xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” รับวิ่งวันคู่-คี่ทำไม่ได้ จ่อแก้กฎหมาย เล็งห้าม จยย.ท้องถิ่นวิ่งถนนใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
“ประวิตร” ถกคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ รับแก้ปัญหาจราจรไทยคงไม่ไหว อ้างมันแน่น เผยวางแผนให้เดินทางสะดวก เน้นขนส่งสาธารณะ จะตัดถนนเพิ่ม รับวิ่งวันคู่-คี่ทำไม่ได้ แนะขึ้นรถไฟฟ้าบ้าง บอกวันอาทิตย์รถไม่ติดชาวบ้านอยู่บ้าน เตรียมแก้กฎหมายเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ออกใบขับขี่ยากยึดง่าย เข้มรถสาธารณะคาดเข็มขัดนิรภัย ให้เสร็จใน 5 เดือน จ่อคุม จยย.ไม่ให้วิ่งถนนใหญ่

วันนี้ (31 ส.ค.) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการนโยบายฯ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าร่วมในการประชุม

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวก่อนเข้าประชุมถึงการเตรียมแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุและบริบททางสังคมว่า มันต้องดี ถ้าไม่ดีเขาคงไม่แก้ ปภ.กำหนดชัดเจน เพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมถึงภัยพิบัติ แผ่นดินไหวต่างๆ ที่มันมาได้หลายรูปแบบ ส่วนปัญหาการจราจรของประเทศไทยขณะนี้ยอมรับว่าคงจะแก้ไม่ไหวเพราะมันแน่น แต่ไม่ใช่เราไม่แก้ รัฐบาลวางแผนไว้หมด ในเรื่องของระบบรถไฟฟ้า การจัดระเบียบรถตู้ และรถเมล์โดยสาร รวมถึงเส้นทางต่างๆ ที่สร้างมากขึ้นที่จะรองรับปัญหาดังกล่าวในอนาคต รัฐบาลทำทุกอย่างไม่ได้นิ่งเฉย เราคิดไว้เสมอ วางแนวทางภาคพื้นดินทั้งหมด ระบบขนส่งทางอากาศก็มีการขยายด้วยเมื่อรถติดเราต้องหาหนทาง เช่น ให้ประชาชนเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่รัฐบาลทำมากขึ้นก็เพื่อรองรับในอนาคต

“ผมจะไปบอกว่า ให้แก้จราจรไม่ให้ติดภายในวันนี้ มันทำไม่ได้ การประชุมวันนี้ ผมจะเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาหาทางแก้ไข วางแผนในอนาคต สนับสนุนให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ตำรวจก็พยายามนำเจ้าหน้าที่ออกมาทำงานวางแผนทุกพื้นที่ อย่างน้อยที่สุดประชาชนเมื่อรถติดก็ยังมีตำรวจอยู่ แต่เราไม่สามารถทำอย่างที่ท่านนายกฯบอกว่า วันนี้รถเบอร์คี่วิ่ง อีกวันรถเบอร์คู่มาวิ่ง มันทำไม่ได้ คนไทยห้ามไม่ได้ แต่เราก็พยายามทำทุกอย่าง ดังนั้นประชาชนที่จะใช้รถส่วนตัว ขณะนี้มีรถไฟฟ้าที่ไปมาหาสู่กันแล้ว ไปขึ้นรถไฟฟ้าบ้าง เพื่อลดปัญหา รัฐบาลก็พยายามจะตัดถนนให้มากขึ้น แต่จะไปรื้อบ้านประชาชนเพื่อทำถนนมันเป็นไปไม่ได้ ยืนยันว่า รัฐบาลทำทุกอย่างให้ประชาชนในเรื่องระบบการขนส่ง” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำหนดวันที่จะทำให้เห็นเด่นชัดหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็วันอาทิตย์ไงเพราะประชาชนอยู่บ้านรถไม่ติดอยู่แล้ว แต่ถ้าคนออกมาทั้งหมดรถก็ติด ประชาชนต้องเห็นใจด้วยว่าเราจะโดยสารช่องทางอื่นได้หรือไม่ หากใช้รถยนต์ส่วนตัวมากพลังงานก็เสียมาก เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ผลิตพลังงานหรือน้ำมันได้เอง เราซื้อเขามาทั้งนั้น

ต่อมาในที่ประชุม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สำหรับการพิจารณาแก้ไขกฎหมายมี 5 ประเด็น ได้แก่ 1. เมาแล้วขับ กำหนดอายุผู้ขับขี่ที่ 20 ปี ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต และใบขับขี่ชั่วคราวมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ รวมถึงเพิ่มบทลงโทษกรณีเมาแล้วขับ เพิ่มโทษปรับขั้นต่ำ และให้ศาลมีอำนาจสั่งยึดรถ 2. ขับรถเร็ว จะปรับลดให้เหมาะสมกับสภาพสังคมเมือง และสภาพการจราจรแต่ละพื้นที่ สอดคล้องสภาพถนน รวมถึงเพิ่มบทลงโทษต่อผู้ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด

3. การออกใบอนุญาตขับขี่ ตามมาตรการ ออกยากยึดง่าย ครอบคุลมรถยนต์บุคคลและสาธารณะ รวมถึงเพิ่มโทษกับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต 4. การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำรายงานการตรวจสอบ และบำรุงรักษารถในการเสนอขอต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พร้อมส่งเสริมให้ทำประกันภัยตามความสมัครใจ และ 5. การคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกที่นั่งครอบคลุมรถยนต์ส่วนบุคคล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ จะต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องใน 5 ประเด็นนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบในหลักการเพื่อจัดทำแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ปี 2560-2563 สำหรับเป็นกรอบแนวทางอีกด้วย เพื่อให้เกิดการสูญเสียบนท้องถนนน้อยที่สุด

“ที่ผ่านมาการดำเนินการเราพยายามทำตลอดแต่อุบัติเหตุก็ยังเกิดด้วยสาเหตุที่สำคัญคือเมาแล้วขับ ทำไม่สำเร็จสักที โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์จากถนนท้องถิ่นออกสู่ถนนเส้นหลักแล้วเกิดอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นเราจะมีวิธียังไงเพื่อควบคุมจักรยานยนต์ให้อยู่ภายในถนนระดับท้องถิ่น ไม่ต้องออกมาที่ถนนใหญ่ จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ไม่อยากบังคับใช้กฎหมายหรอก แต่อยากให้ประชาชนเน้นสร้างจิตสำนึกจากระดับชนบท เพราะการบังคับใช้กฎหมายไม่เห็นจะดีเลย ผมก็ขอฝากให้ช่วยดำเนินการด้วย ทุกหน่วยต้องรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าทำได้ก็จะลดปัญหาลงไป” รองนายกฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น