กระทรวงแรงงานมะกันชื่นชมรัฐบาลไทยปรับขึ้นจากระดับที่มีความก้าวหน้าปานกลาง ในปีก่อน เป็นระดับที่มีความก้าวหน้าอย่างสำคัญ ย้ำทางมีความก้าวหน้ามากในประเด็นขจัดการใช้แรงงานเด็ก
วันนี้ (1 ต.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับสถานการณ์และการจัดการการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบเลวร้ายที่สุด (Findings on the Worst Forms of Child Labor) ประจำปี ค.ศ. 2014 ซึ่งประเมินความพยายามและผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของ 140 ประเทศทั่วโลก
รายงานดังกล่าว ปรับประเทศไทยขึ้นจากระดับที่มีความก้าวหน้าปานกลาง (Moderate Advancement) ในปีก่อน เป็นระดับที่มีความก้าวหน้าอย่างสำคัญ (Significant Advancement ซึ่งเป็นระดับสูงสุด) เนื่องจากไทยสร้างความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมสำคัญๆ 5 ประการ ได้แก่ (1) แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็ก (2) ออกกฎกระทรวงแรงงานกำหนดอายุขั้นต่ำของแรงงานในภาคเกษตรและภาคประมง (3) จัดสรรงบประมาณของรัฐบาลไทยเพื่อยุติการใช้แรงงานเด็กและสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (4) ตรวจแรงงานเชิงรุกโดยทีมสหวิชาชีพ (5) ปฏิบัติตามแผนระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2552-2557 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2558-2563
ทั้งนี้ ในปีนี้มีเพียง 13 ประเทศที่ถูกจัดอยู่ในระดับ Significant Advancement โดยรายงานฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริการับทราบความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กของรัฐบาลไทย และตระหนักถึงพัฒนาการความคืบหน้าที่ไทยสร้างขึ้นเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนเห็นว่าไทยได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานภาครัฐกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กด้วย
นายทรงศัก สายเชื้อ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประเมินครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญทำให้ไทยได้รับการจัดอันดับค้ามนุษย์ในอันดับที่ดีขึ้น ส่วนการเสนอให้ไทยหลุดพ้นจากการถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำสินค้าใน 4 รายการ คือ อ้อยและน้ำตาล เครื่องนุ่งห่ม กุ้ง และปลานั้น จะมีการเสนอขอปลดล็อคการขึ้นบัญชีดำ ซึ่งสหรัฐฯจะมีการพิจารณาในกลางปี 2559 โดยคาดว่าสินค้าอ้อยและน้ำตาลจะเป็นสินค้ารายการแรกที่มีโอกาสได้รับการปลดล็อค
