xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ขอร่วมมือพัฒนาชาติ ย้ำเข้ามาปลดล็อก แนะสอบนโยบายหรูการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ เผยมีคนบิดเบือนการแก้ปัญหารัฐ ขอร่วมมือพัฒนาชาติ เวลาที่เหลือเดินหน้าเต็มที่ ยกสารคดีครอบครัวหาปลา ปลุกธรรมาภิบาล ดีใจหนาวคนไม่ทะเลาะกัน แจงเข้ามาสร้างสังคมคุณธรรม-จริยธรรม ส่งต่อ รบ.เลือกตั้ง ขอ ปชช.ช่วยตรวจนโยบายสวยหรูการเมือง ลั่นเป็นผู้นำชั่วคราวมาปลดล็อกชาติ ยันปีหน้ามีน้ำประปาทุกอำเภอ หวังเอกชนเปิดคอร์สฝึกคนว่างงานรับความต้องการ AEC

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ห้องแพลนนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 2559” โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้มีคนทวงว่ามานานแล้วเมื่อไหร่จะไปสักที ตนเลยต้องแต่งเพลงที่ 2 ออกมา วันนี้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีปัจจัยหลายอย่างในการเปลี่ยนแปลง ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก สถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ทำให้การเจริญเติบโตของประเทศลดลง ล่าช้าโดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งรายได้หลักของประเทศส่วนใหญ่มาจากการค้า การลงทุน ภาษีแต่ในส่วนของประเทศไทย แม้ความเข้มแข็งไม่เพียงพอ ขีดความสามารถในการแข่งขันน้อย แต่ก็สามารถประคับประคองสถานการณ์มาได้ แต่ก็มีคนพยายามบิดเบือนว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตนเข้ามาบริหารประเทศ แต่ยืนยันว่าการที่เข้ามาตั้งใจจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นแก้ไขปัญหาทุกอย่างของประเทศซึ่งไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว โดยประเทศไทยมีเรื่องที่จะต้องปฏิรูปทั้งหมด 11 ด้าน 37 วาระ กับ 2 วาระที่ต้องพัฒนาซึ่งแตกย่อยไปอีกจำนวนมาก ไม่รู้ว่าทำไปถึงชาติหน้าจะหมดหรือไม่ เพราะชาติที่แล้วไม่ค่อยทำกันเลยต้องทำชาตินี้ และขณะที่กำลังดำเนินการก็ยังมีคนมาคอยบิดเบือนจนทำให้การพัฒนาล่าช้า

“ผมพยายามใช้ช่วงเวลาที่วิกฤตขณะนี้มาเป็นโอกาสในการสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในระบบเศรษฐกิจจะต้องพึ่งพาอาศัยกัน และเราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้เพื่อที่จะได้มีที่ยืนในเวทีโลกอย่างมีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี ไม่เช่นนั้นพูดอะไรไปไม่มีใครได้ยิน เพราะประเทศเล็กและเรายังไม่แข็งแรงเพียงพอ เราต้องทำให้ประเทศแข็งแรงให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นด้วยทุกคนร่วมมือกัน ผมเป็นทหารตลอดชีวิต แต่ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้เกิดขึ้นโดยเร็วทุกอย่างผมได้วางแผนงานเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ได้วางพื้นฐานโรดแมปของ คสช. วันนี้มาดูในเรื่องของการปฏิรูปซึ่งอยู่ในระยะที่ 2 ของโรดแมป และขั้นตอนที่ 3 ก็ส่งต่อรัฐบาลหน้าวันนี้ตอนนี้เราอยู่ในช่วงระยะที่ 2 เหลือเวลาอยู่อีก 1 ปี 6 เดือนซึ่งผมไม่เคยบิดเบี้ยว แต่มีปัญหาเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่ของผมเพียงคนเดียว ทุกอย่างโยนมาให้ผมรับผิดชอบทั้งหมด โดยทุกคนจะไม่ร่วมมือไม่ได้เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นของคนไทยทุกคน ดังนั้นจะต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้ความขัดแย้งลดลงและไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าเราทำวันนี้ล้มเหลว วันข้างหน้าจะล้มเหลวยิ่งกว่านี้ เราก็จะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว วันข้างหน้าก็คงต้องต่างคนต่างอยู่อย่างอิสรเสรี ถ้าจะเอาอย่างนี้ก็ว่ากันไป แต่ผมยังยืนยันว่าจะทำงานแบบนี้ด้วยความร่วมมือของทุกคน ผมจะทำตัวเป็นแก้วน้ำที่เต็มแล้วสำหรับคนบางประเภท แต่สำหรับเรื่องที่ไม่เคยรู้ ผมก็จะเป็นแก้วน้ำครึ่งแก้ว ผมเป็นคนแบบนี้ จะรับฟังในสิ่งที่ผมควรจะฟัง สิ่งที่ไม่อยากฟังผมก็ค่อนข้างหงุดหงิดเพราะมันไม่เกิดประโยชน์แก่ผมและประเทศเลย มีแต่จะสร้างความขัดแย้งไปเรื่อยๆ จึงขอร้องให้ช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทำงานจนมากเกินไปซึ่งบางเรื่องก็เป็นแค่นโยบายการขับเคลื่อนทั้งหมด อยู่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดจะต้องลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นได้ บางคนยังไม่รู้ว่าอะไรคือความเหลื่อมล้ำ อะไรคือความเป็นธรรม แล้วจะเป็นนักประชาธิปไตยได้อย่างไร ไม่ใช่อะไรก็ประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว จะต้องมีแต่การเลือกตั้ง

นายกฯ กล่าวว่า ตนได้ดูสารคดีที่มีครอบครัวทำธุรกิจค้าปลากะพงในประเทศหนึ่ง โดยลูกชายคนที่ 2 นำเรือออกไปจับปลา 20 วัน ให้ได้ 1.3 หมื่นปอนด์ เนื่องจากคำนวณค่าใช้จ่ายไว้แล้ว โดยไม่มีการต่อรองอะไรมากกว่านี้จากทางการ ช่วงแรกจับปลาไม่ได้ตามเป้าก็โดนพ่อดุ ขณะที่ตัวเองก็ไปใส่อารมณ์ดุลูกน้อง ดูแล้วนิสัยเหมือนตนเองขี้โมโห เห็นคนขี้เกียจไม่ได้ สุดท้ายพ่อได้สอนว่าอย่าดุลูกน้อง ต้องให้คำแนะนำ เป็นเจ้าของต้องทำงานร่วมกัน นำพาลูกน้องให้เข้มแข็ง ต้องใช้ธรรมาภิบาล ทำให้จับปลาได้ตามเป้า แต่กลับไม่ดูแลปลาที่จับได้ ทำให้ราคาตก ส่งผลให้บริษัทของพ่อเสียชื่อเสียง ทั้งนี้เมื่อจับปลาได้แล้วไว้นานยิ่งทำให้เสีย ก็คล้ายกับข้าวที่เสีย ฉะนั้นต้องรีบขาย บังเอิญลูกอีกคนที่ทำฝ่ายเว็บไซต์กำลังเครียดในการระบายปลาที่จับได้ เมื่อมองไปเห็นหมาตัวหนึ่งจึงโทรศัพท์ไปโรงงานทำอาหารหมาก็ทำให้ขายได้

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขนาดธุรกิจครอบครัวเขายังมีความรับผิดชอบขนาดนั้น ในประเทศไทยจะทำแบบนั้นไม่ได้หรือ ทุกอย่างต้องมีธรรมาภิบาล วันนี้เรากำลังทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่ได้มาทำลายให้มันแย่ลง ฉะนั้นต้องช่วยตนในการสร้างคำอธิบายว่าอะไรจะมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งวันนี้มีปัญหาหลายเรื่องทับซ้อนกัน เมื่อเข้าไปแก้ก็มีผลกระทบหลายด้าน จึงต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการค้าการลงทุน ให้เป็นแบบสากลต่างๆ เพราะเราไม่มีการพัฒนาเรื่องเหล่านี้นานนับ 30 ปี วันนี้ตนต้องจับทุกอย่างมาให้เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งมันสมองของท่านทั้งหลายมีมากกว่าตนเยอะ แต่เกิดไม่ได้เพราะไม่มีฮาวทูดู ถ้าทำได้ประเทศจะก้าวหน้า

นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้อาจจะดีขึ้น อากาศหนาวขึ้นดีใจ ถ้าร้อนมากก็มัวแต่ทะเลาะกัน ใจมันร้อน ฉะนั้นเย็นๆ หน่อยจะได้สบาย ทะเลาะกันน้อยลง วันหน้าถ้าหิมะตกก็จะได้ขยันแบบเขาบ้าง ให้ประเทศที่เขาขยันเพราะอากาศหนาวให้เปลี่ยนไปร้อนบ้าง ดูว่าจะเป็นแบบเราไหม ต้องแลกกันบ้าง ทั้งนี้เราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน คนในประเทศต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการสร้างเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งต้องดูที่โครงสร้างรายได้ประเทศ และวันนี้หลายประเทศถอนโรงงานกลับ เป็นโรงงานที่ล้าสมัย แต่เราพยายามดึงเขากลับมาใหม่ จึงมีมาตราการต่างๆ ทั้งเรื่องการให้เช่าที่ดินต่างๆ แต่กลายเป็นว่ารัฐบาลมุ่งเอื้อประโยชน์คนรวย

“ผมสรุป คนรวยคือคนรวย คนมีรายได้ปานกลางก็ปานกลาง คนจนก็คือคนจน จะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกเหรอ วันนี้รัฐบาลจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นขับเคลื่อนขึ้นมาหลายคณะ สิ่งสำคัญของประเทศไทยคือต้องแก้กฎหมายให้ทันสมัย ในเชิงบูรณาการ ทุกคนอยากให้ผมใช้มาตรา 44 ทุกเรื่อง จะให้ใช้เพื่อยางราคาขึ้นมันสั่งใครวะ สั่งยางได้หรือเปล่า สั่งตลาดได้หรือเปล่า สั่งให้คนไม่ตายได้หรือเปล่า ไม่รู้ รวมไปถึงเรื่องจราจรด้วย โดยที่ผมสั่งเพราะให้คนเกรงใจกฎหมายตัวนี้ เพื่อจะได้ไม่ทำ แต่ก็ห้ามความคิดคนไม่ได้ กลับคิดว่ามาตรา44ดูแลการจราจร ในช่วงปีใหม่ทำให้คนตายมากกว่าเดิม บ้างอ้างว่าทำให้คนมีความสุขเที่ยวกันเยอะ เศรษฐกิจดีมีเงินเที่ยว โทษกันไปหมด ยกเว้นคนที่ตายไปแล้ว แต่ญาติพี่น้องมาโทษผม หาว่ารัฐบาลประกาศวันหยุดนานเกินไป แต่พอตำรวจตั้งด่านก็หาว่าละเมิดสิทธิ มันจะเอาอะไรกัน มันต้องมีได้มีเสีย มีการตรวจสอบถ่วงดุล เพราะคนดีๆ มีเยอะ ถ้าไม่เอื้อประโยชน์สมยอม การทุจริตก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ วันนี้เราพยายามทำให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด รัฐต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้ ไม่ใช่โทษกันไปมา ถ้าอยู่แบบนี้ก็เป็นอย่างเดิม” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า หลายครั้งทูตต่างประเทศเข้าพบก็ถามเรื่องการเลือกตั้ง ว่าจะมีปัญหากับการเป็นสมาชิกถาวรระหว่างประเทศหรือไม่ แต่เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน แต่เกี่ยวกับท่านว่าจะยอมรับการสมัครเลือกตั้งดังกล่าวหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะเอาเรื่องทั้งหมดมาโทษตน ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว เพราะคนไทยไม่ชอบการบังคับ เราต้องดูกันด้วยสังคมแห่งความสงบสุข คนต้องอยู่ด้วยกฎหมายและสร้างความปรองดองระหว่างกัน ซึ่งต้องดูว่าสังคมแบบนี้จะบีบให้คนที่ไม่ดีอยู่ไม่ได้หรือไม่ คนดีคือคนที่ไม่ทำความผิด เรากำลังสร้างสังคมให้มีคุณธรรม สร้างองค์กรให้มีจริยธรรม มีธรรมาภิบาล เพื่อเตรียมการไว้สำหรับรัฐบาลเลือกตั้ง วันนี้ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลทำเต็มที่เพื่อวางรากฐาน ซึ่งในระยะที่สองของการปฏิรูปทั้งหมดต้องเดินด้วยแผนยุทธศาสตร์ 20ปี แต่วันนี้ทำไปกับติดปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้ทุกอย่างไปไม่ได้ คนไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง วันนี้เราทำ 3 อย่าง คือ บริหารราชการแผ่นดินแบบบูรณาการ แก้ไขระบบบริหาราชการแผ่นดินใหม่ ห้ามมีผลประโยชน์ทับซ้อน นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องการสร้าง แต่กลับถูกขัดขวาง ถามว่าที่ผ่านมานั้น ดีนักหรืออย่างไร แล้วที่ตนทำนั้นผิดตรงไหน

นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะแก้ไข พ.ร.บ. การใช้งบประมาณใหม่ โดยรัฐบาลหน้าจะต้องประชุมก่อนเพื่อจัดทำงบประมาณ โดยงบประมาณปกติต้องลดลง และต้องพูดถึงงบประมาณตามแผนการปฏิรูปหรืองบประมาณเร่งด่วนของรัฐบาลด้วย โดยทุกกระทรวงต้องหารือร่วมกันให้มีคณะกรรมการขึ้นมาชุดเดียวเพื่อความสอดคล้อง ส่วนโครงการใดที่ไม่สำคัญหรือไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนก็ให้ตัดออกไปก่อน ส่วนนักการเมืองตนไม่ยุ่งด้วย ขอแค่ให้นึกถึงประเทศ วันนี้ที่หลายประเทศมีความมั่นคงเพราะว่ามียุทธศาสตร์ในการพัฒนา แต่ทุกอย่างของไทยกลับเป็นนโยบายของพรรคการเมืองเป็นส่วนใหญ่ เป็นนโยบายสวยหรูบ้างก็ทำ บ้างก็ไม่ได้ทำ และไม่มีใครคอยจับต้องว่านโยบายเหล่านั้นพรรคการเมืองได้ทำหรือไม่ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้พรรคการเมืองทำตามนโยบาย ตนไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ แต่วันนี้สืบเพราะใคร ถ้าไม่สืบเพราะประชาชน ให้ประเทศแข็งแรง ไม่ต้องมีการเสียเงินใต้โต๊ะ ตนกำชับในทุกอย่างโดยไม่ปล่อยให้มีการทุจริต

นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาการบินพลเรือนระหว่างประเทศ และการประมงผิดกฎหมายนั้นเป็นปัญหาเดิมมาหลายปีแล้ว รัฐบาลพยายามแก้ไขทุกอย่าง ทั้งแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ ซึ่งในเรื่องของประมงได้มีการเจรจากับกลุ่มประเทศอาเซียนเกี่ยวกับการร่วมทุน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เราโดนใบเหลืองไม่ใช่เพราะอะไรหรอก แต่เป็นเพราะมีคนไปพูดว่าตนเข้ามาเป็นรัฐบาล ทั้งที่เป็นการเข้ามาแก้ไขปัญหา ตนทำเพื่อประชาชน และถึงเวลาก็จะออกไปอยู่แล้ว แต่วันนี้ปัญหาเยอะแต่ก็จะทำเท่าที่จะทำได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะนี้มี 7-8 พันหมู่บ้านที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้ ยืนยันว่าภายในปี 2560 ตนจะทำให้มีน้ำประปาใช้ทุกหมู่บ้าน ไม่เช่นนั้นประชาชนจะเข้าไม่ถึงน้ำที่สะอาดตามหลักการของ ยูเนสโก และสหประชาชาติ การจะลงทุนอะไรก็ตามในเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องมีการแก้กฎหมายทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าสั่งแล้วจะเกิดขึ้นได้เลย ต้องไปดูกันว่าทำอย่างไรแล้วประชาชนในพื้นที่ไม่เดือดร้อน ต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาพูดจากัน ซึ่งปัญหาหลักๆ คือ กลุ่มคนจากภาคประชาชนที่มาต่อต้านด้วยความไม่เข้าใจ ก็พูดกันแต่เรื่องที่เป็นปัญหาว่าทำอย่างนี้แล้วจะเกิดอย่างนั้น แต่เรื่องดีๆ ไม่พูดกัน ซึ่งเราต้องช่วยกันว่าจะทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็ติดกันอยู่อย่างนี้

“พลังงานต่างๆ เราซื้อเข้าจากต่างประเทศหมด แล้ววันหน้าจะอยู่กันอย่างไร ทุกอย่างที่เป็นพลังงานเราต้องซื้อเขา วันหน้าถ้าเขาเลิกขายเราก็จบ คนไทยเป็นประเภทที่บอกให้ไม่ต้องสร้าง สร้างแล้วมีผลกระทบกับอากาศ รอบบ้านเขามีหมดก็ซื้อเขาสิครับ สบาย ต่อสายไปอย่างเดียว คิดอย่างนี้ได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจ วันหน้าความเสถียรของพลังงานไฟฟ้าจะทำยังไง” นายกฯ ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ถ้าจะให้ไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงแดด หรือลม คงไม่ได้เพราะบ้านเราลมไม่แรงพอ และต้นทุนสูง ซึ่งต้องเข้าใจตรงกัน แม้หลายคนจะเสนอรัฐบาลแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าจะทำก็เกิดปัญหาต้องเสียเงินกู้มากมาย แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลก็เสียเวลา แต่ถ้าท่านอยากเสี่ยงทำก็ตามใจ ปัญหาต่อไป คือ ถ้าเราไม่ใช้พลังงานที่มีความเสถียร เรายังไม่ไปถึงตรงนั้น แต่ประเทศอื่นเขาพัฒนาไปไกลกว่าเรา แต่เรายังไปไม่ได้ เราก็ต้องทำอย่างนี้ไปก่อน แต่ต้องควบคุมคุณภาพให้ดี แต่ตนไม่ได้เข้าข้างใคร นี่คือปัญหาของบ้านเรา ความเข้าใจ การบิดเบือน สิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งไม่ได้สอนให้เรียนหนังสือจบ ต้องสอนให้คนที่เรียนแล้วเอามาใช้ให้เป็น ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใ่เรียนมาแล้วนั่งเล่นเกม เล่นโทรศัพท์อยู่บ้านเพราะไม่รู้จะทำงานอย่างไร ทำไม่เป็น เขาก็ไม่รับทำงาน

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ตนอยากฝากภาคธุรกิจด้วย ในเรื่องการเรียนรู้อาจมีการเปิดคอร์สสั้นๆ นำผู้ที่เรียนจบไปแล้วแต่ไม่มีงานทำ มาฝึกในสิ่งที่เขามีศักยภาพเพื่อต่อยอดให้ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการ ในส่วนนี้จะสามารถตอบคำถาม อาชีพที่ขาดของ AEC นอกจากนี้ สำหรับนักศึกษาปี 4 ที่กำลังจะเรียนจบต้องมีตัวเลือกให้เขาว่าจบไปแล้วจะทำงานอะไร มีตำแหน่งอะไรรองรับ รวมถึงธุรกิจที่เกิดขึ้นว่าเพียงพอที่จะรองรับหรือไม่ ต้องดูที่ดีมานด์-ซัปพลายด้วย หากไม่พอจะส่งไปต่างประเทศได้หรือไม่ รัฐบาลจะได้มีการเจรจา รัฐต่อรัฐเพื่อส่งคนเหล่านี้ไปแลกเปลี่ยนกับเขา เรื่องการลงทุนต่างๆ ทราบอยู่แล้วว่าปีนี้มีการลงทุนไปหลายโครงการ ต้องดูกันในเรื่องความโปร่งใส เราก็มีองค์กรอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว มีสัญญาคุณธรรม แต่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ ไอ้นี่ก็ไม่อยากเข้า ไอ้นั่นก็อยากเข้า ทำไมถึงหาจุดร่วมกันไม่ได้ ตนไม่เข้าใจ ทุกคนพยายามรักษาบทบาทของตนเองเสมอ ทั้งที่ไม่มีการทุจริต แต่ก็ต้องรักษาตรงนี้ไว้ พลเรือนก็ไม่ไว้ใจ ต้องเข้าไปให้ได้ มันก็ตีกันอยู่แบบเดิม มันจะหาความร่วมมือไม่ได้เชียวหรือประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ตนอยากให้ปีหกเดือนอะไรที่กันได้ทำเลย ถ้าเอามาสิบปัญหาสิบเรื่องมันตีกันทั้งสิบปัญหา ต่อไปถ้าไม่เสร็จก็ใส่ไปในรัฐบาลหน้า อย่าไปฟังใครเขาพูดตนไม่ต้องการอำนาจผลประโยชน์สักอย่างต้องช่วยกัน บริษัทใหญ่ๆ ต้องเกื้อหนุน สงสารคนจนเกษตรกรในเรื่องต้นทุนการผลิต เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยแพง ค่าเช่านา ถ้าฝนแล้งน้ำท่วมเกษตรกรก็ต้องเสียค่าเช่า ถ้าไม่เสียก็ไปให้คนอื่นเช่า เราจะเอาเปรียบไม่ได้ รวยไม่รู้จะรวยอย่างไรแล้ว ตนกำลังแก้ปัญหาเรื่องสัญญาเช่าที่ต่างๆ และ พ.ร.บ.ทวงหนี้ เรื่องนายทุนผลประโยชน์ต่างๆ ตนคิดทุกวัน เมื่อคืนตื่นมาตี 3 นอนไม่หลับต้องมาเขียน ไม่เคยคิดถึงเรื่องอื่น คิดแต่เรื่องแม่น้ำห้าสาย มันทำไมยุ่งจริงๆ ประเทศไทย ไม่คิดว่าจะมีปัญหามากขนาดนี้ มาทำเองถึงรู้ เพราะต่างคนต่างความคิดและหวังดีทั้งหมด แต่หวังดีไม่เจอกัน ต้องแสวงหาทางออกร่วมกันให้ได้โดยสันติ เราก็ให้เวลาเปลี่ยนผ่าน เพียงแต่ต้องยอมรับในการเปลี่ยนบ้าง ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนแปลงเฉพาะสภาอุตสาหกรรม ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้คนอื่นคล้อยตามให้ได้ถึงจะเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ตนคงไม่ใช่ผู้นำแบบนั้น ตนเป็นเพียงผู้นำชั่วคราวมาปลดล็อกประเทศเท่านั้นเอง คนรุ่นเก่ากำลังทำให้คนรุ่นใหม่เอาใหม่เถอะ ลูกหลานจะได้มีอนาคต












กำลังโหลดความคิดเห็น