ้งเวลาไว้สักพักหนึ่งซึ่งไม่นานนัก จากนั้นจะมาจัดลำดับว่าควรจะเน้นย้ำอะไร โดยทั้ง 7 กลุ่มงานมีกระทรวงและสำนักที่รับผิดชอบอยู่ งานจะมีจำนวนมากก็ต้องไปจับประเด็น โดยแนวทางที่จะเดินไปก็ต้องดูนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีด้วย เช่นโครงการที่อยากจะทำให้ชัดเจน และเกิดผลโดยเร็วในปี 2559-2560 คือ เมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นต้น โดยข้อมูลต่างๆ คงมีการรายงานทุกสัปดาห์ แต่จะมีการประเมินทุกห้วงเดือน ไตรมาส 6 เดือน และ 1 ปี จะมีการสร้างตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มงานด้วย

ประธาน คปต.ส่วนหน้ากล่าวอีกว่า โดยสำนักงานจะอยู่ในค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย หรือกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี ซึ่งมีพื้นที่รองรับอยู่แล้ว จะได้ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้ไปจัดหรือสร้างอะไรเพิ่มเติมมากมาย ทั้งนี้ สำนักงานไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่จะดูที่การปฏิบัติงานเป็นหลัก ส่วนการทำงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต.ก็จะทำกันไป โดยคณะทำงานนี้จะไปกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น อะไรที่ทำดีอยู่แล้วก็คงจะสนับสนุนผลักดันไป อะไรที่เห็นว่าช้าก็จะเข้าไปดูแลและพูดคุยเพื่อแก้ไขให้ไหลลื่น ทั้งนี้ จะทุ่มเทการปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะทำงานพิเศษชุดนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนทำงานในพื้นที่เกียร์ว่างหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เป็นเรื่องการขับเคลื่อนมากกว่า คงไม่มีเรื่องเกียร์ว่าง อาจจะมีบางเรื่องติดขัด ทำให้งานบางอย่างล่าช้า อย่างไรก็ตามจะพยายามทำให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนให้กำลังใจกัน บางท่านบอกว่าทำไมมาให้คนเกษียณอายุราชการมาทำงาน แล้วจะมีผลสำเร็จหรือไม่ ซึ่งความจริงคนที่เกษียณมีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ แม้มากกว่าครึ่งจะมียศทหารแต่บุคคลเหล่านั้นล้วนมีประสบการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ผ่านหน้าที่ มทภ.4 ซึ่งทำหน้าที่ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามาแล้ว ล้วนได้รับมอบหมายให้ดูแลภาพรวมการแก้ไขปัญหา ซึ่งความเป็นทหารมีความเข้าใจในทุกงานเป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า คุยกับ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 สน.หรือยัง พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนและแม่ทัพภาคที่ 4 มีความคุ้นเคยกันดี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ตนเป็นคนนำท่านให้ลงไปรับงานข่าวในพื้นที่ด้วยความเห็นชอบของผู้บังคับบัญชาด้วย ก็ไม่มีปัญหากัน ขณะนี้ท่านก็ดูแลพื้นที่อยู่ ก็คงปฏิบัติบัติและเร่งรัดงานของท่านปกติ และเราก็จะพูดคุยกันต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น