ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย เสนอ 5 ประเด็นปฏิรูปพรรคการเมือง แนะควบคุมเงินทุนนอกระบบ ให้องค์กรอิสระอื่นช่วยสอบ เพิ่มบทบาทกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร และทีมจัดทำนโยบาย ใช้ระบบเลือกตั้งชั้นต้นให้ได้คนที่ชาวบ้านต้องการจริง ๆ ให้ประธานสาขามีส่วนเลือกหัวหน้า ชี้ กรรมการบริหารควรคนละตำแหน่ง กับผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง และเพิ่มบทบาทสาขาพรรค
วันนี้ (11 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ตนเห็นว่า การร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ต้องนำไปสู่การปฏิรูปพรรคการเมืองอย่างจริงจัง โดยเสนอ 5 ประเด็น เพื่อทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์แบบที่เป็นอยู่ ประการแรก ต้องควบคุมเงินทุน แม้ที่ผ่านมาจะให้ผู้บริจาคทั้งบุคคลและนิติบุคคลต้องเปิดเผยตัว แต่เงินนอกระบบที่เป็นเงินก้อนใหญ่ตรวจสอบได้ยาก จึงควรเพิ่มบทบาท กกต. ปปง. สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดินมีส่วนร่วมในการตรวจสอบกิจกรรมการเงินของพรรคการเมืองมากขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวว่า ประการที่สอง เพิ่มบทบาทของกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ให้สามารถถ่วงดุลอำนาจของหัวหน้าพรรคในการรับรองผู้สมัครของพรรค และเพิ่มบทบาทของกรรมการจัดทำนโยบายพรรค และกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรคมากขึ้น ประการที่สาม ใช้ระบบ Primary Vote หรือการเลือกตั้งชั้นต้น เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ประชาชนต้องการจริง ๆ และแก้ปัญหานายทุน หรือเจ้าของพรรคล็อกโควตาให้คนของตัวเอง และสมาชิกพรรครวมทั้งประธานสาขาพรรคควรมีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ประการที่สี่ กรรมการบริหารพรรคควรเป็นคนละคณะกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการครอบงำ และกรรมการต้องยึดโยงกับสมาชิกพรรค สมาชิกพรรคสามารถควบคุม ถ่วงดุลการทำงานของกรรมการบริหารได้ ประการที่ห้า เพิ่มบทบาทและการมีส่วนร่วมของสาขาพรรคเพื่อให้สาขาพรรคเป็นกลไกเชื่อมโยงที่ต่อเนื่องระหว่างพรรคกับสมาชิกพรรค ซึ่งจะทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค และกำหนดให้มีสาขาพรรคโดยเทียบเคียงกับจำนวนสมาชิกพรรค
