xs
xsm
sm
md
lg

“หมอ ม.” เตรียมจุดชนวน“6 ตุลา 19” โมเดล คว่ำเรือแป๊ะ–ถอนแค้น “อำมาตย์”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

ทักษิณ ชินวัตร
ป้อมพระสุเมรุ

เปิดหัวปีลิงมาได้ไม่นาน “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รุกหนักเร็วกว่าที่คิด จากเดิมคาดการณ์กันว่าน่าจะมาช้ากว่านี้ เพราะคดีน้องสาวในไส้ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ถึงกับจวนตัวเท่าไหร่ เพราะเพิ่งเริ่มไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ได้ไม่กี่ปาก

กะเก็งกันว่า “นายใหญ่” มาแน่ แต่น่าจะช่วงโค้งสุดท้ายที่คดีน้องสุดที่เลิฟใกล้จะจวนเจียนตัดสิน เพื่อดิ้นไม่ให้น้องหญิงต้องติดซังเตจากคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ละเลยไม่ระงับโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหาย

แต่นี่มาไว ชนิดออกตัวแรง ประสานสำนักข่าวต่างประเทศ รวมไปถึงบรรดา “ล็อบบี้ยิสต์” ทั้งหลายเข้าสัมภาษณ์ เพื่อให้ตัวเองเป็นประเด็นข่าวกินหน้าสื่อช่วงติดๆกัน

เป็นสัญญาณชัดว่า “นายใหญ่” ไม่ได้มาแค่ออกตัวช่วยน้องสาวเรื่องเดียว แต่เป้าหมายน่าจะถึงขั้นหาทางโค่นอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปเลย

ทว่าจะถึงขนาดออกตัวปุ๊บ โค่นปั๊บทันทีทันใดก็เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่า วันนี้เสถียรภาพและอำนาจของ “3 ป.” ทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ยังไม่แกว่งเท่าไหร่

แต่ถ้าตอดเรื่อยๆ จนสุกงอมก็พลิกหงายพลิกคว่ำได้เหมือนกัน โดยเฉพาะปีนี้ที่มีเรื่องให้ “แป๊ะ” ต้องปวดกบาลหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ตลอดจนภาวะภัยแล้ง ที่กำลังเล่นงานหลายจังหวัดในประเทศไทย
 
ถ้าบังเอิญร้อนเป็นไฟพร้อมๆ กันก็พอคว่ำเรือแป๊ะให้จมกลางสมุทรได้เหมือนกัน!

การโผล่พรวดมาของ “นายใหญ่” เที่ยวนี้ มีการวิเคราะห์กันว่า เป็นการฉวยจังหวะช่วงที่รัฐบาลกำลังโดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ทั้งข้อครหาว่าเตะถ่วงเรื่องการแต่งตั้งสังฆราชองค์ใหม่ ตลอดจนทุกข์ร้อนประชาชนเรื่องภัยแล้ง เพื่อแสดงตัวว่า ทุกฝ่ายที่ออกมาต้านรัฐบาลมีความเชื่อมโยงกัน และอยู่ภายใต้การนำของตัวเอง 

เป็นการปรากฏตัวเพื่อส่งสัญญาณว่า ถึงวันนี้ “นายใหญ่” ก็ยังเป็นศูนย์รวมอำนาจของฝ่ายตรงข้ามคสช. ซึ่งหากย้อนอดีตไปดูที่ผ่านๆมา ก็มักจะออกมาเคลื่อนไหวให้เป็นข่าวในช่วงที่ คสช.กำลังเจอมรสุมหลายๆ เรื่องเป็นประจำ

อย่างที่รู้กัน “นายใหญ่” ก็ชักอ่านเกมออก หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอแนะให้ กรธ.ใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกคือ บทเฉพาะกาล กินเวลาประมาณ 5 ปี และช่วงสองคือ บทถาวร ใช้ในระยะยาว ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า “แป๊ะ” ต้องการต่อท่ออำนาจออกไป

และแน่นอนว่า 5 ปีของ “บิ๊กตู่” ในบทเฉพาะกาล มันอาจหมายถึงช่วงเวลาที่ “แป๊ะ” ประเมินแล้วว่า น่าจะเพียงพอต่อการปัดกวาดการเมือง และการถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการรับประกันไม่ให้ถูกอีกฝั่งไล่เช็กบิล หลังจาก “บิ๊กตู่” กระโดดลงจากหลังเสือด้วย

นอกจากนี้ ยังมี ร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. …. ที่เป็นกลไกควบคุมฝ่ายบริหารให้เดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ “แป๊ะ” จัดทำเอาไว้ ดังนั้น ถ้า “นายใหญ่” ไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆ ปล่อยให้กลไกเหล่านี้เกิดขึ้น ดูแล้วในเวลา 5 ปีต่อจากนี้ น่าจะปิดตำนาน “ระบอบทักษิณ” ได้เลย

อีกทั้งน้องสาวในไส้ก็ได้แต่นับเวลาถอยหลัง ตามที่หลายคนเชื่อว่า “รอดยาก” ไหนจะมีเรื่องยึดทรัพย์มโหฬารเป็นแพ็กเกจแถม กระทั่ง “ลูกชายสุดเลิฟ” พานทองแท้ ตลอดจนบริวาร-เครือข่าย ก็มีชนักที่รอวันโดนสอยกันอย่างถ้วนหน้า ถ้าไม่โค่น คสช. ประตูกลับสู่อำนาจก็มืดมิด เหมือนถูก “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ก็ไม่ปาน
 
งานนี้จึงต้องเอากันให้ตายไปข้าง

ตามที่มีข่าวเล็ดลอดออกมา “นายใหญ่” จะเริ่มปลุกกระแสกันไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่บัดนี้ ทุกองคาพยพ ทุกคนที่มีศัตรูเป็นคสช. จะต้องกระทุ้ง ตอดเล็ดตอดน้อยอย่าได้หยุดเพื่อให้เกิดกระแสไม่เอา “แป๊ะ” จุดติด
 
อย่างล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหวของ “หมอ ม.” คนดัง มันสมองยุครัฐบาลไทยรักไทย ป้วนเปี้ยนไปป้วนเปี้ยนมา จนมีข่าวหลุดออกมาว่า กำลังคิดการใหญ่เพื่อหักลำ “แป๊ะ”

ไม่รู้ยังยึดติดกับวันวานเก่าๆ สมัยเป็น “สหาย จ.” หรือไม่ เพราะเกมขับเคลื่อนหนนี้ของ “หมอฝ่ายบุ๋น” หมายมั่นปั้นมือจะใช้ “นักศึกษา” ซึ่งเป็น“ของแสลง” ของทหารเป็นตัวชนอีกครั้ง
 
หวังฉายหนังซ้ำเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

เรื่องของเรื่อง เพราะปีนี้ประจวบเหมาะพอดี 40 ปี “เหตุการณ์ 6 ตุลา” เลยหวังจะอาศัยวันครบรอบ ปลุกพวกแอนตี้ทหาร รังเกียจเผด็จการมารวมตัวกัน โดยเฉพาะนักศึกษาทั้งหลายที่อินกับประวัติศาสตร์ ได้แสดงพลังขย่มรัฐบาล
 
ให้จับตาไปที่นักศึกษา “กลุ่มดาวดิน” ที่วันนี้แปรสภาพเป็น “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่” ที่เครือข่ายมีแทบจะครบทุกภาคแล้วให้ดี จะเป็น “ยังบลัด” ที่คนพวกนี้หวังจะใช้เป็นตัวชนในฉากหน้า

ขณะที่การทำมวลชนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น “คนตัวอ้วน” ขาประจำ อีกมันสมองของ “นายใหญ่” ที่มีเครือข่ายทั้งภาคเอ็นจีโอ และนักศึกษาเป็นคีย์แมนสำคัญ

อาวุธดูดีเบื้องหน้ามีแล้ว ในส่วนของเกมใต้ดินก็ละสายตาไม่ได้ เพราะลือกันว่า “สายเหยี่ยวเดือนตุลา” หลายคนพร้อมเป็นแบ็กอัพให้
 
เป้าหมายใหญ่ก็คือ ต้องการเอาคืน “อำมาตย์” ที่แค้นฝั่งหุ่นกันมา40 ปี!

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น กระแสต่อต้านคสช.ก็ต้องมีเชื้อที่คุกรุ่นใกล้จะจุดติดมาก่อน ดังนั้น ช่วงหลังจากนี้จึงเป็นนาทีของการ “เสี้ยม” จุดกระแสทุกเรื่องที่ คสช.ล้มเหลวมาหมักหมมเอาไว้ ตามที่มีการจับตา กลุ่มต้านน่าจะอาศัยวันครบรอบสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง หาเรื่องจัดอีเวนต์รวมตัวกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะ 22 พฤษภาคม 2557 ที่จะครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจจาก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ที่จะเอามาจั่วหัวดีเดย์กันแน่

ประเด็นแหย่รถถัง ก็ไม่พ้นการรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญในชั้นประชามติ กับอีกเรื่องที่ผสมโรงกันเข้าไปก็ภัยแล้งที่ระส่ำระส่ายกันหลายจังหวัด ซึ่งพรรคเพื่อไทยจ้องตาเป็นมันว่า “แป๊ะ” จะพลาดเมื่อไหร่ เพราะแล้งปีนี้กินระยะเวลายาวนาน มีโอกาสพลาดยาวๆ จนกว่าฟ้าจะเมตตาประทานฝนลงมา

พรรคเพื่อไทย และองคาพยพ ตั้งใจเล่นกับประเด็นความเดือดร้อนของประชาชน เพราะรู้ว่า เรื่องนี้ไม่ต้องเสียเวลาปลุกระดม ประชาชนก็พร้อมออกมากดดันรัฐบาลเองโดยอัตโนมัติ ยิ่งถ้าข้าวยากหมากแพงซ้ำเติมอีก ต่อให้ใหญ่กว่ามาตรา 44 ก็กดไม่อยู่
 
“นายใหญ่” และทีมงาน ปั่นกระแสกันหนัก ล่อทุกดอกทุกครั้งที่มีโอกาส ทำต่อเนื่อง ภาวนาแค่ให้ทุกอย่างประจวบเหมาะก็ทุบและคว่ำ “เรือแป๊ะ” ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น