xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ลั่นถูกด่ายิ่งมีกำลังใจ จี้รัฐวิสาหกิจปรับตัวให้สอบได้ ติงสาวอาบน้ำกลางถนน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ปาฐกถาบอกยิ่งถูกด่ายิ่งมีกำลังใจ เผยเปิดเว็บเจอ ขรก.ถูก ม.44 สอบโพสต์แช่ง ย้อนไม่กลัวทำตาม กม. ปัดล้วงลูกทำร้ายใคร จี้รัฐวิสาหกิจปรับตัวรับสถานการณ์ เปิดข้อมูลตรวจสอบได้ ยัน รบ.ไม่ใจร้าย แต่ค้านแจกเงินแก้ปัญหาหวังได้ใจ ลั่นไม่โชว์โง่เข็นนโยบาย 4.0 ปรามสาวอาบน้ำกลางถนนเรื่องไปถึง UN เลิกทำอาย ตปท. พ้อใช้ ม.44 สั่งหยุดน้ำท่วมไม่ได้ รับกลับจากสหรัฐฯ เวียนหัวแต่ยันไม่บ้า

วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ ว่าจากการทำงานร่วมกันมา 2 ปี ความคิดบางอย่างอาจแตกต่างกัน แต่เชื่อมั่นว่าวันนี้ทุกคนต้องกลับมามองประเทศไทยว่าจะต้องยืนอยู่ตรงไหนของประชาคมโลก และขอให้เชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องใดๆ ทุกอย่างทำเพื่อประเทศไทย และคิดว่าทุกคนรักประเทศไทยเช่นเดียวกับตน ขอให้ช่วยกันทำในสิ่งที่ดี เกิดความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศให้เร็วที่สุดตามนโยบายที่มีอยู่

“ขอให้ทุกคนอย่าเครียดในการทำงาน ผิดกับผมซึ่งเครียดทุกวัน เมื่อสักครู่นั่งรถมาก็มีเรื่องให้เครียด เพราะมีงานเข้ามาทั้งวัน หลายคนบอกให้ผมใจเย็นๆ อย่าไปรับมาทุกเรื่อง แต่ทำอย่างไรได้เพราะลงมาที่ผมทุกเรื่อง กลับไปกลับมาด่าใครไม่ได้ก็ด่านายกฯ ก่อน แต่ไม่เป็นไรผมรับได้ ยิ่งด่ายิ่งมีกำลังใจ การทำอะไรต้องเริ่มจากใจตัวเอง ต้องปฏิรูปตัวเองก่อนถึงจะปฏิรูปประเทศได้ ผมไม่ได้ว่าที่ผ่านมาดีหรือไม่ดี แต่วันนี้ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะปฎิรูปไปทำไม ประเทศชาติจำเป็นต้องฟื้นฟูในทุกด้าน รัฐวิสาหกิจก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะปฏิรูปให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในการพัฒนาประเทศ การลงทุนและธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพเข้มแข็ง มีคุณธรรมและธรรมาภิบาล ซึ่งพูดกันมานานตั้งแต่ผมยังเด็ก ทั้งเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ถ้าทุกคนรู้ว่าสิ่งดีควรทำสิ่งไม่ดีก็ไม่ควรทำ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ถือว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมแล้ว ก็จะทำให้องค์กรไม่เดือดร้อน เป็นองค์กรที่มีจริยธรรม จากนั้นก็จะขึ้นไปสู่การบริหารราชการที่มีธรรมาภิบาล สิ่งสำคัญต้องเสียสละและอดทน ต้องคำนึงถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และไม่ได้มุ่งหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การบริหารบ้านเมืองให้มีธรรมาภิบาลเกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือสร้างสังคมที่มีคุณธรรม สร้างองค์กรให้มีจริยธรรมและธรรมาภิบาลในการทำงาน ตนขอเวลาอีก 1 ปีตามโรดแมปที่วางไว้ ทำให้สังคมและประชาชนเดินไปด้วยกันได้ ไม่ใช่แบ่งเป็นสองข้างเสมอ เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ส่วนที่ไม่เห็นด้วยมีไม่มากนัก แต่ตนห่วงส่วนที่อยู่ตรงกลางซึ่งไม่รู้จะไปทางไหน เทไปเทมา ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์หากไหลไปรวมกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็ทำงานไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เปิดเผยโปร่งใส ต้องไม่ไปรวมหัวกันกระทำการทุจริต หรือทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องสร้างให้สังคมมีความเชื่อมั่น

“ผมเปิดเว็บฯ ดู ไปเจอข้อความซึ่งเป็นคนที่ถูกสอบสวนโดยกระบวนการทางกฎหมายเขียนไว้ บอกว่าตอนนี้เกษียณอายุราชการแล้ว ขอบคุณนายกฯ และหัวหน้า คสช. จำไว้แล้วกันระวังดาบนั้นคืนสนอง ผมก็คิดว่าผมผิดตรงไหนในเมื่อตัวเองมีความผิด กฎหมายก็ดำเนินการไปแล้ว แล้วจะมาบอกว่าผมไปทำร้ายเขา ผมบอกตรงๆ ผมไม่เคยคิดทำร้ายคนเลย ผมเป็นทหารเกือบ 40 ปี ไม่เคยคิดอยากฆ่าใครสักคน ที่ใช้อาวุธก็ต่อสู้กับอริราชศัตรู ไม่รู้จักกันและไม่รู้ว่าที่ยิงไปตายหรือเปล่า ถือเป็นสิ่งสำคัญต้องดูที่เจตนา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ขอให้ทุกคนทำงานเชิงรุก ถ้าตั้งรับแบบเดิมไม่ได้แล้ว เราต้องป้องกันตัวเองก่อนที่จะทำงานทุกงาน ไม่เช่นนั้นก็จะติดขัดถ้าดันทุรังทำวันข้างหน้าก็ถูกฟ้องกลับมา จึงอยากจะเตือนไว้ก่อน กฎหมายก็คือกฎหมาย หน้าที่ของตนต้องทำกฎหมายให้บังคับใช้ให้ได้ และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนไม่เคยไปตั้งข้อกล่าวหาขึ้นมาเอง หรือไปล้วงลูกใคร ทุกอย่างมีการเสนอเข้ามาแม้แต่การใช้มาตรา44 เพื่อดำเนินการสอบสวนก็มีผู้เสนอขึ้นมาผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วจะให้ตนทำอย่างไรในเมื่อมีรายชื่อขึ้นมา ไม่ทำก็ไม่ได้ เมื่อมีการเสนอขึ้นมาตามขั้นตอนก็ต้องอนุมัติตามหลักฐานที่มี แต่ถ้าไม่มีหลักฐานแล้วเสนอขึ้นมาก็ต้องไปเล่นงานคนที่เสนอ ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ คนเดียว ถ้าไม่ร่วมมือกันก็ขับเคลื่อนไม่ได้

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ตนเข้ามาทำงานเพราะหลายอย่างติดขัด เราจะต้องไม่ลืมกฎหมายหลักและกฎหมายเดิม ไม่ใช่จู่ๆ จะไปยกเลิกอย่างเรื่องของเศรษฐกิจเราโชคดีที่มีฝ่ายบริหารที่มีความรู้ความสามารถ แต่ทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายรวมทั้งรัฐวิสาหกิจที่เป็ตัวหลักสำคัญ วันนี้เราประเมินเศรษฐกิจว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3 ขึ้นไป มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนมีส่วนที่จะช่วยทำให้จีดีพีของเราขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ต้องคิดเสมอว่าเราทำงานเพื่อคน 70 ล้านคน ไม่ใช่แค่องค์กรเพียงอย่างเดียว

“รัฐบาลไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวว่าจะต้องดูแลเฉพาะคนกลุ่มนี้ ไม่มีนโยบายที่จะต้องหาเงินมาส่งให้กับรัฐบาล ถ้ามีให้มาบอกผม อย่าให้ใครมาอ้าง ผมไม่เคยพูดเรื่องผลประโยชน์กับใคร แต่ถ้าใครมีส่วนเกี่ยวข้องต้องว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องบ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพประเทศก็จะเดินหน้าไปได้ แต่มีหลายคนระบุว่า การเข้ามาของผมเหมือนเป็นการบังคับ มีการใช้อำนาจทางปกครองในเชิงบังคับ ผมไปบังคับให้ทุกคนอยากมีความสุข หรือไปบังคับให้บ้านเมืองสงบ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ใจของคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้บทบาทรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 55 แห่ง ต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ การแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่เช่นนั้นจะลงทุนอะไรกันไม่ได้ บางโครงการมีนโยบายตั้งแต่ราวปี 2540 เพิ่งจะมาทำได้ไม่นานนี้ อย่างรถเมล์ ประมูลมากี่ครั้งก็ล้มหมด ประชาชนเขารำคาญ ส่วนรถไฟ เดี๋ยวเช่าเดี๋ยวซื้อ จะเอาอะไรก็เอาสักอย่างให้ถูกต้องและเร็วขึ้น ซึ่งตนได้สั่งการและมอบนโยบาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หารือรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องไปแล้ว เพราะการบริการสาธารณะถือเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมกันนี้ต้องทำให้ทรัพย์สินเหล่านั้นมีมูลค่าเพิ่ม ถ้าติดกฎหมายก็ต้องพิจารณาแก้ให้ทันสมัย ดังนั้นต้องทบทวนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ทรัพย์สินของประเทศสามารถบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล และวิสาหกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคตให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ลดภาระการเงินการคลังของประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าการลุงทุนในประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลา 2 ปี หากปล่อยไว้ไม่ร่วมมือจะล้มละลายทั้งประเทศ ตัวเลขหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเป็นหนี้ที่ไม่มีมูลค่า แล้วใช้นโยบายช่วยเหลือบรรเทา ตรงนี้ได้ใจได้ความรู้สึก แต่ตนไม่คิดอย่างนั้น หลายคนอาจมองว่ารัฐบาลนี้ใจร้าย ยืนยันไม่เคยใจร้าย แต่ต้องรู้จักใช้งบประมาณให้คุ้มค่า

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนโยบายประเทศ 4.0 ที่ได้พูดปากจะฉีกถึงหู แต่หลายคนยังถามว่าคืออะไร คือเขาไม่เชื่อมั่นว่าตนจะรู้เรื่องหรือเปล่าทำนองนั้น ทั้งนี้ตนได้ปรึกษาผู้รู้ รับทราบซึมซับมา บวกกับอ่านหนังสือ การสามารถประมวลเองได้ เพราะไม่ได้โง่ อยากถามว่าวันนี้ดีกว่าเดิมไหม ในการที่ตนเป็นทหารมายืนตรงนี้ ขออย่าเทียบกันไปมา ให้ดูที่ผลงาน อย่าใช้ความรู้สึก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลของรัฐวิสาหกิจให้มีกลไกตรวจสอบ ถ่วงดุลอำนาจ และหว่างผู้เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาชอบคิดอะไรคนเดียว ออกคนเดียว ขณะที่รัฐบาลสั่งการใช้กฎหมายก็ทำให้ขัดแย้งอยู่ร่ำไป ฉะนั้นอยู่ที่การชี้แจง และวันนี้ได้ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯไปชี้แจงเพิ่มเติม ให้คนเข้าใจเรื่องน้ำท่วมไม่ท่วมต้องตอบให้ชัดเจน สินค้าการเกษตรวันนี้ต้องควบคุมทั้งหมด ไม้เช่นนั้นธกส. ธนาคารออมสินก็เดือดร้อนอีก วันนี้ตนก็หนักใจในการดูแลข้าราชการ ที่บางคนไม่มีส่วนแต่อยู่ในกระบวนการทำงาน จึงต้องมีการตรวจสอบไปด้วย

นายกฯ กล่าวถึงกรณี น.ส.อธิชา กุศลตระกูลพัฒน์ อายุ 22 ปี เด็กสาวชาวกะเหรี่ยงที่โพสต์รูปอาบน้ำกลางถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อที่บ้านตีนธาตุ อ.แม่ระมาด จ.ตาก เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาว่า ภาพผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนนภาพนั้นไปถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้ว หลายประเทศนำเอาไปเป็นแบบอย่าง แล้วบอกว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดีกว่านี้ อายเขาไหม ประชาชนเข้าใจกันหรือไม่ว่าถนนเส้นนั้นเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใคร เป็นของท้องถิ่น เอาเงินมาจากไหน ก็เอาเงินมาจากภาษีของตัวเอง แล้วทำกันได้ไหม บางอย่างทำได้ บางอย่างทำไม่ได้ บางที่ทำดี บางที่ทำไม่ดี เขาต้องปรับปรุงตัวเอง ทุกภาคส่วนต้องพัฒนา รวมถึงรัฐวิสาหกิจก็ต้องมีการพัฒนา ประชาชนก็ต้องมีการปรับปรุงไปด้วย

“อย่าให้มีอีก คราวหน้าจะนุ่งชุดว่ายน้ำอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็ น้ำมันลึกขึ้นไง แหม ทำกันเป็นเรื่องสนุกไปได้ ผมก็สงสารเห็นใจ ป้าๆ ยายๆ คนแก่เขาต้องกันให้เห็นว่าตั้งแต่สาวจนแก่ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องอธิบายว่าให้ท้องถิ่นเข้ามาพูดคุย ผมไม่ได้รังเกียจใครเลย เพราะท้องถิ่นเป็นกลไกที่ประชาชนอยู่ใกล้มากที่สุด เขาสามารถเป็นตัวเองให้พวกเราได้ การทำงานต้องลงไปสู่ข้างล่าง จะต้องมีการชี้แจงด้วยตัวของท่านเอง จะดีกว่าใครคนอื่นชี้แจง ต้องชี้แจงว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคตประชาชนจะได้อะไร วันนี้อาจไม่ได้ วันหน้าอาจไม่ได้” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงการจราจรที่ติดขัดช่วงวันศุกร์ว่า พอรถติดก็ด่าตน มันติดมาเป็นสิบชาติแล้ว ติดมาเป็น 20 ปีแล้ว ก็บ่นกันตั้งแต่ คสช.เข้ามา ไม่เห็นจะทำได้ ให้เอามาตรา 44 มาแก้สิ ไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะใช้มาตรา 44 สั่งน้ำได้ไหมว่าอย่าให้น้ำอย่ามา มันทำไม่ได้ เราต้องวางแผนและชี้แจงให้เข้าใจ ตนถึงบอกว่าวันหน้าต้องขยายเมือง อย่าปล่อยให้แน่นแบบนี้ สร้างทางด่วนก็ไม่พอ วันนี้เรารื้อท่อระบายน้ำได้ไหม รูแค่แมววิ่ง เมืองนอกเขามีอุโมงค์ใหญ่ๆ อุโมงค์มไหสวรรย์ที่เพิ่งเปิด สร้างมากี่ปีแล้ว สังคมก็ประชดประชันเรามาตลอด หลายอย่างเกิดมานานแล้ว แล้วมาเกิดที่สมัยเรา แล้วตนจะรู้ไหมเพราะไม่ได้เป็นคนคิด

“ผมก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในเมื่อเราเป็นรัฐบาล ผิดถูกอย่างไรเราก็รับแทน หลายอย่างที่ผมเซ็นไปเพราะว่ากฎหมายเขียนแบบนั้น ถ้าผมไม่ทำก็เหมือนที่ผ่านมาที่เขาไม่ทำ เพราะฉะนั้นเราจะต้องระมัดระวังเรื่องการทำผิดกฎหมายในมาตรา 157 ละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อท่าน อย่าไปให้ความสำคัญแค่คดีแพ่งและคดีอาญาเท่านั้น จะตกม้าตายเพราะกฎหมายเหล่านี้ ต้องศึกษาดูด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เหนื่อยมากตั้งแต่กลับมาจากสหรัฐ เวียนหัวไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก สมองตื้อ พูดไม่เพราะและไม่ต่อเนื่อง แต่ตนยังไม่บ้าแน่นอน ไม่ต้องกลัว ยังไม่ป่วย



กำลังโหลดความคิดเห็น